วรรณกรรมเยาวชน วันเด็ก วัยเด็ก อ่านหนังสือ

ย้อนวันวานไปกับ 5 วรรณกรรมเยาวชนสุดประทับใจ ต้อนรับวันเด็ก

Home / สารพันหนังสือ / ย้อนวันวานไปกับ 5 วรรณกรรมเยาวชนสุดประทับใจ ต้อนรับวันเด็ก

          “วัยเด็ก” วัยแห่งความทรงจำและความประทับใจ ทุกคนต่างมีเรื่องราวในวัยเด็กที่ไม่เคยลืม เชื่อเลยว่าหากให้นึกถึงสิ่งที่อยากทำมากที่สุด สิ่งที่หลายคนอยากทำก็คือการได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะไม่ต้องคิดอะไรเยอะเหมือนตอนเป็นผู้ใหญ่ อยากจะทำอะไรก็ทำได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงผลที่จะตามมา ที่สำคัญวัยเด็กนี่แหละเป็นวัยแห่งการจินตนาการอย่างแท้จริง จะว่าไปการเป็นเด็กก็น่าจะมีความสุขที่สุดแล้ว และคำขวัญวันเด็กในปีนี้ก็คือ รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี

          แต่ในความเป็นจริงเราคงย้อนเวลากลับไปไม่ได้ การได้อ่านหนังสือวรรณกรรมเยาวชนดีๆ สักเล่ม น่าจะช่วยย้อนบรรยากาศและภาพวันวานในวัยเด็กของเราได้ดีเลยล่ะ งั้นเรามาย้อนวัยด้วยการ “อ่าน” เพื่อต้อนรับเทศกาลวันเด็กแห่งชาติกันหน่อยดีกว่า จะมีเล่มไหนเข้าตาบ้างนะ…?

Little House in the Big Woods

บ้านเล็กในป่าใหญ่

          เป็นเรื่องราวชีวิตจริงของนักเขียนสาว “ลอร่า อิงกัลล์ส ไวล์เดอร์” ที่ได้บรรยายถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของเธอเอง เดินทางอพยพบนเกวียนประทุนผ่านแต่ละเมือง และต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายจนต้องย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ สะท้อนชีวิตชาวอเมริกันที่ได้ต่อสู้กับธรรมชาติและความลำบากยากแค้น แต่ชีวิตของเธอก็มีความสุขเพราะมีครอบครัวที่อบอุ่น ก่อนที่บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในระยะเวลาเพียงแค่ 80 ปีเศษเท่านั้นเอง

The Jungle Book

เมาคลีลูกหมาป่า

          “เมาคลีลูกหมาป่า” เป็นนิยายชุดที่เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ “รัดยาร์ด คิปลิง” ตัวละครหลักก็คือ เมาคลี เป็นเด็กทารกที่พลัดหลงจากพ่อแม่ในป่าลึกของอินเดีย เมาคลีเติบโตมาจากการเลี้ยงดูจากหมาป่าตัวผู้ มีหมีบาลูและเสือบากีราเป็นทั้งเพื่อนและครู ศัตรูตัวสำคัญก็คือ เชียร์คาน เสือโคร่งดุร้ายกินคนตัวเดียวเท่านั้น เมื่อถึงวันที่เมาคลีลูกหมาป่าผู้ไม่รู้จักสังคมมนุษย์ต้องกลับคืนสู่หมู่บ้าน เขาจะทำอย่างไร โดย รัดยาร์ด คิปลิง เขียนเรื่องนี้จากประสบการณ์ ที่ใช้ชีวิตวัยเด็กตั้งแต่เกิด จนอายุ 6 ปี ที่เมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดีย

Le Petit Prince

เจ้าชายน้อย

          เป็นนวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของนักเขียนชาวฝรั่งเศส “อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี” ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1943 เขาเขียนงานเขียนชิ้นนี้ขณะอยู่ที่นิวยอร์ก เนื้อเรื่องเล่าถึงการเดินทางของเจ้าชายน้อย เพื่อค้นหาคุณค่าของมนุษย์ โดยระหว่างทางได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตาและได้เห็นพฤติกรรมที่ไร้คุณค่าอย่างแท้จริงของมนุษย์บางกลุ่ม จนกระทั่งมาพบกับคนจุดแสงตะเกียงที่ทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ จนทำให้เจ้าชายน้อยเกิดความประทับใจ เจ้าชายน้อยถือเป็นหนังสือขายดีติดอันดับโลก เพราะนวนิยายชุดนี้ได้รับการจัดแปลกว่า 190 ภาษา และมียอดจำหน่ายกว่า 80 ล้านเล่มทั่วโลก

My Sweet Orange Tree

ต้นส้มแสนรัก

          เป็น 1 ใน วรรณกรรม 50 เรื่องที่ต้องอ่านก่อนโต ที่เขียนโดย “โจเซ่ วาสคอนเซลอส” เป็นเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งนามว่า เซเซ่ ผู้มีจินตนาการเปี่ยมไปด้วยความฝันที่สวยงามเป็นเด็กฉลาด เกิดในครอบครัวที่ยากจน ด้วยความที่เขาดื้อและซน ชอบก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน จึงทำให้เขาโดนทำโทษแรงๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าไม่มีใครรรัก เขาจึงสร้างโลกส่วนตัวของเขาขึ้นมาคือโลกแห่งความฝัน ต่อมาครอบครัวของเซเซ่ได้ย้ายบ้านใหม่ จึงได้พบกับต้นส้มต้นหนึ่งซึ่งพูดได้ ทำให้เขาได้เพื่อใหม่ที่รู้ใจที่สามารถพูดคุยและเป็นเพื่อนเล่นกับเขาได้ยามที่ถูกกักบริเวณไม่ให้ออกไปข้างนอก แต่อีกไม่นานเมื่อเขาต้องรับรู้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาต้องจากเขาไปตลอดกาล โลกที่สดใดของเขาพลันมืดสลัวลง เขารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมากกับการจากลาในครั้งนี้

Charlie and the Chocolate Factory

ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต

          วรรณกรรมเยาวชนเรื่องเยี่ยมแห่งโลกจินตนาการเหนือจริง ของนักเขียนยอดนิยมตลอดกาล Roald Dahl” ที่เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่องราวมหัศจรรย์เหนือจริงของ เด็กชายชาร์ลี บั๊กเก็ต ลูกชายคนเดียวของครอบครัวฐานะยากจนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ โรงงานผลิตช็อคโกแล็ต เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อชาร์ลีบังเอิญมีโชค เขาเปิดห่อช็อคโกแล็ตพบตั๋วทอง และกลายเป็นเด็กคนหนึ่งของจำนวนห้าคนในโลก ที่จะได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชม และล่วงรู้ความลับสุดยอดของโรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์พร้อมกับปู่โจ ความมหัศจรรย์เหนือเวทย์มนตร์นี้รอให้เขากับปู่โจค้นหาอยู่ แท้จริงแล้วเจ้าของโรงงานอย่าง นายวิลลี่ วองก้า คือใครกันแน่