KINTSUGI Move Publishing Tomas Navarro ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต ความสูญเสีย คินสึงิ

KINTSUGI คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต : เรียนรู้วิธีจัดการตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความสูญเสีย

Home / Editor Picks / KINTSUGI คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต : เรียนรู้วิธีจัดการตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความสูญเสีย

 

      เป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีพบกันก็ต้องมีจากลา การสูญเสียเป็นสิ่งที่ผู้คนทุกคน ไม่ว่าจะเพศไหน หรือสัญชาติอะไรก็จะต้องพบเจอ

      คนหลายๆ คน เมื่อเจอกับความสูญเสียก็มักจะมีอาการฟูมฟาย เจ็บปวดรวดร้าว เสียความเป็นตัวเองไป อีกอาการนึงที่มักจะเป็นกันนั่นก็คือ มักจะจิตหลุด เหม่อลอย และเริ่มที่จะโทษตัวเอง

 

     

      สิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ทำอย่างไรก็คงจะไม่คืนกลับมา หนังสือ คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต ที่เขียนโดย โทมาส นาวาร์โร จิตแพทย์ชื่อดังชาวสเปน ได้ให้คำแนะนำวิธีจัดการกับตัวเองเมื่อเจอกับความสูญเสียไว้อย่างลึกซึ้ง และสามารถทำความเข้าใจกับมันได้อย่างง่ายดาย

 

ทำอย่างไรเมื่อเจอกับความสูญเสีย?

 

 

คนเป็นสำคัญกว่าคนตาย

จงอย่าลืมตัวเองและคนรอบข้าง อย่าให้ความสำคัญกับความตายเหนือกว่าชีวิต
ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่คุณต้องพยายาม 

 

      พยายามที่จะมีชีวิตอยู่ให้ได้แม้คุณจะต้องเจอกับความสูญเสีย อย่ามัวแต่จมอยู่กับตัวเอง เพราะคุณจะเริ่มโทษตัวเอง และไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง หันกลับไปมองคนรอบข้างที่เขาพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณ

 

ระบายความเจ็บปวด

วิธีที่ดีที่สุดในการระบายความเจ็บปวด ก็คือการเปลี่ยนประสบการณ์ของคุณ
ให้กลายเป็นเรื่องเล่า และคำแนะนำแก่คนอื่น

 

      การที่เราสูญเสียนั้น บางครั้งก็สามารถช่วยให้คนอื่นได้มีชีวิตอยู่ก็ได้ เปลี่ยนความทุกข์ของคุณให้กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนอื่น การพบปะพูดคุยยังสามารถช่วยให้คุณระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในหัวใจของคุณได้ดีเชียวล่ะ

 

จัดการความทรงจำ

หลักการก็คือ ไม่สมควรที่จะปล่อยให้ความทรงจำแย่ๆ
มาบดบังความทรงจำดีๆ ที่เราเคยมีร่วมกับผู้จากไป
คุณต้องไม่จดจำความเจ็บปวดของเขา
แต่คุณต้องจดจำความงดงามของพวกเขาแทน
รอยยิ้ม ความมีชีวิตชีวา ไม่ใช่หยาดน้ำตา

 

      เมื่อความสูญเสียมาเยือนเราแล้ว แน่นอนว่าความทรงจำแย่ๆ จะกระหน่ำเข้ามาในหัวสมองเราอย่างมากมาย อย่าไปโฟกัสว่า เขาเคยทำอะไรให้เราทุกข์ ทำให้เราไม่มีความสุข เพราะตัวคุณนั่นแหล่ะที่จะแย่เอง พยายามดึงความทรงจำดีๆ ที่คุณเคยมีร่วมกันมารักษาตัวคุณเอง แผลในใจของคุณจะหายเร็วยิ่งขึ้น

 

 

ตัดขาดชั่วคราว

เมื่อความทุกข์รุกเร้าเข้ามาจนควบคุมไม่ได้ เกินขีดจำกัด
และกลายเป็นความวุ่นวายโกลาหลภายใน
จิตใจของเราจะอ่อนล้าเนื่องมาจากอารมณ์ที่เข้มข้นและผสมปนเป
จำเป็นที่เราจะต้องทำให้อารมณ์ที่ล้นเกินเหล่านี้สงบลง

 

      อะไรที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ ถ้ามันไม่จำเป็นในชีวิตเรา ลองตัดขาดกับสิ่งนั้นชั่วคราวสิ และคุณจะรู้ว่า ความสงบในจิตใจ และความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร ค่อยๆ ตัดออกทีละนิด เพื่อตัวคุณเอง

 

ลิสต์สิ่งที่ต้องทำก่อนตาย

เมื่อพายุแห่งความทุกข์โศกค่อยๆ ซาลง ก็เริ่มต้นคิดถึงตัวเองได้แล้ว
ได้เวลาถามตัวเองด้วยคำถามที่ยากที่สุดและช่วยเยียวยาได้ดีที่สุดแล้ว
นั่นคือคุณมีอะไรที่อยากทำก่อนตายบ้าง?

 

      เพื่อที่จะไม่กลับมาเสียใจที่หลังว่า ตอนนั้นทำไมฉันไม่ทำสิ่งนั้น ลองหันกลับมาถามตัวเองว่า มีอะไรบ้างที่คุณอยากจะทำก่อนตาย และลองพยายามทำตามลิสต์ที่คุณได้วางไว้

 

ระวังพฤติกรรมชดเชย

บางคนกลับเติมความว่างเปล่านั้นด้วยพฤติกรรมที่เป็นพิษร้าย
ด้วยเหล้า และยาเสพติด บางคนพาตัวเองไปทำกิจกรรมเสี่ยงตาย
การล้อเล่นกับความตาย ด้วยความตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ

 

      ต่อให้คุณทำร้ายตัวเอง หรือใช้ยาเสพติดต่างๆ ที่เป็นการทำร้ายตัวคุณเอง แต่ความจริงก็คือความจริง คุณไม่สามารถที่จะย้อนเวลา หรือเจอเขาได้อีกแล้ว ดังนั้น ต้องเลิกพฤติกรรมเหล่านั้น และยืนขึ้นมาใหม่ให้ได้

 

 

ร้องไห้ไปเถอะ

จงปล่อยตัวเองให้ร้องไห้ไป ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนไว้ ร้องแล้วจะช่วยให้คุณรู้สึกดี
เมื่อน้ำตาหยดสุดท้ายแห้งเหือดไป คุณก็พร้อมที่จะเชื่อมโยงตัวเองอีกครั้ง
ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

 

      ไม่มีหรอกคนที่ไม่เคยร้องไห้ ความเจ็บปวดที่คุณพบเจอสามารถบรรเทาได้ด้วยหยดน้ำตา การร้องไห้จะช่วยให้จิตใจของคุณนั้นผ่อนคลายจากความเศร้าได้มากยิ่งขึ้น

 

อย่าแยกตัวเอง

เราต้องการช่วงเวลาแห่งความสงบเพื่อใครครวญและสะท้อนให้เห็นตัวเอง
แต่หลังจากนั้น เราต้องใช้เวลาร่วมกับคนอื่นด้วย
เพื่อรับพลังใจ สนับสนุนจากสังคม
มันจะช่วยให้ฟื้นฟูจากความเศร้าโศกได้เร็วขึ้นและดีขึ้น

 

      ยิ่งอยู่คนเดียวมากเท่าไร ความทรงจำที่ไม่ดี รวมไปถึงความคิดที่ร้ายๆ ก็จะกลับเข้ามาทำร้ายคุณ อย่าคิดว่า คุณไม่เหลือใคร หรือว่าไม่มีใครรักคุณ ลองหันกลับไปมองคนรอบข้างของคุณ มีใครอีกหลายคนที่พร้อมจะอยู่ข้างคุณเสมอ

 

รับมือกับภาพความหลัง

ภาพความหลังมักจะมาในสีสันสีสันฉูดฉาดเป็นพิเศษ
ภาพแบบนี้จะโผล่พรวดขึ้นมาโดยไม่ได้บอกกล่าว
เมื่อเป็นเช่นนี้
คุณก็แค่เชิญมันออกไปเข้าไปควบคุมมัน
โดยไม่ปล่อยให้มันเปิดประตูรับความเศร้าหรือความเจ็บปวดอื่นๆ เข้ามาเพิ่มอีก

 

      ตั้งสติ และพยายามควบคุมความคิดของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดมามีอิทธิพลมากกว่าความคิดของตัวคุณเอง ช่วงแรกๆ คุณอาจจะยังไม่ชินกับมัน แต่ถ้าทนต่อไปได้ ความเจ็บปวดของคุณก็จะดีขึ้นกว่าเดิม

 

 

อย่าปล่อยปละตัวเอง

เมื่อเราปล่อยปละตัวเอง เราก็เข้าสู่วังวนเสื่อมถอย อยู่กับความเชื่อที่จำกัด
และจบลงด้วยความตายจากภายใน หรืออยู่ไปกับวิญญาณระทมทุกข์

 

      สิ่งที่อยู่กับคุณนานที่สุดนั่นก็คือ ตัวของคุณเอง ถ้าหากคุณไม่ดูแลมัน ไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน ซักวันร่างกายของคุณมันก็จะพาประท้วง ลองกลับมาดูแลตัวเอง หาสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับตัวเองบ้าง

 

ชดเชยความทุกข์

ชดเชยความทุกข์ด้วยความสุข เลือกหาหนทางที่เหมาะสม สมดุล และดีต่อใจ
ความทุกข์นั้นสามารถชดเชยด้วยการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เบิกบาน มีอารมณ์เชิงบวก และสัมผัสที่รื่นรมย์

 

      พยายามหากิจกรรมทำเพื่อให้ตัวเองไม่จมอยู่กับแต่ความทุกข์ ทำให้ชีวิตของเราสมดุล อย่างเช่น ออกไปเจอเพื่อนฝูง อ่านหนังสือดีๆ ซักเล่ม หรือลองไปเที่ยวคนเดียวดู

 

      นอกจากเรื่องของการรับมือในการสูญเสียแล้ว หนังสือ คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต ยังมีเรื่องราวของการรักษาจิตใจอัดแน่น และครบถ้วนภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับความคิดของตัวเอง อาการของสิ่งที่เรียกว่า โรคซึมเศร้า รวมไปถึงเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย

 

อุทิศแด่ผู้ที่ยังยืนหยัดยิ้มสู้

แม้ในใจจะรวดร้าวเพียงใดก็ตาม

 

 

โดย โทมาส นาวาร์โร

ผู้แปล  : วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ

 

คลิกเพื่อสั่งซื้อหนังสือ