7 วิธี กลวิธี กลเม็ด การศึกษา การอ่าน การอ่านหนังสือ ความคิด คำนำ จัดการหนังสือ จินตนาการ ทริค พจนานุกรม วรรณกรรม วัยรุ่น สารบัญ หนังสือ หนังสือยาก เคล็ดลับ เรื่องง่าย ไลฟ์สไตล์

7 วิธีจัดการหนังสือยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย

Home / Book Tips / 7 วิธีจัดการหนังสือยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย

          แม้ว่านักอ่านจะมีประสบการณ์การอ่านหนังสือที่มากมายและหลากหลายก็จริง แต่ด้วยโลกใบนี้มีหนังสืออีกมายที่รอให้เราไปค้นพบ ซึ่งหนังสือหลายเล่มอาจยากเกินความเข้าใจ หรือไม่ไหวต่อการรับมือ ถ้าสังเกตดีๆ หนังสือยาก เรามักจะอ่านช้า ด้วยเนื้อหา ภาษา และการใช้คำที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน หลายคนพยายามตั้งใจอ่านเพื่อประโยชน์ต่อความคิด จินตนาการ หรือการศึกษาของตัวเอง แต่กว่าจะไปถึงจุดจบของหนังสือเล่มนี้ มันช่างยากและลำบากเหลือเกิน จนหลายคนอาจท้อแท้ และหมดกำลังใจในการอ่านไปดื้อๆ
          7 วิธีต่อไปนี้ที่กำลังจะแนะนำ คือเคล็ดลับชั้นดีของนักอ่านที่ต้องการต่อกรกับหนังสือยากๆ ให้ไปถึงฝั่งฝันจนจบเล่ม เพราะเราเชื่อว่า นักอ่านทุกท่านมีแรงฮึด แต่ต้องการตัวช่วยเสริมเพื่อให้การอ่านคล่องตัวมากขึ้น เราเลยมาบอกทริคนี้เพื่อเป็นอีก 1 กำลังใจให้กับนักอ่านทุกคนที่กำลังอ่านหนังสือยากอยู่ในตอนนี้

          อ่านเข้าใจที่ไหน ยึดที่นั่นไว้
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเรื่องของสถานที่และฮวงจุ้ยในการอ่าน ทำเลใดที่ทำให้เราอ่านหนังสือได้อย่างเข้าใจ ยึดหัวหาดนั้นไว้ให้มั่น อาทิ มุมในห้องสมุดที่เราชอบ โต๊ะในห้องนอน ฯลฯ การจองพื้นที่ทองเหล่านั้นไว้ ก็เพื่อโฟกัสการอ่านหนังสือของเราให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเนื้อหายิ่งยาก ต้องยิ่งโฟกัสและใช้สมาธิเป็นพิเศษ ซึ่งพื้นที่ที่ให้ความเข้าใจและความสงบเงียบกับเราได้ คือการเอาชนะหนังสือยากไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ที่เหลือคือความตั้งใจของคุณแล้วแหละว่า จะต่อสู้กับมันไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
          เก็บพจนานุกรมไว้ข้างตัว
          ขณะที่อ่านหนังสือยาก คุณต้องเจอแน่ๆ ตัวอักษรที่ไม่เข้าใจ คำที่ไม่คุ้นตา หรือสำนวนที่ไม่เข้าใจความหมาย การมีข้อมูลอ้างอิงไว้ข้างตัวก็ถือเป็นการช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหายากๆ นั้นได้อย่างทันท่วงที แล้วอะไรที่จะหาข้อมูลเหล่านั้นได้ดีไปกว่าพจนานุกรมที่มีคลังคำศัพท์อยู่อย่างมากมาย เมื่อคุณเจอคำและสำนวนไม่เข้าใจเหล่านี้ ให้รีบเปิดหาและบันทึกเก็บไว้ อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งสร้างความไม่เข้าใจมากขึ้น จนคุณล้มเลิกการอ่านหนังสือเล่มนี้ไปเสียเฉยๆ และเมื่อเจอคำและสำนวนเหล่านี้อีกในเล่ม คุณสามารถเข้าใจความหมายจากสิ่งที่จดได้เลย

          สารบัญและคำนำ ช่วยท่านได้
          นักอ่านหลายท่านรีบเร่งกับการอ่านหนังสือนั้นให้จบด้วยการเปิดไปยังหน้าเนื้อหาเลย แต่กับหนังสือยากๆ แนะนำว่าไม่ควรเปิดอ่านหน้าเนื้อหาก่อน เพราะนอกจากคุณจะเจอกับความงงเป็นไก่ตาแตกแล้ว คุณอาจจะพับโปรเจ็คท์การอ่านนี้ไปตั้งแต่บทแรกซะก่อน ดังนั้นให้สมองได้ปรับและทำความเข้าใจกับหนังสือเล่มนี้ก่อน ด้วยการสำรวจสารบัญคร่าวๆ รวมไปถึงอ่านคำนำของหนังสือ เพราะคำนำคือเรื่องย่อทั้งหมดของหนังสือว่าคุณจะต้องเจอกับอะไร และสารบัญคือหัวข้อที่เราจะเจอภายในเล่ม ซึ่งหนังสือยากต้องศึกษาคำนำให้เป๊ะ ดูหัวข้อสารบัญให้ชัวร์ เพื่อการวางแผนการอ่านที่ดี
          อย่าอ่านข้ามหรือพอผ่านตา
          เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ หลังจากที่ได้หนังสือยากๆ มา หลายคนเลือกที่จะอ่านแบบข้ามๆ หรือให้พอผ่านตา เพราะเข้าใจว่า น่าจะรู้เรื่องของหนังสือเล่มนั้นได้ประมาณหนึ่ง แต่เชื่อเถอะ ส่วนใหญ่แล้ว อ่านแบบนั้นไม่รอดสักราย เพราะการอ่านแบบข้ามๆ นอกจากจะปะติดปะต่อและเชื่อมโยงเรื่องไม่ได้แล้ว ยังเพิ่มความไม่เข้าใจในเนื้อหาที่อ่านให้หนักขึ้นไปอีก แถมยังพลาดจุดสำคัญที่หนังสือต้องการจะสื่อสารอีกด้วย อย่างที่เรียนไปว่า หนังสือยากต้องการแผนที่ดี คำนำและสารบัญช่วยคุณได้ในเบื้องต้นที่จะทำให้คุณรู้เนื้อหาภายในที่กำลังจะอ่านต่อไป

          อย่ามุทะลุอ่าน ถ้าเริ่มล้าหรือไม่เข้าใจ
          หนังสือยากต้องใช้เวลา ดังนั้นความเร็วไม่ได้ช่วยอะไรในการอ่านหนังสือแบบนี้ หากอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่แล้วรู้สึกได้ถึงอาการล้าและเริ่มไม่เข้าใจสารที่เขาต้องการจะสื่อ ให้หยุดอ่านสักครู่ ไปทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อผ่อนคลายความคิดของตัวเอง เช่น กินขนมเบาๆ จิบน้ำส้มสักแก้ว หรือขยับร่างกายให้รู้สึกสดชื่น ประมาณสัก 5-10 นาที แล้วค่อยกลับมาอ่านใหม่ การพักนี้จะช่วยรีชาร์จการอ่านของคุณให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และพร้อมรับมือกับเนื้อหายากที่กำลังจะเจอต่อไป
          หยุดอ่านนานไปเป็นเรื่องไม่ดี
          หนังสือยากต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและการอ่านอย่างต่อเนื่อง หากดูเหมือนหนังสือเล่มนี้จะยากเกินไป แล้วคุณปิดตายหนังสือเล่มนี้ไปนานๆ แล้วคิดว่า เดี๋ยวค่อยมาอ่านใหม่ คงต่อติดและเข้าใจ ขอบอกได้เลยว่า ยากมาก เพราะ ความคิดที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ของคุณจะขาดห้วงเป็นช่วงๆ หรือหายไปแบบกู่ไม่กลับเลยล่ะ เมื่อคิดจะอ่านหนังสือยากแล้ว ควรอ่านต่อเรื่อยๆ เรื่อยในที่นี้คือ อ่านแบบปกติ ใช้สปีดระดับปกติ และอ่านทุกวันหรืออ่านเวลานี้เป็นประจำ เพื่อให้คุณต่อติดทุกความคิดในหนังสือเล่มนั้นได้

          SOS ขอความช่วยเหลือ
          หากคุณยังมีปัญหากับหนังสือยากเหล่านั้นอยู่อีก ไม่ว่าจะเป็นความไม่เข้าใจ ความสับสน หรืออะไรก็ตามแต่ จงล้างสิ่งที่คุณคิดและรู้สึกถึงหนังสือเล่มนั้นด้วยการถามเพื่อน ผู้เชี่ยวชาญ หรือคุณครู เพื่อตอบความสงสัยหรือสร้างความเข้าใจใหม่ให้เกิดขึ้น เพราะเราเข้าใจว่า บางข้อสงสัยที่คุณคิดได้จากการอ่านหนังสือยากเล่มนั้น อาจต้องการคำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าที่จะเป็นคำตอบทั่วไป เราเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือให้การอ่านหนังสือยากของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น และอ่านจบลงได้อย่างสมบูรณ์

          ย้ำกันอีกครั้งหนึ่งกับสารที่เราพูดอยู่บ่อยๆ ในบทความ นั่นก็คือ หนังสือยากต้องการแผนการอ่านที่ดี ศึกษาหนังสือให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา หัวข้อ ข้อมูลต่างๆ ก่อนการตัดสินใจลงมืออ่านเนื้อหาในเล่มอย่างจริงจัง เพราะมันช่วยให้คุณเอาชนะหนังสือเล่มนี้จนจบได้อย่างสวยงามแน่นอน

          ที่มา : thoughtco