พลิกชีวิตหน้ามือเป็นหลังมือ 4 หนังสือสร้างความสำเร็จใครๆ ก็ทำได้ ถ้าเกิดว่าคุณไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หนังสือเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
o
เป็นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาก็ต้องการความสำเร็จ เพื่อตอบสนองความต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเงิน การงาน ความรัก ความเป็นอยู่ของครอบครัว แต่สังเกตุไหมว่าจะมีสักกี่คนรอบตัวเราที่จะประสบความสำเร็จกับอีกคนที่ยังคงดิ้นรนต่อ
o
ส่วนใหญ่แล้วคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ จะมีลักษณะนิสัยเป็นคนขยัน หมั่นศึกษา มีความพยายาม ไม่กลัวความล้มเหลว เพราะคนเหล่านี้เมื่อล้มแล้วจะเป็นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้และเป็นบทเรียนในภายภาคหน้าได้
o
ความสำเร็จนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อลงมือทำ แล้วมีคำถามอีกว่าเราจะเริ่มจากอะไรก่อน เริ่มจากตรงไหน เริ่มที่ใคร คำถามเหล่านี้จะกระจ่างเมื่อคุณได้เปิดอ่านหนังสือเหล่านี้ แต่ละเล่มก็จะมีความเหมาะสมกับแต่ละคนลองๆดูกันไปก่อนว่าคุณเหมาะกับเล่มไหนกันแน่ กับ พลิกชีวิตหน้ามือเป็นหลังมือ 4 หนังสือสร้างความสำเร็จใครๆ ก็ทำได้
o
4 หนังสือสร้างความสำเร็จ
ทุกอย่างในชีวิตเริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ
o
o
ถ้าเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมจะเปลี่ยน
ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัยจะเปลี่ยน
ถ้าเปลี่ยนนิสัย บุคลิกภาพจะเปลี่ยน
ถ้าเปลี่ยนบุคลิกภาพโชคชะตาจะเปลี่ยน
o
หลายๆคนอาจคิดว่าทักษะการจัดระเบียบความคิดเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วไม่ว่าอายุเท่าไหร่ อาชีพไหน ต้องใช้ทักษะเหล่านี้ทั้งนั้น
o
นักเรียนหรือนักศึกษา ต้องรู้จักย่อและจัดระเบียบข้อมูล ทำความเข้าใจรูปแบบและหลักการ จดจำแล้วตั้งคำถามเพื่อขยายความรู้ในบทเรียนและกรอบความคิดให้กว้างขึ้น
o
นักศึกษาปริญญาตรี-โท และนักศึกษาเตรียมหางาน ควรใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออย่าง Bucket List หรือกราฟชีวิตมาช่วยจัดระเบียบ เวลามีรายงานกลุ่มก็ให้ใช้กระบวนการจัดระเบียบความคิดเพื่อการพูดต่อหน้าสาธารณชน
o
นักศึกษาปริญญาโทก็ควรใช้ประโยชน์จาก Digital Map เวลาเขียนวิทยานิพนธ์เพื่อจัดระเบียบความรู้และข้อมูลจำนวนมาก ส่วนนักศึกษาเตรียมหางานก็ควรจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสัมภาษณ์ให้ดี
o
พนักงานบริษัทและผู้ก่อตั้งธุรกิจ ต้องใช้ทักษะการจัดระเบียบความคิดเวลาทำแผนงาน โครงการ รายงาน และแนวทาง รวมไปถึงตอนขายสินค้า ประชุมทางธุรกิจ ประชุมหน่วยงาน และโน้มน้าวใจ
o
ถ้าใครอยากก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง ต้องเริ่มจากการเขียนแผนธุรกิจ ซึ่งอาศัยการจัดระเบียบเนื้อหาจำนวนมาก เช่น แผนงาน แนวทาง และโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างราบรื่นและตัดสินใจได้อย่างสมเหตุสมผล
o
สำหรับ คนหนุ่มสาว ที่อยากรักษาความรักให้ยั่งยืน จำเป็นต้องเข้าใจความคิดของฝ่ายตรงข้าม เอาใจเขามาใส่ใจเรา และจัดระเบียบให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ
o
เหล่า แม่บ้าน ยิ่งจำเป็นต้องจัดระเบียบความคิด เพราะมีงานให้ทำมากมายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จึงต้องวางแผนก่อนทำงาน เพื่อให้กิจวัตรประจำวันผ่านไปด้วยดี
o
ผู้เชี่ยวชาญ จำเป็นต้องจัดระเบียบความรู้และข้อมูลให้เป็นระบบและทำให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญของตัวเอง
o
หนังสือเล่มนี้เลยได้กลั่นกรองมาเป็น 13 เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นนักแก้ปัญหาและนักสร้างสรรค์ไอเดียอย่างชาญฉลาด รับมือได้ทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับตัวคุณเองได้
o
หนึ่งวันทำอะไรได้ตั้งเยอะ
o
o
อยากให้วันนึงมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
o
เคยมีความคิดแบบนี้ไหม บางวันเราก็อยากให้มีเวลามากกว่าเดิม ในขณะที่บางวันเรากลับมีความคิดว่า เมื่อไหร่จะผ่านพ้นไปสักที แม้ไม่ว่าเราจะอยากให้เวลาผ่านไปช้าหรือเร็ว สุดท้ายแล้วเราทุกคนต่างก็มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากันอยู่ดี
o
แล้วเคยสงสัยไหมว่าในเมื่อเรามีเวลาเท่ากัน แต่ทำไมบางคนถึงได้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง บ้างก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆขึ้นมาได้ บางคนพัฒนาตัวเองจนเกิดทักษาะต่างๆ แล้วในที่สุดเขาเหล่านั้นก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญและทำสิ่งที่วาดฝันเอาไว้ได้สำเร็จ
o
หนังสือเล่มนี้รวบรวมเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุผล ตั้งแต่เรื่องเวลา เทคนิคการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และ วิธีใช้เวลาในแบบของฉัน ที่บอกเล่าตั้งแต่วิธีการวางเป้าหมายเพื่อสานฝันอย่างเป็นธรรมชาติ ไปจนถึงแนวคิดเกี่ยวกับเวลาที่มีความสำคัญในศตวรรษที่ 21
o
และช่วยสร้างความมั่นใจและความสงบในใจให้กับคนที่เอาแต่ดูนาฬิกาอยู่เสมอ แต่ไม่ทันได้คิดเลยสักครั้งว่าแท้จริงแล้วเวลาคือสิ่งใด หรือคนที่เคยลองใช้วิธีการบริหารจัดการเวลาหลายแบบ แต่ไม่เกิดผล รวมถึงคนที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร
o
สำเร็จได้ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ
o
o
จงแสวงหาการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มิใช่ความสมบูรณ์แบบ
o
การที่เราพยายามทำอะไรให้สมบูรณ์แบบมากเกินไปอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดีก็ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้น การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบก็น่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างได้มากขึ้น
o
หนังสือมีทั้งหมด 10 บท สำหรับส่วนสุดท้าย จะแปลงบทสรุปทั้งหมดในหนังสือไปสู่วิธีแก้ปัญหา โดยใช้ก้าวเล็กๆ ที่นำไปใช้ได้จริง และที่สำคัญที่สุดคือ สรุปกรอบความคิดเพื่อหลอมรวมสิ่งต่างๆเข้าไปในชีวิตโดยที่ไม่รู้สึกว่าถูกครอบงำ
o
การปรับใช้คำแนะนำเพื่อความสำเร็จเป็นส่วนที่ยากที่สุด ในการเติบโตเพราะเรามักจะมีสิ่งที่อยากทำมากกว่าสิ่งที่เราทำได้จริง ดังนั้นผมจึงคิดว่าบทสุดท้ายและโครงสร้างของหนังสือจะเป้นประโยชน์อย่างมาก
o
คิดแบบไหนไม่ให้กลายเป็นคนขี้แพ้
o
o
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้
ไม่มีคำว่าสายเกินไป
ไม่มีคำว่าไม่ดีพอ
ขอเพียงเริ่มต้นใหม่วันนี้
คุณก็เป็นคนหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จได้
o
เวลาเราได้เจอกับคนเก่ง คนที่ประสบความสำเร็จ คงมีความรู้สึกแตกต่างกันไป บางคนอาจรู้สึกทึ่ง ชื่มชม อิจฉา หรืออยากเป็นให้ได้สักเสี้ยวหนึ่งของคนคนนั้นบ้าง แต่บางคนก็อาจอดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ ที่ยังทำอะไรไม่ถึงไหน จนต้องถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า ฉันทำไม่ได้หรอก
o
แม้คำพูดที่ว่า ฉันทำไม่ได้หรอก จะเป็นเพียงคำพูดสั้นๆ แต่การสื่อสารกับตัวเองเช่นนี้ มีผลต่อตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะผลที่ตามมาคือเราได้ตัดโอกาสพิสูจน์ตัวเอง และตัดความเป็นไปได้ที่มากเกินกว่าจะคาดเดาออกไป ทำให้เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ถ้าลงมือทำจริงๆ จะเป็นอย่างไร เราอาจจะทำได้ก็ได้
o
หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมวิธีการปรับเปลี่ยนมุมมองเรื่องความหมายของสิ่งที่เคยขัดขวางเราจากความสำเร็จ เพื่อให้ผู้อ่านก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดต่างๆ ด้วยวิธีการสื่อสารกับตัวเอง ความสำเร็จของคนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีจุดเริ่มต้นจากการลงมือทำ
o
เมื่อได้ลงมือทำอาจค้นพบว่า สิ่งที่เราเคยมองว่าเป็นจุดอ่อน หรือข้อจำกัดบางอย่างก็กลายเป็นจุดแข็งได้ การลงมือทำเริ่มต้นจากการตัดสินใจหรือการคิด อย่าปล่อยให้สิ่งที่เราคิดว่าเป็นข้อจำกัดมาจำกัดตัวเรา
o
oovd
เกี่ยวกับหนังสือสร้างความสำเร็จ
o
o
ทุกอย่างในชีวิตเริ่มจากความคิดที่เป็น
พกจูฮวัน เขียน
ภัททิรา จิตต์เกษม แปล
o
หนึ่งวันทำอะไรได้ตั้งเยอะ
โชจองฮวา เขียน
ฟันนี่อีฟ วาดภาพประกอบ
หัวหอมปอกเปลือก แปล
o
สำเร็จได้ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ
สตีเฟน ไกส์ เขียน
ชนิกานต์ แตงน้อย แปล
o
คิดแบบไหนไม่ให้กลายเป็นคนขี้แพ้
อุระ โทะคิ เขียน
พนิดา กวยรักษา แปล
o
หนังสือที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังมีการจัดหมวด สุดยอดหนังสือที่จะทำให้คุณพัฒนาตัวเอง ไว้ หากสนใจคลิกเข้าไปอ่านได้นะครับ
o