หัวหน้า เจ้าขา! โปรดฟัง 10 สิ่งในใจ ที่ (อดีต) ลูกน้อง อยากบอก..

ปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะว่าความฝันสูงสุดของคนทำงานนอกเหนือจากผลตอบแทนที่คุ้มค่า นั่นคือ “ หัวหน้า ที่ดี ” เพราะกว่างานที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงทำไป จะออกไปสู่สายตาประชากรโลกได้ ถ้าไม่ถูกอนุมัติจากบุคคลที่ชื่อว่า “หัวหน้า” แล้วละก็ ..มันก็จะไปไหนไม่ได้!

หลายคนอาจประสบปัญญา เสนองานไปแล้วไม่ผ่าน ,ตกลงกันในห้องประชุมอย่างหนึ่ง หน้างานอีกอย่างหนึ่ง , ความดีกระจิ๊ดริด ความผิดมหาศาล นานาจิตตังสารพันปัญหาโลกแตกที่ช่างบั่นทอนจิตใจคนทำงาน บางครั้งก็อยากจะโปรยงานลงมาจากดาดฟ้าเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทำได้แค่แอบกระซิกในใจแล้วเคาะแป้นพิมพ์ต่อไป

หากเหล่าหัวหน้าแอบมาเห็นบทความนี้ ต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ทาง BOOK.MTHAI ไม่ได้มีเจตนาจะปลุกระดมกบฏในตัวลูกน้องของท่านแต่อย่างใด แต่จะเป็นกระบอกเสียงขอความเห็นใจแทนพนักงานตาดำ ๆ เหล่านั้น ผ่านข้อคิดจากหนังสือ “51 วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย” จาก อิวะตะ มัตสึโอะ อดีตลูกน้องตาดำ ๆ สู่การเป็นซีอีโอ “สตาร์บัค” ของญี่ปุ่น ว่าหากไม่ดูเป็นการรบกวน อยากจะชวนมาปรับทัศนคติกัน ..ถ้าอยากที่จะเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรัก และทำงานให้อย่างถวายชีวิต

การเป็นหัวหน้าไม่ได้หมายความว่าเรายิ่งใหญ่หรือสำคัญกว่าคนอื่น เพราะสุดท้ายมันก็แค่ตำแหน่งและหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบเท่านั้น

“ตำแหน่งมาพร้อมความรับผิดชอบ” ถ้าเราอยู่ในตำแหน่งที่มีลูกน้อง 100 คน นอกจากเงินในมือของเราจะมากขึ้นแล้ว ยังหมายความว่าความสุขของคน 100 คนอยู่ในมือเราด้วย

ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่ “นิสัย (คุณธรรม)” ก็ยิ่งมีความสำคัญกว่า “ทักษะ” มากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่คนเก่งทุกคนจะบริหารคนได้เสมอไปนะ

แม้จะเหนื่อยยากสักแค่ไหน แต่ต้องท่องเอาไว้ว่า ความเหนื่อยยากในวันนี้ เป็นบันไดให้ไต่ขึ้นไปสู่ความสบายในวันหน้า

เวลาที่พูดกับลูกน้อง สิ่งที่คนเป็นหัวหน้าต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือต้องให้ผู้ฟัง “เข้าใจง่าย” เพื่อให้ได้งานออกมาตรงใจทั้งสองฝ่าย บางครั้งหัวหน้าที่สื่อสารไม่รู้เรื่อง นำไปสู่วิถีการทำงานที่ผิดพลาด ทั้งกินทั้งแรง กินทั้งเวลา เพราะฉะนั้นเอาให้เคลียร์ไปเลยว่าเราเข้าใจตรงกันทั้งทีมนะ

ก่อนที่จะไปออกคำสั่งหรือปกครองใคร คนเป็นหัวหน้าต้องฝึกฝนและควบคุมตัวเองให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าแม้แต่ตัวเองยังคุมไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะไปควบคุมคนอื่นได้เลย

เอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าไปคิดแทนว่าเขาต้องการแบบนั้นแบบนี้ เพราะต่างคนก็ต่างมาจากพื้นฐานครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ “ความเข้าใจ” “ความใส่ใจ” และ “ความเห็นใจ”

ตัวเราก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ทำไมถึงกล้าไปเคี่ยวเข็ญคนอื่นให้เขาทำอย่างที่ต้องการ

ถ้าเราตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ ก็จะไม่มีประสบการณ์ไหนที่ไร้ค่า

การเสียใจที่ไม่ได้ทำนั้น มันเท่ากับว่าคุณไม่ได้ลองเผชิญหน้ากับความท้าทายดูเลย อีกทั้งยังสูญเสียโอกาสที่จะได้เรียนรู้ไปด้วย

ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าหรือตำแหน่งใหญ่โต ทุกคนเคยเป็นลูกน้องมาก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่คุณไม่ชอบเมื่อตอนเป็นลูกน้อง ก็ไม่ควรไปทำกับลูกน้องในวันที่คุณเป็นหัวหน้า แค่นี้ก็อาจเพียงพอแล้วสำหรับการเป็น “หัวหน้าที่ดี” ที่ลูกน้องทุกคนใฝ่ฝันและอยากช่วยเหลือให้งานบรรลุเป้าหมาย อาจเพราะรู้สึกว่า “ทีม” เป็นอันหนึ่งอันเดียวอย่างที่ควรจะเป็น

ปลดล็อคความเป็นหัวหน้าที่ดีในตัวคุณ ด้วย หนังสือ “51 วิธีคิดของลูกน้องที่หัวหน้าอยากสนับสนุน” ของนักเขียนน้ำดีจากแดนซากุระ อิวะตะ มัตสึโอะ คลิก