.
ครอบครัวที่ลัก (SHOPLIFTERS)
หนังรางวัลสู่นิยายแปลญี่ปุ่นจาก Maxx Publishing
.
หัวขโมย โดนทิ้ง สัมพันธ์นอกสายเลือด
และสังคมขมของญี่ปุ่น
.
จากภาพยนตร์รางวัล ปาล์ม ดอร์ แห่งเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สู่นวนิยายที่จะทำให้คุณเข้าใจความสัมพันธ์ของครอบครัวที่แตกต่าง เรื่องราวเกี่ยวกับ 6 ชีวิตที่มาข้องเกี่ยวกันด้ว ยเหตุผลที่ต่างกันออกไป แต่มีจุดที่เหมือนกันคือต่า งเคยเป็นคนถูกทิ้ง
.
Shoplifters แปลตรงตัวว่าหัวขโมย เรื่องราวสะท้อนความมืดหม่น ของสังคมญี่ปุ่น ภาวะตกงานและว่างงานบีบรัดก ลุ่มคนบางพวกให้ดิ้นรนมีชีว ิต รวมถึงการเป็นหัวขโมย
.
.
ทั้งเด็กสาวที่รู้สึกว่าไม่ มีใครต้องการ, เด็กหนุ่มกำพร้าที่ถูกเก็บม าเลี้ยงตั้งแต่จำความไม่ได้ , เด็กสาวหน้าตาดีที่หนีออกจา กบ้านเพื่อทำให้ตนเองเป็นที ่รัก, ชายวัยใกล้เกษียณที่มีทักษะ เดียวทั้งชีวิตคือการเป็นหั วขโมย, สาวซักรีดและแม่บ้านที่ไม่ซ ื่อสัตย์ และหญิงม่ายหัวหน้าครอบครัว ที่ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน
.
แม้เนื้อเรื่องจะดำเนินไปด้ วยความเนิบช้าเพื่อให้เราเร ียนรู้ตัวละครไปทีละคน หากแต่สอดแทรกฉากและคำพูดสะ เทือนจิตใจอยู่หลายช่วงจังห วะ ด้วยการดำเนินชีวิตของครอบครัวหัวขโมยที่สะท้อนภาพมุมดิ่งลึกของญี่ปุ่นเอาไว้ มุมมืดดำที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อน
.
.
เนื้อเรื่องย่อ
.
.
โอซามุ ชายวัยกลางคนที่ไม่เพียงแต่เป็นคนงานรับจ้างรายวัน เขายังมีงานเสริมที่ไม่ค่อยจะดีนักอย่างการลักเล็กขโมยน้อย โดยมี โชตะ เด็กชายในครอบครัวเป็นผู้ช่วย วันหนึ่งขณะทั้งคู่กลับจากการขโมยของ โอซามุและโชตะได้เจอกับ ยูริ เด็กหญิงตัวน้อยที่ถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังคนเดียว จึงได้ตัดสินใจพาเธอกลับมาที่บ้าน
.
แม้ว่า โนบุโยะ ภรรยาของเขาจะคัดค้านให้เขานำเด็กกลับไปส่งยังที่เดิม แต่แล้วพวกเขาก็พบว่าการให้เด็กหญิงอยู่ด้วยนั้นคือทางออกที่ดีที่สุด ทั้งสมาชิกคนอื่นในครอบครัวอย่าง สาววัยรุ่น อากิ และคุณยาย ฮัตสุเอะ ก็ให้การต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดี
.
แม้ครอบครัวของพวกเขาและยูริสมาชิกใหม่จะอยู่ในบ้านเก่าผุพัง ใช้ชีวิตด้วยเงินที่หามาได้เพียงน้อยนิดกอปรกับการลักขโมยที่ดูจะผิดศีลธรรมจรรยา พวกเขาก็ยังคงเป็นครอบครัวที่อยู่กันอย่างมีความสุข ทว่าในช่วงเวลาที่ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ความลับบางอย่างก็เริ่มเผยออกมาทำให้ทั้งครอบครัวต้องสั่นคลอน
.
.
.
ข้อมูลหนังสือ
.
ครอบครัวที่ลัก จากหนังสือ SHOPLIFTERS โดย Hirokazu Koreeda
ผู้แปลคือ ฐิติพงศ์ ศิริรัตน์อัสดร และ สกล โสภิตอาชาศักดิ์
จาก สำนักพิมพ์ Maxx Publishing
จำนวน 256 หน้า ปกอ่อน (พิมพ์ครั้งที่ 1 — กุมภาพันธ์ 2562)
.
.