Maxx Publishing ทาสแมว วันขอบคุณแมวดำ หนังสือ เธอและแมวตัวนั้น แมว

เธอและแมวตัวนั้น | ดำแต่ตัวไม่ใช่หัวใจ ไขข้อสงสัยร้าย ๆ ในวันขอบคุณแมวดำ

Home / สารพันหนังสือ / เธอและแมวตัวนั้น | ดำแต่ตัวไม่ใช่หัวใจ ไขข้อสงสัยร้าย ๆ ในวันขอบคุณแมวดำ

เธอและแมวตัวนั้น | ดำแต่ตัวไม่ใช่หัวใจ ไขข้อสงสัยร้าย ๆ ในวันขอบคุณแมวดำ

รู้หรือเปล่าว่า ทุกวันที่ 17 สิงหาคมของทุกปี สหรัฐอเมริกายกให้เป็น “วันขอบคุณแมวดำ”

เธอและแมวตัวนั้น


นักวิจัย จาก ASPCA ชี้ให้เห็นว่า แมวดำนั้นมีโอกาสได้รับการอุปถัมป์น้อยกว่าแมวสีอื่น เมื่ออยู่ในที่พักพิงแมว อาจเป็นเพราะความเชื่อที่ครอบงำสีขนของพวกมัน เช่น หากเลี้ยงแมวดำจะเจอกับความอับโชคหรือเคราะห์ร้าย เพราะสีขนของพวกมันหมองคล้ำต่างจากแมวสีสันอื่น ๆ
เธอและแมวตัวนั้น
ในปี 2557 สถาบัน RSPCA รายงานว่า 70% ของแมวที่ถูกทอดทิ้งมักจะมีขนสีดำ ตามความเชื่อเรื่องโชคร้ายที่ปลูกฝังกันมาอย่างยาวนาน
จนกระทั่งในปี 2557 ณ เมือง โตรอนโต ประเทศแคนาดา ได้จัดงาน Black Friday ขึ้นในงานมีการจัดแสดงแมวดำ โดยผู้เข้างานสามารถรับอุปถัมป์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย(จากปกติ 75$) เพื่อกระตุ้นในคนยอมรับและอุปถัมป์แมวดำมากขึ้น
และก็เป็นไปตามคาด หลังจากวันนั้นกระแสการเลี้ยงแมวดำแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา มีคนจำนวนไม่น้อยยินดีที่จะเลี้ยวแมวสีดำโดยไม่สนใจเรื่องโชคร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ความเชื่อเรื่อง “แมวดำ” กับคนแต่ละชนชาติ เธอแแมวตัวนั้น

เธอและแมวตัวนั้น

แมวรว้ายรว้าย ที่ร้ายกว่านางร้ายในละครหลังข่าว

(1)
ตามความเชื่อโบราณ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของแมวดำมักจะมีคู่ครองหลายคน กาลกิณีทั้ง เธอและแมวตัวนั้น เพราะในประวัติศาสตร์ตะวันตก แมวดำมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปลงกายของแม่มดให้เป็นแมว
(2)
ในยุโรปเชื่อว่าแมวดำถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้ายโดยมหันต์ โดยเฉพาะหากแมวดำวิ่งตัดหน้าจะถือว่าเป็นลางแห่งความโชคร้ายและความตาย
(3)
ในเยอรมนีเชื่อว่าหากแมวดำวิ่งตัดหน้าจากขวาไปซ้ายถือว่าเป็นลางไม่ดี แต่หากวิ่งตัดซ้ายไปขวาถือว่าจะโชคดี
(4)
ในอินเดียถูกพูดถึงในแง่ของความตาย กล่าวว่า “แมวดำเป็นสัตว์ผี เทพีแห่งความตายของทารก” หากใครเห็นแมวดำที่ไหนที่นั่นมักจะมีคนตายรวมถึงเด็ก หรือหากมีงานศพก็ต้องระวังไม่ให้แมวมาถูกศพ เพราะเชื่อว่าจะเกิดมนทินกับศพนั้น ๆ
(5)
ความเชื่อในจีนกลายว่าหากแมวกระโดดข้ามศพ ศพนั้นจะคืนชีพและกลายเป็นผีที่ดุร้ายมาก
(6)
ในศตวรรษที่ 18 โจรสลัดเชื่อว่าหากแมวดำเดินทางไปกับใครจะมีโชคร้าย แต่หากแมวดำเดินห่างใครจะเจอโชคดี

เธอและแมวตัวนั้น

แต่ก็ไม่ใช่ทุกชาติที่จะเชื่อว่า “แมวดำ” คือพลังร้ายไปเสียหมด เธอและแมวตัวนั้น

(1)
ชาวสก็อตเชื่อว่าหากมีแมวดำขาจรหลงเข้าบ้าน หมายถึงจะพบกับความเจริญรุ่งเรืองในไม่ช้า เพราะจากตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา เซลติก หรือ นางฟ้าที่เชื่อกันว่าจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองนั้นอยู่ในร่างแมว
(2)
แมวดำถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีใน อังกฤษ และ ญี่ปุ่น
(3)
ชาวประมงในอังกฤษมักจะเก็บแมวดำมาเลี้ยง เพราะเชื่อว่ามันจะนำโชคดีมาให้ เพราะในมุมมองของพวกเธอ “แมวดำ” ที่ถูกนำมาใช้เป็น “แมวเรือ” จะมีอิทธิฤทธิ์และพลังรุนแรงในการปกป้องสามีของพวกเธอจากอันตรายในท้องทะเล
(4)
ชาวอียิปต์เชื่อว่าแมวดำเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดี เพราะหากเลี้ยงแมวดำ พวกเขาจะได้รับแรงสนับสนุนจากเทพเจ้าอิยิปต์และพลังจากเทพธิดาแมว หรือที่เรียกว่า Bast (หรือ Bastet )
(5)
ในศตวรรษที่ 17 เมื่อ กษัตริย์อังกฤษ พระเจ้าชาร์ลที่ 1 ได้สูญเสียแมวดำที่รัก เขากล่าวว่า รู้สึกเหมือนโชคดีของเขาได้หายไปด้วย หลังจากนั้นไม่กี่วันพระเจ้าชาร์ลที่ 1 ถูกจับกุมในฐานะกบฎและโกงกินบ้านเมือง

เธอและแมวตัวนั้น

แล้วความเชื่อเกี่ยวกับ “แมวดำ” ในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

ตามตำราไทยที่กล่าวถึงลักษณะของแมว สรุปความเอาไว้ว่า “หากได้เลี้ยงแมวดำที่สีดำตลอดทั่วตัวนั้นจะเป็นศรีแก่ผู้เลี้ยง” ในขณะที่การเลี้ยง “แมวขาวตาแดง” จะเกิดโชคร้าย อัปมงคล (อ้างอิงจากสมุดข่อย ศตวรรษที่ 19 หรือ พ.ศ.2344 – 2443)
ส่วนอคติของคนไทยเกี่ยวกับแมวดำเริ่มมีขึ้นในยุคหลังจากที่ไทยเริ่มมีสัมพันธ์กับต่างชาติ อิทธิพลทางความเชื่อจึงถูกถ่ายทอดมา ทั้งจาก จีน, อินเดีย และตะวันตก

นอกจากวันที่ 17 สิงหาคมที่ถูกยกให้เป็น “วันขอบคุณแมวดำ” แล้ว ในวันที่ 27 ตุลาคม ยังถูกตั้งให้เป็น “วันแมวดำแห่งชาติ” เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อแมวดำอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามไม่เคยมีใครบันทึกเอาไว้ว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจ้าแมวสีดำนี้แม้แต่น้อย …  เพราะฉะนั้น

Keep On And Carry On อยู่อย่างมีสติและดำเนินชีวิตต่อไป

ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore

เธอและแมวตัวนั้น

BOOK.MTHAI.COM