Geek Book Maneemejai Photographer Organic Smile Photo Book มานีมีใจ

“Organic Smile” รอยยิ้มรสหวาน ไม่ปรุงแต่ง

Home / สารพันหนังสือ / “Organic Smile” รอยยิ้มรสหวาน ไม่ปรุงแต่ง

          เคยได้ยินไหม? ..ว่าเราทุกคนสามารถหยุดเวลาไว้ได้เพียงแค่กดชัตเตอร์.. เพราะไม่ว่าจะกลับไปดูกี่ครั้ง เรื่องราวใน “ภาพถ่าย” ก็ไม่ได้ถูกลดทอนลงไปตามกาลเวลาแม้แต่น้อย แต่หากว่ามันทำได้ดีกว่าบันทึกความทรงจำล่ะ? .. วันนี้เราจะพาไปพบกับ “อุ๊ สุพัตรา หมั่นแสวง” หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อ “มานีมีใจ” ช่างภาพสาวอิสระที่ได้รับความเชื่อถือจากบรรดาเน็ตไอดอลและดารามากมาย เจ้าของแฟนเพจ “” ที่มีผู้ติดตามนับแสนคน


          วันนี้เธอจะมาพูดถึง “ORGANIC SMILE” Photo book ผลงานล่าสุดที่ไม่ใช่แค่รวบรวมภาพถ่าย 25 นักแสดงสาวจากกล้องฟิล์มสีสวยสดเท่านั้น แต่ยังคืนสังคมเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ให้กับ “มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile Foundation) ” อีกด้วย

จุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพ
          ชอบถ่ายรูปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ม.ต้น ใช้กล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกประจำวันแทนไดอารี่ แต่เราใช้การถ่ายรูปแทน โดยที่เราไม่รู้ว่าเราอยากเป็นช่างภาพ ถ่ายมาเรื่อยๆจนเป็นปกติในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้อยากเป็นช่างภาพหรือต้องถ่ายรูป มารู้ตัวอีกที่มันกลายเป็นส่วนนึงของเราไปแล้ว เหมือนมันปูทางให้เราเดินมาสายช่างภาพเอง

คิดว่า “การเขียน” หรือ “ภาพถ่าย” บันทึกเรื่องราวได้ดีกว่ากัน

          ภาพถ่ายเหมือนเป็นหลักฐานที่ชัดเจน บอกเล่าเรื่องราวได้ตรงไปตรงมามากกว่า เพราะหนังสือเรายังดัดแปลงได้ แต่ภาพถ่ายเราไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้

พูดถึงโปรเจค “ORGANIC SMILE” กับ PHOTO BOOK เล่มนี้

          จุดเริ่มต้นคือเรากับพี่ออม (ออม สุชาร์ มานะยิ่ง) มีโปรเจคเพื่อช่วยเด็กปากแหว่างเพดานโหว่ เรากับพี่ออมเหมือนกันตรงที่เซนซีทีฟกับเด็ก ต่อให้เราเจอเรื่องแย่หรือร้ายขนาดไหน พอเจอรอยยิ้มของเด็กมันทำให้เรามีความสุข ยิ้มได้ และสิ่งที่เราเซนซิทีฟกว่านั้นคือเวลาเราเห็นแววตาหรือรอยยิ้มของเด็ก มันส่งผลกับความรู้สึกของเรามาก แต่ก็ยังมีเด็กอีกจำนวนนึงที่เขายิ้มไม่ได้ เด็กที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เขาต้องการค่ารักษา เขามีปัญหาเรื่องรอยยิ้ม เราก็เลยอยากจะเข้าไปช่วยเหลือตรงนั้น ก็เลยมาคุยกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง นี่คือจุดเริ่มต้นของโปรเจคนี้เลย ให้มันออกมาเป็นภาพถ่าย และกลายเป็นพลังส่งต่อไปให้กับเด็กเหล่านี้

ในฐานะ “คนหลังกล้อง” กับความหมายของรอยยิ้มที่แตกต่าง
          ความหมายมันเป็นทิศทางเดียวกันนะ แค่ลักษณะหรือเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน รอยยิ้มบางคนดูใสซื่อ บางคนดูโรแมนติก บางคนดูเท่ ดูลึก มันให้เอกลักษณ์การยิ้มที่แตกต่างกัน แต่ความหมายมันไปในทิศทางเดียวกันคือความหมายบวก ทิศทางที่ดี ความหมายที่ดี เพราะมันคือภาษาสากลของโลกที่คนเข้าใจตรงกันว่ามันคือเรื่องดีแน่นอน

กว่าจะมาเป็นภาพถ่ายที่ส่งความรู้สึกได้ขนาดนี้ มีเทคนิคพิเศษไหม?
          โปรเจคนี้มันเหมือนทุกครั้งที่เราถ่ายรูป เราไปด้วยใจ มันไม่ได้มีความคาดหวัง ไม่ได้คิดว่าเป็นงาน เราแฮปปี้ ทุกๆครั้งที่เราถ่ายเราไม่ได้ฝืน และทุกคนที่มาถ่ายเขาก็มาแบบเป็นตัวเองโดยที่เขาไม่ได้มาทำงานเหมือนกัน มันเลยรู้สึกสนุก แฮปปี้ เหมือนมาเติมเต็มชีวิตการทำงานของเรามากกว่า

ความประทับใจใน PHOTO BOOK เล่มนี้ จากระบวนการแรกจนกระบวนการสุดท้าย
          ความฝันของช่างภาพทั่วไปมันอาจจะแค่เห็นงานตัวเองในนิทรรศการ แต่การที่เป็นหนังสือแบบนี้ เราเคยฝันนะตอนเด็กๆว่าอยากทำหนังสือเกี่ยวกับภาพถ่าย แต่นี้มันเกินสเตปที่เราฝันเยอะ มันก็เลยเป็นอะไรที่ค่อนข้าง ..เหมือนฝัน ฝันอะ เกิดขึ้นจริงหรอ เราเหนื่อยนะ แต่มันก็มีคนมาเหนื่อยกับเรา เราดีใจ

ในฐานะคนถ่ายภาพรอยยิ้ม เรื่องไหนที่แค่คิดถึงก็ทำให้ยิ้มออกแล้ว
          เราเซนซิทีฟกับเด็ก ลูกใครก็ไม่รู้ แต่เราชอบไปยิ้มให้เขา เรารู้สึกว่ามีความสุข รอยยิ้มกับสัตว์เลี้ยงก็เหมือนกัน เราจะรู้สึกว่ามีความสุข เราจะยิ้มง่ายกับอะไรแบบนี้

ติดตามแฟนเพจของเธอได้ที่ Maneemejai Photographer หรือสนใจสั่งซื้อหนังสือ PHOTO BOOK “Organic Smile” ได้ที่ ORGANIC SMILE ราคาเล่มละ 399 บาทเท่านั้น