Oprah Winfrey ประสบความสำเร็จ สตรีทรงอิทธิพล เคล็ดลับความสำเร็จ โอปราห์ วินฟรีย์

เปิดความคิด ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค

Home / สารพันหนังสือ / เปิดความคิด ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค

‘โอปราห์ วินฟรีย์’ สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่คนทั้งโลกต้องจดจำ!!

          ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ ถือเป็นสตรีคนสำคัญระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ทั้งเบื้องหน้า ในฐานะนักแสดงและพิธีกรรายการชื่อดังอย่าง ‘The Oprah Winfrey Show’ รายการทอล์คโชว์ที่มีเรตติ้งการชมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์รายการโทรทัศน์อเมริกัน และเบื้องหลัง ในฐานะเจ้าของสตูดิโอผู้ผลิตรายการทอล์คโชว์ มินิซีรี่ส์ รวมถึงเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์คุณภาพระดับเข้าชิงรางวัลออสการ์ และศักยภาพของเธอได้จุดพลังให้กับผู้หญิงทั่วโลกลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียม นอกจากนี้ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับคนทั่วโลกหันมาสร้างความสำเร็จให้ได้ด้วยตัวเอง มาดูความคิดของสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุคว่าจะมีอะไรกันบ้าง

คิดและทำให้ต่อเนื่อง

          บ่อยครั้งที่เราหยุดคิด หยุดทำ อาจด้วยเพราะท้อ เจออุปสรรค หรือหมดกำลังใจ แต่สำหรับโอปราห์ เธอไม่คิดอย่างนั้น เธอจะคิดเสมอว่า อะไรคือก้าวต่อไป จะทำอะไรต่อไป เธอพยายามคิดอย่างต่อเนื่อง ทำอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบางครั้งที่รู้สึกเหนื่อยเหมือนเจอทางตัน แต่เธอกลับขอเวลา นิ่ง คิด และพยายามมองหาวิธีการใหม่ๆ ว่าถ้าจะทำต่อไปจะทำอย่างไรได้บ้าง

สร้างโอกาส และคว้าให้มั่น

          ไม่เคยมีคำว่า ‘โชคดี’ ในชีวิตของโอปราห์ ชีวิตของเธอไม่ได้สวยงาม ไม่ได้บังเอิญเจอสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่เธอสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เธอยึดหลักการทำงานว่า ต้องทำทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งถูกจัดเตรียมไว้เพื่อให้เกิด ‘โอกาสสำคัญของชีวิต’ แค่ลงมือทำอย่างเต็มที่ แล้วบางสิ่งจะเกิดขึ้น เพราะระหว่างทางแห่งความสำเร็จนั่นแหละ กำลังจะฉุดให้คุณโดดเด่นขึ้นมาเหนือใคร

ปล่อยให้อดีต เป็นเพียงอดีต

          หากใครเคยอ่านประวัติชีวิตของโอปราห์ จะรู้ว่าเธอผ่านประสบการณ์ชีวิตอันเลวร้ายมามากมาย แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างให้เธอยังคงจมอยู่กับอดีต โอปราห์ย้ำเสมอว่า ถ้าใครก็ตามยึดติดกับอดีตจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ ตอนเธออายุ 20 เธอเป็นเพียงผู้หญิงไร้เดียงสาที่อยู่ภายใต้การกดขี่ของเพศชาย แต่มันได้ผ่านไปแล้ว มันคืออดีตที่ผ่านพ้น สิ่งที่สำคัญสำหรับเธอ คือปัจจุบัน และอนาคต บทเรียนนี้ทำให้เธอรู้ว่าสิ่งไม่ดีคืออะไร และทำให้เธอไม่มีวันทำผิดพลาดซ้ำแบบเดิมอีก

ค้นหาตัวเองให้เจอ

          ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการใช้ชีวิต เราไม่สามารถฝืนตัวตนที่แท้จริงได้ โอปราห์แนะนำหลักการเบื้องต้นสู่ความสำเร็จว่า ให้พยายามมองให้ออกว่าเราเป็นคนยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ค้นหาบุคลิกพิเศษ ตัวตนที่แท้จริงภายในให้เจอ โอปราห์เปรียบเทียบคนเหมือนแก้วใบหนึ่ง ต้องมองให้ออกว่าแก้วใบนี้มีรูปทรงอย่างไร เหมาะจะใส่น้ำประเภทไหน หากเราหาคุณค่าในตัวเองพบ มันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดแล้ว

แข่งกับตัวเองเท่านั้นพอ

          สัญชาตญาณของมนุษย์แทบทุกคนคือการเปรียบเทียบ เราชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หลายคนคิดว่าการเปรียบเทียบเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน ทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง แต่สำหรับโอปราห์นั้น เธอจะไม่สนใจคนอื่น แต่จะสนใจเพียงแค่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ อย่าไปเสียพลังงานกับการกังวล การเปรียบเทียบกับคนอื่น สิ่งที่เราควรทำคือลุยไปข้างหน้า เราต้องวิ่งในลู่ของเราให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ เพื่อชัยชนะของตัวเราเอง

เชื่อมั่นในทุกสิ่งที่เป็นเรา

          บ่อยครั้ง เรามักถูกความคิดของคนอื่นครอบงำ โอปราห์เชื่อมาตลอดว่า เธอมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีความสามารถมากกว่าแค่การเป็นแม่บ้าน และความเชื่อที่ว่านี้ได้วนเวียนตอกย้ำอยู่ในหัวเธอทุกวัน เธอเชื่อว่าเธอจะเป็นผู้หญิงอัฟริกัน-อเมริกันที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ และด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้านี้ เธอจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ ซึ่งเธอก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

เปลี่ยนความปรารถนา เป็นแรงขับเคลื่อน

          เพราะเราทุกคนล้วนต้องการในสิ่งเดียวกัน คือต้องการการยอมรับในความสามารถ ต้องการความรัก ต้องการการเติมเต็มจากคนในสังคม โอปราห์ก็ต้องการการยอมรับเช่นกัน ยิ่งเธอเป็นผู้หญิงเชื้อสายอัฟริกัน-อเมริกัน การจะประสบความสำเร็จในสังคมอเมริกันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เธอจึงอาศัยความต้องการลึกๆ ที่ว่าจะต้องประสบความสำเร็จเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอก้าวต่อไป

เดินไปตามเป้าหมายในชีวิต

          ถ้าต้องการประสบความสำเร็จ ต้องหาเป้าหมายในชีวิตให้เจอ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เพราะการรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จะช่วยทำให้เราไม่สับสนไปกับสิ่งเร้ารอบข้างช่วงระหว่างทางไปสู่จุดหมายนั้น โอปราห์มีเป้าหมายในตัวเองตั้งแต่เด็ก เธออยากเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่คนรู้จักทั่วประเทศ นับตั้งแต่นั้นเธอมองหาเพียงแค่หนทางที่จะทำมันให้ได้ และไม่สนใจคำพูดดูถูกเหยียดหยามใดๆ

อย่าถือดี หรืออวดเก่ง

          ตลอดอาชีพการเป็นพิธีกรของโอปราห์นั้น เธอบอกทีมงานทุกคนในรายการว่า เธอขอเป็นเพียงคนธรรมดาที่นั่งสัมภาษณ์แขกรับเชิญในรายการ อย่าทำให้เธอเป็นคนพิเศษ ดูเป็นคนมีฐานะ หลักการวางตัวที่ดีต้องไม่ถือดี ไม่เช่นนั้นจะไม่เหลือดี แม้เธอจะผ่านความทุกข์ยากลำบากจนกลายมาเป็นคนร่ำรวย เป็นบุคคลมีชื่อเสียงผู้ประสบความสำเร็จระดับประเทศ แต่เธอขอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาติดดิน

ยิ้มสู้ทุกสถานการณ์

          ทุกวันนี้เราล้วนเจอเรื่องราวมากมาย บางครั้งสดใสสวยงาม บางสถานการณ์ชวนให้กังวลทนทุกข์ แต่สำหรับโอปราห์แล้ว เวลาเจอเรื่องแปลกใหม่ในชีวิตอย่าได้กังวลเป็นอันขาด ขอให้ยิ้มสู้กับมันและผ่านมันไปให้ได้ หรือเราเห็นคนอื่นกำลังพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้าย ถ้าไม่ลำบากอะไร ขอให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บุคคลเหล่านั้นรู้สึกดีขึ้นจากกำลังใจดีๆ ที่เราตั้งใจมอบให้

โอปราห์ กับมุมรักการอ่าน

  • โอปราห์อ่านหนังสือได้ตั้งแต่อายุได้เพียง 2 ขวบ เมื่อเธออายุได้ 5 ขวบ ที่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาลอยู่ เธอได้เขียนจดหมายถึงคุณครูประชั้นว่า ‘คุณนิวที่รัก หนูคิดว่าหนูไม่เหมาะสำหรับที่นี่’ ซึ่งคำขอของเธอก็คือ การขอเลื่อนชั้นข้ามไปเรียนจากระดับอนุบาลไปชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเธอก็ได้รับคำอนุมัติให้เลื่อนชั้นได้และยังสามารถสอบได้คะแนนดีมาก ๆ จนกระทั่งเธอได้เลื่อนชั้นเรียนอีกครั้งจาก ป.1 ข้ามไปยัง ป.3 ได้เลย
  • คุณยายของโอปราห์ คือคนที่ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเธอ และเป็นแรงผลักดันให้เธอเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของตัวเองตั้งแต่เด็ก
  • บทบาทการเป็นนักเขียนที่ผ่านมาของโอปราห์ ได้แก่ ‘The Wisdom of Sundays’ เรื่องราวส่วนตัวของเธอในช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจ เมื่อเธอได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วโลก และได้รับรางวัล Emmy Award และ ‘What I Know For Sure’ หนังสือที่รวบรวมจากบทความในนิตยสาร The Oprah Magazine

ที่มา : leaderwings