kamolned TellMeWhatYouRead ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว นี่คือสิ่งสำคัญ ยอดมนุษย์ดาวเศร้า อาย กมลเนตร

อาย กมลเนตร นางเอกนักอ่าน กับ 3 เล่มโปรด

Home / Tell Me What You Read, สารพันหนังสือ / อาย กมลเนตร นางเอกนักอ่าน กับ 3 เล่มโปรด

นับเป็นดาราสาวที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ อีกคนของวงการบันเทิง สำหรับนางเอกสาวตาสวย อาย กมลเนตร ที่มีผลงานละครลาจอไปอย่างเรื่อง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” งานแสดงก็เลิศ งานด้านหนังสือก็เด่น อายเคยมีหนังสือเป็นของตัวเองแล้วนั่นคือเรื่อง “ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา” ด้วยนิสัยรักการอ่านนี่เอง ทำให้อายเลือกจะแชร์ความรู้สึกหลังจากอ่านหนังสือแต่ละเล่มผ่าน Instagram @kamolned อินสตาแกรมส่วนตัวของเธอเอง โดยติดแฮชแท็ก #komolread ให้แฟนๆ ได้ติดตามอ่านอีกด้วย

หลังจากที่อ่านหนังสือแต่ละเล่มจบลง อายก็จะแชร์ความรู้สึกหรือข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนั้นๆ เพื่อให้แฟนๆ ได้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเธออีกด้วย โดยหนังสือที่อายเลือกอ่านนั้นบางเล่มก็เป็นหนังสือนิยายหรือวรรณกรรมสุดฮิตตลอดกาล บางเล่มก็เป็นหนังสือแนวปรัชญาคือการทำความเข้าชีวิต ซึ่งอายก็จะแสดงความเห็นต่อหนังสือแต่ละเล่มต่างกันออกไป หนังสือ 3 เล่มต่อไปนี้เป็นหนังสือที่อายอ่านและแสดงความเห็นไว้อย่างน่าสนใจมาก มีอะไรบางไปดูกัน!!

ยอดมนุษย์ดาวเศร้า
หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของตัวละครทั้ง 9 ตัว เป็นการ์ตูนประกอบทสนทนาที่จะพาคุณไปทำความรู้จักกับชีวิต ความคิด การตัดสินใจต่อชีวิตเมื่อเผชิญเรื่องราวต่างๆ ของตัวละครทั้ง 9 ที่สุดท้ายก็มาเชื่อมโยงกัน

แน่นอนว่าแม้จะเป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยการ์ตูนลายเส้น แต่ไม่เหมาะกับเด็กหรือเยาวชน หากคุณกำลังสิ้นหวัง เศร้า หรือเป็นคนเศร้าที่อยากมีความสุขลองมาเรียนรู้ชีวิตของตัวละครทั้ง 9 นี้ดูสิ

อาย กมลเนตรได้แสดงความเห็นหลังจากอ่าน “ยอดมนุษย์ดาวศร้า” จบลงด้วยว่า “ไดอะล็อคของตัวละครทำให้คิดอะไรได้เยอะแยะ บางประโยคอ่านแล้วก็จุกๆ อยู่เหมือนกัน”

นี่คือสิ่งสำคัญ
นิยายตลกร้ายที่ว่าด้วยเรื่องของ “วินัย” มนุษย์เงินเดือนที่มีชีวิตเหมือนคนทั่วไปตื่นเช้าไปทำงาน กลางวันแอบงีบหลับ โดนหัวหน้าด่า ชีวิตวนเวียนไปแบนี้ โดยไม่รู้ว่าชีวิตเขาต้องการอะไร กระทั่งวันหนึ่ง มีถุงบัวลอยโผล่มาอยู่ในกระเป๋าของเขา ไม่ว่าจะเอาออกกี่ครั้งมันก็ยังอยู่ นี่คือจุดที่ทำให้ชีวิตของวินัยเปลี่ยนไป เขาเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานจากการเอาบัวลอยไปแจก จนเป็นจุดเริ่มต้นให้วินัยกลับมามองตัวเองและอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ชื่อของ “ภาณุมาศ ทองธนากุล” ผู้เขียนเจ้าของหนังสือดัง “การลาออกครั้งสุดท้ย” ก็การันตีความแสบสันของเนื้อหาได้มากอยู่แล้ว แน่นอนว่า หนังสือเล่มนี้เป็นแนวเสียดสีสังคมเช่นเคย

สำหรับอาย กมลเนตร นั้นเธอกล่าวหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบว่า “แรกๆ ตลกร้าย ท้ายๆ กลายเป็นร้ายลึก! ตลอดเวลาที่อ่าน เห็นภาพเป็นละครเวที แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้ทำเป็นหนังเลย คงจะได้หนังที่มีทีเซอร์บ้าๆ ออกจะเพี้ยนหน่อยๆ แต่มั่นใจว่าถ้าได้ซื้อตั๋วเข้าไปนั่งดูเต็มๆ ตอนจบเราจะยืนขึ้นปรบมือให้ทุกฝ่ายในโรงหนัง และยืนรอจนเครดิตจบ”

ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว (If Cats Disappeared from the World)
คนเราจะเห็นความสำคัญของอะไรสักอย่างก็ต่อเมื่อมันหายไป นิยายจากนักเขียนชาวญี่ปุ่น Genki Kawamura ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในชื่อเดียวกันได้บอกเล่าเรื่องราวของบุรุษไปรษณีย์หนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวันๆ มีเพียง “เจ้ากะหล่ำ” แมวน้อยเป็นเพื่อน จนเมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง ก็มีปีศาจปรากฏตัวขึ้นและบอกเขาว่าจะต่อชีวิตให้เขา หากเขายอมแลกกับสิ่งของบางอย่างรอบตัว 1 ชิ้น ก็จะต่ออายุให้เขาได้ 1 วัน ของแต่ละอย่างค่อยๆ หายไป จนกระทั่งมาถึง “แมว” ถ้าโลกนี้ไม่มีแมวจะเป็นยังไง? แล้วของชิ้นก่อนๆ ที่หายไปล่ะ สำคัญหรือไม่ในวันที่มันไม่มีแล้ว?
นอกจากพล็อตเรื่องน่าสนใจแล้ว การเล่าเรื่องและปรัชญา ความคิดที่แฝงอยู่ในหนังสือเล่มนี้ก็ทำเอาคนอ่านถึงกับต้องหันกลับมาพิจารณาตัวเองว่าอะไรกันแน่ที่สำคัญสำหรับชีวิตของเรา

อาย กมลเนตร ได้แสดงความเห็นหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบว่า “สุดยอด! เป็นนิยายที่สุดยอด เป็นเรื่องของความสัมพันธ์แทรกปรัชญาชีวิตได้อย่างแยบยล รูปประโยคสละสลวย บ้าไปแล้ว!”

นี่เป็นเพียงหนังสือ 3 เล่ม ที่อาย กมลเนตรอ่านและแสดงความเห็นผ่านไอจีของเธอ หากใครอยากติดตามว่าดาราสาวอ่านหนังสืออะไรบ้างไปติดตามกันได้ในอิสตาแกรมส่วนตัวของเธอ เพราะสาวอายอ่านหนังสือเยอะและเขียนถึงเสมอๆ คอหนังสือไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า

ขอบคุณภาพประกอบ IG : @kamolned , www.gossipstar.com