ไม่ต้องตอกบัตร ทำงานที่ไหนก็ได้ เพราะทุกพื้นที่คือออฟฟิศ กับ Nomadic Worker

ไม่ต้องตอกบัตร

ทุกพื้นที่คือออฟฟิศ กับ Nomadic Worker

ไม่ต้องตอกบัตร ทำงานที่ไหนก็ได้

ลืมมลพิษชีวิต อย่าง รถติด ตอกบัตรไม่ทัน เบียดเสียดบนรถไฟฟ้าไม่เว้นวันไปได้เลย เพราะเทรนด์การทำงานแบบ • Nomadic Worker • กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกา

---

ทุ ก พื้ น ที่ คื อ อ อ ฟ ฟิ ศ

• Nomadic Worker • คือการทำงานที่ไม่ได้ฝังรากอยู่ในออฟฟิศ คุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลก ทั้งร้านกาแฟ, ริมหาด, หรือจะไปทำงานที่อวกาศก็ยังได้ โดยเป็นการทำงานที่ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ขอเพียงแค่สามารถส่งงานจากระยะไกลได้โดยไม่มีอุปสรรคและครบตามกำหนด จะอยู่แห่งไหนบนโลกก็ได้เลย

ไม่ต้องตอกบัตร

.

บางครั้งเราก็เรียกคนประเภทนี้ว่า • Digital Nomads • เพราะมักเป็นกลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีในการทำมาหากิน โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะเร่ร่อน (มาจากคำว่า Nomad) ที่หิ้วโน๊ตบุ๊คของตัวเองไปมาในที่ต่าง ๆ มีทั้ง งานรับจ้างอิสระ และ งานสังกัดบริษัท พบเจอได้บ่อยตามร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือพื้นที่สาธารณะ อย่าง Co-Working Space เรียกได้ว่าทำที่ไหนก็ได้ในโลก ที่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ก็สามารถขับเคลื่อนงานให้เดินต่อไปได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

ไม่ต้องตอกบัตร

• Nomadic Worker • มีหลากหลายประเภทตามสถานะ ตั้งแต่คนธรรมดา ว่างงาน  ร่ำรวย จนไปถึงผู้ประกอบการ ซึ่งเหตุผลที่เลือกมาทำงานรูปแบบนี้ เพราะความอิสระที่ได้รับ ทั้งอิสรภาพทางการเงิน, สถานที่, เวลาที่ยืดหยุ่นได้และไม่เคร่งครัด

.

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เป็น • Nomadic Worker • จะมาทำงานประเภทนี้ด้วยสมัครใจ บางครั้งก็มาจากปัจจัยทางด้านลบ เช่น อัตราการจ้างงานเต็มเวลาของบริษัทลดลง, โดนไล่ออก, อัตราการจ้างงานที่กระจุกอยู่แค่ในเมืองที่มีค่าครองชีพที่สูง ทำให้แบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เป็นต้น

---

จุดเริ่มต้นของ • Nomadic Worker •

• Nomadic Worker • เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี 1997 มาจากหัวข้อของบทความเกี่ยวกับการศึกษา จากสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า • Wiley •  เขียนโดย Tsugio Makimoto และ David Manners

.

แม้จะระบุไม่ได้แน่ชัดว่า วลีดังกล่าวถูกนำมาจากที่อื่นหรือไม่ แต่มันได้ระบุคำจำกัดความเอาไว้อย่างน่าสนใจ ว่า • Nomadic Worker • หมายถึง กลุ่มคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต, สมาร์ทโฟน, แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อทำงานในระหว่างที่เขากำลังท่องเที่ยวหรืออยู่บ้าน มีต้นตำรับมาจากการทำงานทางไกล หรือเรียกว่า • Remote Work • ซึ่งพวกเขาจะทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space, ร้านกาแฟ, หรือแม้แต่สวนสาธารณะ ขอแค่ได้งานที่สำเร็จและไม่มีปัญหา

ไม่ต้องตอกบัตร

• Nomadic Worker • อาจกำลังเที่ยวอยู่ตอนที่พวกเขากำลังปั่นงาน หรือประสานงานกับลูกค้าตอนที่กำลังปีนเขา การใช้ชีวิตเช่นนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและเสี่ยงอันตราย พวกเขาอาจได้รับมอบหมายให้ทำงานต่างถิ่นต่างแดน ที่จำเป็นต้องพึ่งพาประกันสุขภาพระหว่างประเทศ อาจต้องประคับประคองความสัมพันธ์ทางไกลกับเพื่อนและครอบครัวเพราะไม่ค่อยได้กลับไปเจอ อาจได้รับผลกระทบจาก Time Zone เมื่อต้องติดต่อประสานงานข้ามประเทศ อาจมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ห่วยเสียจนทำงานไม่ได้ หรืออาจหมดตัวได้เพราะค่าใช้จ่ายที่ยิบย่อยตามใจจนเกินการควบคุม

ไม่ต้องตอกบัตร

นอกจากทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว การชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตก็ยังได้รับความนิยมมากในกลุ่ม • Nomadic Worker •  เช่น PayPal รวมถึงเครื่องมือสื่อสารทั่วไปที่ใช้เสียง ข้อความ และวิดีโอแชทระยะไกลที่ใช้ในการประสานงานได้ เช่น Skype, Line Video Call เป็นต้น

.

---

งานบริษัท แบบ • Nomadic Worker •

ไม่ต้องตอกบัตร

ไม่ใช่แค่ งานอิสระ (Freelance) เท่านั้นที่จะสามารถทำงานในรูปแบบ • Nomadic Worker • ได้ เพราะข้อมูลจาก The New York Times ระบุว่า “ปัจจุบันอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เลือกรับเข้าคนทำงานในรูปแบบระยะไกล หรือ • Nomadic Worker • มากขึ้น ” เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานให้เข้ากับนวัตกรรมที่ก้าวกระโดดไปทุกวัน โดยให้ค่าจ้างเป็น รายชั่วโมง, ชิ้นงาน , หรือตามที่ตกลง

.

รวมถึงไม่นานมานี้ผลสำรวจยังบอกอีกว่า ชาวอเมริกันกว่า 4.8 ล้านคนกำลังผันตัวเองเป็น • Nomadic Worker • ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจำนวนดังกล่าวจะมากขึ้นถึง 1 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2035

.

---

เริ่มน่าสนใจแล้วใช่ไหม? แต่อย่าพึ่งคิดจะเปลี่ยนงานเลยนะ … เพราะถึงแม้  • Nomadic Worker • จะมีอิสระเสรีอยู่มากโข แต่ก็แวดล้อมไปด้วยปัจจัยเสี่ยงและเรื่องน่าวิตก

.

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณหมดเงินระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ? โดนขโมยกระเป๋าเงิน? ไม่มีเงินสำรอง? รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่คาดเดาไม่ได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้มันคือความเสี่ยงที่มาพร้อมกับ • ความอิสระ •

.

แต่หากมั่นใจแล้วว่า เรื่องพวกนี้ช่างเล็กน้อย คุณสามารถจัดการมันได้ ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งคุณไว้ แถมมันยังคุ้มค่า เป็นโอกาสทองหรือความฝันของใครหลายคน ที่จะได้เที่ยวไปทำงานไปอย่างอิสระ สัมผัสวิถีชีวิตของคนทั่วโลก ละทิ้งความเบื่อหน่ายบนโต๊ะทำงาน สะพายกระเป๋าสู่ความตื่นเต้นและประสบการณ์ในชีวิตที่มากขึ้น …ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

.

ก้าวสู่ • Nomadic Worker • ต้องเตรียมการอะไรบ้าง?

.

จัดการหนี้สินและค่าใช้จ่าย :

หากยังมีหนี้สินก้อนโตต้องรีบเคลียร์ให้คลีน เพราะการทำงานแบบ • Nomadic Worker • อัดเเน่นไปด้วยค่าใช้จ่ายที่คุณจำเป็น ต้ อ ง ซั พ พ อ ร์ ต ตั ว เ อ ง 

• Nomadic Worker • ช่วงเริ่มต้นนั้นเต็มไปด้วยรายจ่าย ที่ทำให้ภาระบนไหล่หนักอึ้ง รวมถึงหากเป็นงานที่ไม่ได้ขึ้นกับบริษัท โอกาสที่จะไม่มีงานและเงินเข้ามาเลยสูงมาก ซึ่งคุณจำเป็นต้องวางแผนและจัดการชีวิตตัวเองให้อยู่รอดให้ได้

.

รายได้ของตนเอง :

เที่ยวไป ทำงานไป สิ่งที่ต้องมีและสำคัญมาก คือ เ งิ น  คุณต้องคำนึงรายได้ของตัวเองก่อน คิดและวางแผนล่วงหน้าไว้เสมอ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไปติดอยู่ในประเทศต่างถิ่นโดยไม่มีรายได้สำรอง? คุณจำเป็นต้องเตรียมพร้อม จัดการรายได้ของคุณให้เพียงพอที่จะเที่ยวไปทำงานไปได้อย่างราบรื่น

ไม่ต้องตอกบัตร

---

• Nomadic Worker • ที่หมดไฟ

ไม่ใช่ทุกคนที่ทำงานแบบ • Nomadic Worker • แล้วมีไฟลุกโชนอยู่ตลอดเวลา เพราะบางคนเมื่อผันตัวไปทำงานประเภทนี้สักพัก กลับหมดไฟ และคิดว่าทำงานประจำในออฟฟิศดีกว่า ซึ่งสาเหตุมาจาก

• ไลฟ์สไตล์ที่เงียบเหงา

แม้คุณจะดูเท่ ชีวิตดีจนน่าอิจฉาที่ได้ทำงานไปพร้อมกับเที่ยวไปรอบโลก แต่จะมีความสุขจริงหรือไม่? หากต้องเที่ยวไป ทำงานไป โดยไม่มีคนรู้ใจอยู่ข้างกาย  หลายคนจึงละทิ้งความอิสระดังกล่าวเพื่อกลับมาสู่อ้อมอกของคนที่รัก ยอมทนที่จะได้เที่ยวเมื่อมีเวลา แต่อย่างน้อยก็มีคนรู้ใจไปเที่ยวด้วยกัน

ไม่ต้องตอกบัตร

• ความภูมิใจสูญหาย

แม้ว่าจะมีอิสระอยู่เต็มกระบุงในการเที่ยวไป ทำงานไป ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวกระโดดไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว หลายคนใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งต่างจากการทำงานแบบปกติ แม้จะอยู่ในออฟฟิศ มีวงจรชีวิตที่น่าเบื่อบ้างบางวัน แต่ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ขีดไว้เสมอ

ไม่ต้องตอกบัตร

• สไตล์ที่จำกัด กับอิสระที่ไม่จริง

Nomadic Worker หลายคนจะเที่ยว 2 – 3 อาทิตย์ต่อ 1 เมืองก่อนที่จะย้ายไปเมืองอื่น แต่ถ้าคุณไม่ทำงาน คุณก็จะไม่มีเงินไปไหนทั้งนั้น แถมติดแหงกอยู่ต่างถิ่นอีกต่างหาก

.

เพราะฉะนั้นการไปเที่ยวแต่ละที มันจึงเต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่กดดัน ต้องเร่งปั่นงานให้เสร็จทันตามกำหนดก่อนที่จะได้เที่ยวอย่างสบายใจ หากงานไม่เสร็จหรือไม่ได้ดั่งใจ ก็ลืมไปได้เลยว่าจะได้เที่ยวอย่างเป็นสุข ทุกอย่างเร่งรัด ต้องมีวินัย และใช้จ่ายอย่างจำกัด แม้อยู่ในสถานที่ที่อยากไปทั้งชีวิต ก็ต้องหยิบงานขึ้นมาทำ ไม่ได้ดื่มด่ำกับการไปเที่ยวอย่างแท้จริง

.

• ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

แม้งานที่ดูอิสระที่สุด ก็ยังมีข้อเสียที่ไม่สมบูรณ์แบบ • Nomadic Worker • บางคนเมื่อเดินในสายทางอิสระจนอิ่มตัว เผชิญปัญหามาจนตัวพรุน จนวันหนึ่งไร้ซึ่งความตื่นเต้นใด ๆ ในสายอาชีพ หลายคนยอมกลับมาใช้ชีวิต “พนักงานออฟฟิศ”

.

เช่น ชายคนหนึ่งที่ลาออกจากงานประจำไปเป็น • Nomadic Worker • ทำได้ 5 ปี เที่ยวไปทั้งสิ้น 50 กว่าประเทศทั่วโลก หลังจากนั้นทุกอย่างดูไม่ตื่นเต้น เงินที่ได้มาถูกใช้ออกไปกับการท่องเที่ยวและค่าครองชีพ ทำแทบตาย ไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จนกระทั่งหมดไฟจะทำงานในที่สุด ไร้แรงบันดาลใจแบบตอนแรก และกลับมาทำงานออฟฟิศ ที่ถึงแม้จะน่าเบื่อหน่าย กรอบเกณฑ์มากมาย แต่ มั่นคง แน่นอน และความเสี่ยงต่ำที่สุด

.

---

เราสามารถเลือกงานที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็น  • Nomadic Worker • เอง หรือพนักงานออฟฟิศนั่งโต๊ะ ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถยอมรับได้กับการทำงานในรูปแบบไหนมากกว่ากัน

.

เรียนรู้จากงานที่เกลียด เปลี่ยนให้เป็นงานที่รักและอยู่กับมันให้ได้ กับ • I hate my job อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย • โดย ท๊อฟฟี่ แบรดชอว์ ไม่ว่าจะเกลียดงานให้ตาย ก็อยู่ได้แน่นอน  ► คลิกเพื่อสั่งซื้อ

---

ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore