MThai
Video
Seeme
มีนักเขียนหญิงชาวอเมริกันอยู่คนหนึ่ง ที่ชีวิตของเธอมีเรื่องราวมากมายและครบรสยิ่งกว่านิยายเสียอีก เธอคนนี้มีชื่อว่า ‘คาร์สัน แม็คคัลเลอร์ส’ (Carson McCullers)
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้นักเขียนคนหนึ่งสร้างสรรค์ผลงานเขียนออกมา ทั้งจากจินตนาการบ้าง เหตุการณ์จากคนใกล้ตัวบ้าง หรือจากคนที่ไม่ได้รู้จักก็ตาม และบางทีก็มาจากเรื่องราวในชีวิตจริงทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นก็คือ ‘คาร์สัน แม็คคัลเลอร์ส’
‘คาร์สัน แม็คคัลเลอร์ส’ เกิดวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1917 ที่เมืองโคลัมบัส รัฐจอร์เจีย จุดเริ่มต้นการเขียนหนังสือของเธอเกิดจากการที่ได้รับของขวัญเป็นเครื่องพิมพ์ดีดจากพ่อตอนอายุ 15 ปี โดยผลงานเขียนส่วนใหญ่ของเธอเป็นแนว ‘เซาเทิร์นกอทิก’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลที่แปลกแยก โดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าตัวอักษรที่อยู่ในแผ่นกระดาษทั้งหมดล้วนมาจากชีวิตของเธอ
Carson McCullers กับชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
หลังจบชั้นมัธยมศึกษา เธอก็ล้มป่วยด้วยโรคไข้รูมาติกและต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้าน จากนั้นไม่นานธอตัดสินใจย้อนกลับมาที่นิวยอร์ค และเลือกที่จะเริ่มต้นทำงานในสายอาชีพนักเขียน เธอยอมลำบากทำงานหลายอย่างในขณะเดียวกันก็ลงเรียนภาคค่ำที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
ชีวิตกับงานเขียนบนเส้นขนาน
ผลงานชิ้นแรกของนักเขียนสาวคนนี้คือ ‘Wunderkind’ ในปี 1936 ซึ่งเป็นเรื่องราวอัตชีวประวัติของนักดนตรีผู้มีพรสวรรค์ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Story ต่อมาในเดือนกันยายน ปี 1937 เธอแต่งงานกับนักเขียนผู้เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจอีกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘รีฟส์ แม็คคัลเลอร์ส’ ทั้งคู่ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ถัดจากนั้น 3 ปี นวนิยายเรื่องแรกของคาร์สันที่มีชื่อว่า ‘The Heart Is a Lonely Hunter (หัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่)’ นวนิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนักเขียน ต่อมาในปี 1941 กับนวนิยายเรื่องที่ 2 ชื่อว่า‘Reflections in a Golden Eye’ตลอดชีวิตของนักเขียนสาวคนนี้ มีนวนิยายที่ได้รับการตีพิมพ์ทั้งหมด 6 เรื่อง
แต่ชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด เธอได้หย่าขาดจากสามีและย้ายกลับไปอยู่ที่นิวยอร์คกับชายอีกคนหนึ่ง และที่น่าตกใจก็คือเธอมีรสนิยมทางเพศไบเซ็กชวล แต่แล้วในปี 1945 เธอก็กลับไปแต่งงานกับอดีตสามีอีกครั้ง ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเธอพยายามจะฆ่าตัวตาย เพราะสามีเป็นโรคซึมเศร้าพยายาม ที่น่าตกใจไปกว่านั้นสามีของเธอยังพยายามชวนให้เธอฆ่าตัวตายตามกันไป แต่บทสรุปของทั้งคู่ก็จบด้วยการเลิกราอีกครั้ง จากนั้นไม่นานอดีตสามีของเธอก็ฆ่าตัวตายในโรงแรมที่ปารีสโดยการกินยานอนหลับเกินขนาด
หลังจากป่วยด้วยโรคไข้รูมาติกตั้งแต่อายุ 15 เธอก็ยังคงต้องทนทุกข์จากอาการข้างเคียงของโรคดังกล่าวที่มาในรูปแบบของโรคหลอดเลือดสมองตลอดทั้งชีวิตของเธอ นอกจากนั้น เธอก็ยังมีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ อีกและยังติดเหล้าด้วย ตอนอายุ 31 ปี คาร์สันมีอาการอัมพาตที่ร่างกายซีกซ้ายทั้งหมด และในวันที่ 29 กันยายน 1967 เธอได้จากไปด้วยอาการเลือดออกในสมองด้วยวัย 50 ปี โดยร่างของเธอถูกฝั่งไว้ที่นียัค กรุงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่ที่เธอเสียชีวิต
Source : bookreports / newyorker / rhystranter / advocate
