MThai
Video
Seeme
เฟรนด์โซน
เฟรนด์โซน
.
FRIEND ZONE
ความเป็นเพื่อน ระหว่างเราสูญหาย .. เมื่อใครสักคนบอกรัก
.
.
จะเห็นได้ว่ากระแส ‘เฟรนด์โซน’ ในช่วงนี้บูมขึ้นอย่างมาก จากทั้งพันทิปหรือแม้หนังดังอย่างเรื่อง ‘Friend Zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน’
อันเนื่องมาจากคนนิยมเป็นเพื่อนกันอย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมถึงต้องมีโซนเพื่อนบัญญัติไว้ในความสัมพันธ์บางประเภทด้วย
เฟรนด์โซน
FRIEND ZONE ( เฟรนด์โซน ) : ตามพจนานุกรมภาษาอังกฤษของ Oxford English Dictionary ได้ให้ความหมายไว้ในปี 2014 คือ สถานการณ์ที่เกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างคนสองคน โดยฝ่ายหนึ่งอยากสานต่อความสัมพันธ์ในทิศทางโรแมนติกหรือทางเพศ แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจหรือรู้สึกเหมือนกัน
.
กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
.
ทุกคนมีเพื่อน เธอ / เขา ต่างเพศ ที่วันหยุดไปช็อปปิ้งด้วยกัน ดูหนัง ดินเนอร์ หรือแม้แต่คุยโทรศัพท์กันจนเครื่องร้อนจี๋ ก่อนจะ text บอกฝันดี พรุ่งนี้เจอกันนะ
ทำวนลูปไปมาอยู่แบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีใครคนหนึ่งรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนในท้อง หวั่นไหว ใจสั่น ลั่นวาจาว่ารักออกไป
แต่สุดท้าย จบลงที่ความผิดหวัง กับประโยคสามัญประจำคนเศร้าว่า “เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?”
ระหว่างเราสูญหาย
ฉันไปไหนไม่ได้ เขาไม่เคยบอกให้ฉันอยู่
แต่ก็ไม่เคยบอกให้ฉันไป
ทุกวันฉันตาย, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
.
แม้เจ็บแปลบเจียนตาย แต่นี่คือรสชาติของ Friend Zone โซนของเพื่อนรัก ที่รักเพื่อนเข้าอย่างจัง อารมณ์ประมาณว่า “เธอรัก เธอรู้สึก ฉันรู้หมด แต่ฉันไม่รักเธอ แบบที่เธอรักฉันเลยสักนิด”
ซึ่งการติดอยู่ในมิตรภาพที่น่าหงุดหงิดใจนี้ ดูหาทางออกไม่ง่ายเลย ล้อเล่นกับเรื่องอะไรก็ได้ อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกและหัวใจ เพราะ “เฟรนด์โซน” ไม่ใช่สถานที่ที่ง่ายต่อการใช้ชีวิตสักนิดเดียว
.
.
ทุ่มเทแทบตาย เป็นได้แค่ “เพื่อน”
.
ก่อนจะนำตัวเองออกมาจากเขตความสัมพันธ์ที่หน่วงใจ หันไปทางไหนก็ห่อเหี่ยว เราจำเป็นต้องหาสาเหตุที่เข้าไปติดอยู่ในนั้นให้ได้เสียก่อน
โดยพื้นฐาน มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมกันเป็นสังคมตั้งแต่ขนาดย่อมไปถึงขนาดใหญ่ ดังนั้นทุกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีการแลกเปลี่ยนทางสังคมเป็นตัวขับเคลื่อน
ระหว่างเราสูญหาย
นั่นหมายความว่า เมื่อมนุษย์ต้องการมีความสัมพันธ์กับใคร มักจะเกิดการ “ให้” และ “รับ” ระหว่างบุคคลเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนั้นจะเป็น สิ่งของ วัตถุ หรือ ข้อตกลงต่าง ๆ อะไรก็ได้ ที่สร้างความพึงพอใจให้กับทั้งสองฝ่าย
ซึ่งการแลกเปลี่ยนที่ว่านี้จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ฝ่ายหนึ่งได้สิ่งที่ต้องการ และอีกฝ่ายยินดีจะให้
ระหว่างเราสูญหาย
.
เขาดูมีความสุขเหมือนกับว่าฉันไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ ดูร่าเริง
ในขณะที่หัวใจของฉันกำลังแตกสลาย
ทุกวันฉันตาย, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
.
ถ้าจะเป็นเพื่อนกัน อย่าทำแบบนี้
.
เมื่อคุณใช้หัวใจแลกความรัก กับคนที่ไม่อยากได้ การแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจึงไม่สมบูรณ์ เพราะหัวใจและความรักของคุณ ไม่ใช่สิ่งที่เขาเฝ้ารอและต้องการ
สิ่งนี้จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณติดแหง็กในเขตแดนแห่งเฟรนด์โซนเข้าอย่างจัง
เฟรนด์โซน
บางรายสู้ยิบตาจนตัวตาย ยอมเป็นทุกอย่างให้ได้แม้จะไม่ได้เป็นแฟน ทุ่มเททั้งกายใจเสมือนขายวิญญาณเพื่อความสัมพันธ์เจือจาง หล่อเลี้ยงหัวใจอันแห้งเหี่ยวด้วยความหวังอันน้อยนิด
ว่าสักวันเขาจะหันกลับมามอง สักวันความสัมพันธ์จะพัฒนาไปมากกว่านี้
และสักวันคนดีจะมีที่ยืนในหัวใจ
ระหว่างเราสูญหาย
แต่ “ความรัก” ไม่ใช่รางวัลของการทำดี จึงมีส่วนน้อย (น้อยมากถึงน้อยที่สุด) ที่สมหวังได้ดั่งใจปรารถนา เพราะส่วนใหญ่ ถ้าไม่ตายด้านก็ใจชา ตกเป็นเบี้ยล่างให้กับความสัมพันธ์ที่เสียเปรียบอย่างคนไร้ข้อแม้
ระหว่างเราสูญหาย
.
เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ความเงียบทำให้ฉันอย่างหาทางออก
แต่ความรักก็ปิดขวางเราทุกทาง
ทุกวันฉันตาย, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
.
แล้ว “เฟรนด์โซน” จะเป็นไปในรูปแบบไหนได้บ้าง? นี่คือสถานการณ์จำลองเผื่อคิดภาพตามไม่ออก
Situation 1
A และ B เป็นเพื่อนกัน ซึ่งในฐานะ “เพื่อน” A ยอมทำทุกอย่างให้ B โดยสมัครใจ ทั้ง พาเธอไปที่ที่อยากไป, ซื้อของที่เธออยากได้, ใส่ใจในทุกปัญหาและช่วยเหลือ B ทุกครั้งที่เกิดปัญหา
A อยากเป็นแฟนของ B แต่ B ไม่รู้สึกแบบเดียวกัน B คิดว่า A คือเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้อยากจะเป็นมากกว่านี้ เธอรักอิสระ ไม่ต้องการโฟกัสที่ใคร แต่ก็ยังคงรับความปรารถนาดีจาก A เสมอ
นี่จึงเป็นเหตุให้ A ตกอยู่ในเขตความสัมพันธ์ Friend Zone
หลังจากเปิดเผยความในใจ รีเบคก้าไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที
เธอเพียงแค่ยิ้ม
ชาลีถึงรีเบคก้า, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
Situation 2
C และ D เป็นเพื่อนที่มีผลประโยชน์บางอย่างคาบเกี่ยว (Friend with benefits) พวกเขาไปเที่ยวด้วยกัน รวมถึงมีอะไรกัน .. C ต้องการคบหากับ D ในสถานะแฟน แต่ในทางกลับกันอีกฝ่ายมีความสุขเพียงแค่อยากมีอะไรกับเธอก็เท่านั้น
ในสถานการณ์นี้ C ยังได้รับการเติมเต็มจาก D ในเรื่องเซ็กซ์ แต่กลับไม่ถูกตอบสนองในเรื่องความต้องการในการคบหา เพราะฉะนั้นการแลกเปลี่ยนทางสังคมระหว่างเธอและเขาจึงไม่สมบูรณ์ เพราะเนื้อแท้ของความสัมพันธ์นี้ ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของกันและกันได้ทั้งหมด
C จึงติดอยู่ใน Friend Zone
เราสัมผัสกันเท่าที่จำเป็น ไม่มากเกินกว่านั้นและไม่น้อยไปกว่าที่เป็น
เหมือนความสัมพันธ์ของเราที่ยังไม่ถูกพูดถึงไม่ห่างไปกว่านั้นและก็ไม่ใกล้ไปกว่าที่เป็น
ควันบุหรี่ ณ รูฟท็อป บาร์, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
.
แหกเขต เฟรนด์โซน ด้วยการลองใจ
.
ไม่อยากตกอยู่ในความสัมพันธ์ฉันท์ “เฟรนด์โซน” ใช่ไหมล่ะ? อย่างแรกที่คุณต้องตระหนักให้มากคือ การเจรจา-ต่อรอง ทุกคนมีคุณค่าและไม่ต้องรอเศษซากความรักจากใครทั้งนั้น
ในเมื่อข้อแลกเปลี่ยนระหว่างคุณและเขาไม่โอเค โดยพื้นฐานแล้วจำเป็นต้องต่อรองเพื่อให้ความสัมพันธ์เกิดความสมดุล
ระหว่างเราสูญหาย
.
หลังจากนั้นเราก็เลิกสนิทกัน แล้วสติกเกอร์รูปหัวใจก็ถูกแกะออก
ไม่ใช่จากแขนเสื้อของเขา แต่หมายถึงถูกแกะออกจากความชอบของฉันเสียมากกว่า
อาทิตย์ไม่เคยแผดเผาดวงจันทร์, 1991 ระหว่างเราสูญหาย – พิมประภา
.
เช็คให้ชัดว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดกับคุณเกินเพื่อน หรือที่แท้แค่กั๊ก
1) สนใจน้อยลง
ความสัมพันธ์ที่ไม่สมดุล เกิดขึ้นจากการที่คุณพุ่งความสนใจไปที่คนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะเมื่อ “ให้ไปมาก” และ “ไม่ได้กลับคืน” จึงทำให้ตัวเอง “ขาดเเคลน”
ดังนั้นควรเริ่มปรับเปลี่ยนจากพฤติกรรม โดยเริ่มจากตัวคุณเองก่อน คนหมดหวังบางคนมองไม่เห็นคุณค่าตัวเองนัก จึงเริ่มทำสิ่งที่คนอื่นต้องการมากกว่าที่ตัวเองต้องการ เพราะคิดว่ามันจะช่วยสร้างคุณค่าให้กับตนได้บ้าง
แต่การกระทำประเภทนั้น นอกจากจะไม่ช่วงสร้างคุณค่าใด ๆ ยังมีแต่จะทำให้คุณติดอยู่ในเขตความสัมพันธ์แสนหน่วงนี้ไปตลอดอีกด้วย
เมื่อไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรต้องได้รับ ก็ไม่เห็นจะต้องใส่ใจให้ใจเสีย เดินออกมาจากความสัมพันธ์ขาดวิ่นนั่นเสีย
เพราะคนที่กล้าเดินออกมาจากความสัมพันธ์เป็นคนแรก มักมีอำนาจในการชี้นำทิศทางความสัมพันธ์นั้นก่อนเสมอ (อ้างอิงหลักการจาก “หลักการสนใจน้อยที่สุด – Waller&Hill, 1951)
ระหว่างเราสูญหาย
.
2) ทำให้ตัวเองเป็นของหายาก
เคยเป็นทุกอย่างให้กันก็ต้องเปลี่ยน ใช้เวลาห่างจาก “เพื่อน” คนดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเมื่อต้องขาดคุณไป และคุณสำคัญมากพอ มันจะสร้างความรู้สึกบางอย่างที่บ่งชี้ให้เขารู้สึกตัวว่า “เขาต้องการคุณมากนะ และขาดคุณไม่ได้หรอก”
นี่คือหลักการ “ความขาดแคลน” โดยผู้คนจะให้ความสำคัญกับบางสิ่งมากเป็นพิเศษ หรือสนใจมันมากขึ้น เมื่อมันหายากและขาดแคลน หรือเมื่อสิ่งนั้นถูกพรากจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว (Cialdini, 2009)
เมื่อคุณไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อทำทุกอย่างให้ได้ทันใจทันทีที่ร้องขอ และไม่ได้สนใจเขามากเหมือนเก่า เขาจะรู้สึกสูญเสียและปรารถนาที่จะมีคุณมากขึ้น เขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อตอบสนองความถวิลหาดังกล่าว
แต่ถ้าหากว่าพฤติกรรมที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นไม่เกิดขึ้น นั่นเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า “คุณไม่ได้สำคัญอะไรกับเขามากขนาดนั้นเสียหน่อย”
ไม่เห็นต้องแคร์ แค่เดินหน้าต่อไป
ระหว่างเราสูญหาย
.
3) สร้างการแข่งขัน
ลองออกไปเจอสังคมใหม่ดูบ้าง โดยเฉพาะเพื่อนต่างเพศที่หลงไหลและคลั่งไคล้ในตัวคุณ การสร้างเครือข่ายสังคมใหม่ ๆ เช่น การพูดคุยกับเพื่อนใหม่ ๆ จะทำให้ “เพื่อน” คนดังกล่าวรู้สึกอยากแข่งขันและหึงหวง
โดยหลักการที่เรียกว่า “ความขาดแคลน” (Cialdini, 2009) ได้อธิบายไว้ว่า คนเรามักโฟกัสไปในสิ่งที่ตัวเองสูญเสียก่อนเสมอ
และถ้ายิ่งคุณมีเพื่อนใหม่ที่ดูเข้าขากันได้ดี มีกิจกรรมน่าสนุกทำกันตลอดจนเหมือนว่าคุณไม่ได้สนใจอะไรเขามากแล้ว ยิ่งทำให้ความหึงหวงพลุกพล่าน
แต่ถ้าสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น นั่นแปลได้ว่า “เขาไม่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนจริง ๆ” ในกรณีนี้ให้เดินหน้าความสัมพันธ์กับคนใหม่ได้เลย ไม่ต้องรอให้เสียเวลา
ระหว่างเราสูญหาย
.
4) อยากทวงคืน ต้องลงทุน
อยากได้คืนต้องลงทุน! ลองคิดดูว่าตอนที่เพราะตอนที่ทำเพื่อคุณ ดันไม่เห็นค่า ช่วยไม่ได้ ได้เวลาเชิดแล้วล่ะ เพราะหลักการนี้เป็นหลักการที่เรียกว่า “Ben Franklin Effect” (Jecker&Landry, 1969)
ที่กล่าวว่า เมื่อต้องลงทุนกับความสัมพันธ์ใดมากเป็นพิเศษ ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีคุณค่าทางจิตใจขึ้นมากทีเดียว ยิ่งเขาต้องลงทุนอะไรให้ คุณจะยิ่งมีค่าสำหรับเขามากเท่านั้น
ดังนั้น หยุดทำบุญทำทาน และเริ่มร้องขอ ลองขอให้เขาพาไปที่ต่าง ๆ ขอให้ช่วยแก้ปัญหา หรือแม้กระทั่งเปิดฝาขวดน้ำก็คือการสร้างคุณค่าทั้งนั้น
ระหว่างเราสูญหาย
ทั้ง 4 วิธีนี้เองจะพาคุณสู่ความสัมพันธ์ที่สมดุล อีกทั้งยังทวงคุณค่าของคุณที่เคยถูกลืมกลับมา คุณจะรู้ว่าตัวเองมีค่ามากแค่ไหน หลังจากคุณทำให้ตัวเองมีคุณค่าและชัดเจนในทางที่คุณเลือก
.
.
ไม่อยากเสียเพื่อน ต้องทำยังไง?
.
เมื่อเคลียร์ความชัดเจน รัก หรือ กั๊ก ได้แล้ว สิ่งที่ตามมาหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้คือ หลายคนยังอยากรักษาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน (เป็นเพื่อนกันจริง ๆ ) กับคนนี้เอาไว้
นี่คือ 3 วิธีที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนได้อย่างลงตัวโดยที่ต่างฝ่ายไม่แตกหักกันไปเสียก่อน
ระหว่างเราสูญหาย
.
1) ทำตัวคูล ๆ และยอมรับในสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น
หลังจากรู้แน่ชัดแล้วว่าเป็นอื่นไม่ได้นอกจากเพื่อน อย่าได้ร้องขอโอกาสเพื่อสานความสัมพันธ์ หรือยื้อไว้เด็ดขาด!
ในเมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจอย่างหนักแน่นว่ายังไงก็ไม่เลื่อนความสัมพันธ์ไปมากกว่าเพื่อน คุณจำเป็นต้องยอมรับสถานการณ์ทั้งหมดให้ได้ด้วยหตุผล เริ่มจากให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายน้อยลง และสนใจความสุขของตัวเองมากขึ้น
ระหว่างเราสูญหาย
2) เก็บแรงมุ่งมั่นไว้รักตัวเอง
ไม่มีใครเพอร์เฟคไปเสียทุกเรื่องหรอก มนุษย์อย่างเรามีเรื่องให้พัฒนาตัวเองกันทุกวัน และวาดหวังว่าจะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นเริ่มมองหาสิ่งที่ดีต่อตัวคุณเองบ้าง
เช่น การออกไปเล่นกีฬาและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อสุขภาพกายดีแล้วจึงพัฒนาสุขภาพใจและสมองควบคู่กันไป การพัฒนาเหล่านี้จะช่วให้คุณดูเร่าร้อนและน่าสนใจ ..เมื่อคุณมั่นใจในตัวเอง รักตัวเองมากกว่าที่เคย ใครบ้างจะไม่หลงรักคุณ
ระหว่างเราสูญหาย
3) ใช้เวลากับ เขา/เธอ ให้เหมือน เรื่องสามัญทั่วไปไม่พิเศษ
จบสิ้นกันทีกับสิทธิพิเศษเหนือกว่าเพื่อนคนอื่น ทั้ง เทียนอโรม่า, อาหารค่ำ, นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือแม้แต่นอนกอดก่ายกันยันเช้า สิ่งที่คุณต้องทำคือ “เรื่องสามัญ” ที่เพื่อนทั่วไปทำ
แม้ว่า เขา/เธอ ร้องขอสิ่งพิเศษเพิ่มเติมตามตามเคยชิน คุณมีเพียง 2 เหตุผลเพื่อตบปากรับคำคำร้องขอเหล่านั้น คือ :
1) เป็นความคิดที่ดีที่คุณจะไม่เสียแปรียบและตกหลุมพราง “เฟรนด์โซน” อีกรอบ
2) มันคือ “เรื่องบังเอิญ” ไม่ใช่ “สิ่งพิเศษ” ที่คุณตั้งใจทำเพื่อ เขา/เธอ
ด้วยสถานการณ์เหล่านี้จะทำให้ เขา/เธอ มองเห็นขอบเขตความเป็นเพื่อนชัดเจนมากขึ้น และปฏิบัติกับคุณในทางที่สุภาพและสมควร ทั้งนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับการวางตัวของคุณนั่นเอง
ระหว่างเราสูญหาย
ก่อนที่จะแหกคอก “เฟรนด์โซน” นี้ออกมาได้ คุณต้องเด็ดขาดและยอมรับได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความสัมพันธ์ เพราะ “มันจะไม่มีวันเหมือนเดิม” ไม่ว่าทิศทางดีหรือร้ายก็ตาม
แต่ไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ขอให้มั่นใจว่าคุณจะทวงคืนคุณค่าของตัวเองกลับมาและเป็นที่ต้องการมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
.
.
“เฟรนด์โซน” ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คุณเผชิญอยู่คนเดียวเสียหน่อย ให้ ” 1991 – ระหว่างเราสูญหาย ” – พิมประภา จาก Her Publishing อยู่ข้าง ๆ ตอนที่ใจบอกช้ำ กับ 15 เรื่องสั้นแสนเศร้า
ทั้งเรื่องราวของเฟรนด์โซน, รักไม่สมหวัง, อกหัก รวมถึงความสัมพันธ์ที่พ่ายพัง ผ่านการถ่ายทอดอารมณ์หม่นเศร้าจนขมใจ และถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียล
ระหว่างเราสูญหาย
หากผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ก็อย่าลืมขอบคุณทุกคนที่พาคุณก้าวผ่านจากโซนอันตรายนี้และอย่าทิ้งใครไว้ข้างหลังเมื่อตัวเองดีขึ้น คุณคงไม่อยากเป็นคนที่ตัวเองเกลียดด้วยการใช้ใครเป็นเครื่องมือและถีบหัวส่งใช่ไหมล่ะ
ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore
MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส
