ลองถามตัวเองดูให้ดีๆ ว่าเคยมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งกันบ้างไหม?
IMPOSTER SYNDROME หรือโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง คืออาการที่เราคิดว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถจริงๆ ไม่คู่ควรที่จะได้รับโอกาสต่างๆ ในสิ่งที่ทำอยู่ ทั้งการเรียน การทำงาน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์
เท่านั้นยังไม่พอ คนที่มีอาการนี้ยังคิดว่าความสำเร็จต่างๆ มาจากความโชคดี หรือเพราะมีเส้นมีสาย มีคนช่วยเหลือ และกลัวว่าวันหนึ่งจะมีคนจับได้ หรือมารู้ความจริงว่าเราไม่ได้มีความสามารถอย่างที่คนอื่นคิด (คิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย)
อาการแสดงออกของคนที่มีภาวะนี้ ภายนอกอาจจะดูมั่นใจ แต่ภายในจะคล้ายๆ มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง หรือไม่มีความมั่นใจ คนที่อยู่ในอาการนี้จะประเมินตัวเองผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และต่อให้มีหลักฐานหรือข้อมูลมายืนยันว่าเรามีความสามารถ เราก็จะไม่เชื่อข้อมูลเหล่านั้น
และไม่น่าเชื่อเลยว่าอาการนี้จะพบเป็นส่วนมากในผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในชีวิตสูง อย่างเช่นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ใครหลายคนต่างคิดว่าเค้าเก่ง แต่ความจริงแล้วเค้ากลับไม่ได้คิดว่าตัวเองมีความสามารถเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าจะได้รับรางวัลระดับโลก หรือได้ดำรงตำแหน่งสูงๆ ในองค์กรใหญ่ๆ เป็นเครื่องการันตีความสามารถก็ตาม แต่ที่น่าสนใจก็คือ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเท่านั้น พบได้ในนักเรียน นักศึกษา นักวิจัย นักวิชาการ นักกีฬา คนที่เปลี่ยนงานใหม่ พ่อแม่มือใหม่ หรือคนทั่วไปก็มีโอกาสเป็นได้ทั้งสิ้น
แล้วคนแบบไหนที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคนี้บ้าง
- กดดันตัวเอง มีมาตรฐานสูง ประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่สำเร็จอย่างหนึ่ง จะคิดว่าตัวเองไม่เก่งในสิ่งนั้นทันที
- พวกบ้าพลัง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ คิดว่างานที่ทำจะต้องทำได้ดีกว่านี้ เลยมองว่าสิ่งที่ทำยังดีไม่พอ
- ขาดความมั่นใจ กลัวความผิดพลาด มักจะวิตกกังวลกับสิ่งที่กำลังเผชิญ และกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
- ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง คิดว่าตัวเองต้องทำได้ทุกอย่าง และเมื่อทำไม่ได้ก็จะคิดว่าตัวเองไม่เก่ง แต่จริงๆ แล้ว แต่ละคนย่อมมีความถนัดที่ต่างกัน
- กลัวการเจอสิ่งใหม่ เมื่อทำงานประจำจนชิน จึงกลัวที่จะต้องเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่น แต่ที่จริงแล้วมันคือโอกาสในการก้าวหน้า
แล้วเราจะแก้ไขอาการนี้ได้อย่างไร
- ลองเขียนบันทึกดู ว่าในหนึ่งวันทำอะไรบ้าง บางครั้งเราอาจลืมในสิ่งที่ทำไปในแต่ละวัน
- ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นแผนต่างๆ ระเบียบวิธีการ เพราะถ้าคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็เหมือนบีบตัวเองในการทำสิ่งนั้นๆ
- อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะมันเป็นอาวุธที่ร้ายแรงมาก
- ออกไปเที่ยวบ้าง การได้ปลดปล่อยตัวเองจากชีวิตประจำวันเดิมๆ เป็นการผ่อนคลายเพื่อการเริ่มต้นสู่สิ่งต่างๆ ต่อไป
ใครที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ขอให้หยุดความคิดนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ การที่เราจะพัฒนาตัวเองให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ต้องอาศัยตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ อย่าลืมว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดีไม่แพ้กันนั่นคือการอ่านหนังสือ เพราะเนื้อหาในหนังสือส่วนใหญ่จะถูกถ่ายทอดมาจากคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า หากเลือกทำตามคำแนะนำในหนังสือ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมเป็นบวกมากกว่าลบแน่นอน ลองเข้าไปดูกันได้เลยที่ store.mbookstore
แหล่งที่มา : themuse / en.wikipedia