Her Publishing Milk and Honey บทกวี

เมื่อบทกวีที่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ กำลังเลือนหายไปจากโลก

Home / สารพันหนังสือ / เมื่อบทกวีที่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ กำลังเลือนหายไปจากโลก

หนึ่งงานศิลป์ที่มีคุณค่า กำลังเลือนหายไปจากโลก บทกวี


.

บทกวี มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ กำลังเลือนหายไปจากโลก

.


บทกวี

สื่องานศิลป์เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติที่เคยทำให้หลายคนตกหลุมรักวรรณกรรม แต่กลับได้รับความนิยมน้อยที่สุดในตลอดหลายปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากระดับความยากของภาษาที่ซับซ้อนกว่าการอ่านหนังสือประเภทอื่น ๆ เพราะต้องตีความให้แตกฉานเพื่อเข้าใจและดื่มด่ำในความหมาย

..

แม้มันเคยถูกใช้ในทุกช่วงเหตุการณ์ของประวัติศาสตร์ ตั้งแต่บทวิเคราะห์ของอริสโตเติลที่มีส่วนหนึ่งเขียนไว้ในรูปแบบของกวี ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนลงความเห็นว่ามันช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงอารมณ์ของผู้เขียนได้ดีกว่ารูปแบบอื่น และเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการจะสื่ออย่างถ่องแท้ แต่ในวันนี้มันกลับค่อย ๆ เลือนหายตามกาลเวลา

.

บทกวี

. .

ประโยชน์ของการอ่าน

❶ พัฒนาทักษะด้านคำศัพท์และความจำ

ประโยชน์ของบทกวีที่เห็นได้ชัดคือสามารถปลดล็อคคำศัพท์ได้มากขึ้น พร้อมเพิ่มพูนทักษะการพูดให้ดูน่าฟัง เพราะบทกวีต่าง ๆ จะทำให้ผู้อ่านส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้น และกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ .

.

เราจึงไม่ควรอ่านบทกวีในรูปแบบการอ่านหนังสือธรรมดา แต่ต้องให้ความสำคัญกับคำและสัมผัส ซึ่งสิ่งนี้ส่งเสริมให้ผู้อ่านต้องใช้สมองอย่างหนักเพื่อทำความเข้าใจภาษาที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อในรูปแบบของตัวเอง .อีกทั้งการหมั่นฝึกท่องจำบทกวี ยังช่วยให้สุขภาพสมองดีขึ้นในระยะยาว เพราะมีผลการวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าคนที่จดจำบทกวีอยู่เสมอ มีแนวโน้มจะเป็นโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าคนที่ไม่อ่านบทกวีเลย .

.

❷ พัฒนาทักษะการคิดแบบมีวิจารณญาณ

ธรรมชาติของบทกวีส่วนใหญ่มักบังคับให้ผู้อ่าน คิด วิเคราะห์ และตีความหมาย เช่นเดียวกับผลงานบทกวียอดเยี่ยมที่ได้รางวัลหลายชิ้น ก็มักมีความหมายซับซ้อน ไม่ชัดเจน หรือมีความหมายหลายมิติ

.

วิธีการถอดรหัสบทกวีจึงเป็นวิธีที่ทำให้ผู้อ่านได้ใช้สมองเพื่อคิดวิเคราะห์อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะ นักเรียน-นักศึกษา หรืออาชีพที่ต้องใส่ความคิดเห็นของตนเองเข้าไปในงานที่ทำ การอ่านบทกวีจะช่วยให้คุณมีมุมมองที่กลมกล่อมและอ่อนโยน ด้วยทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณที่ช่วยให้คุณควบคุมการใช้ภาษาได้ดียิ่งขึ้น .

.

❸ เข้าใจสิ่งรอบตัวได้ไวและง่ายขึ้น

พลังที่โดดเด่นที่สุดของงานวรรณกรรม คือผู้อ่านและผู้เขียนสามารถข้ามเวลาและแหกคอกขอบเขตทางวัฒนธรรมได้ ดังนั้นบทกวีส่วนใหญ่จึงสามารถกระตุ้นความทรงจำและสร้างอารมณ์ร่วมแก่ผู้อ่านได้ ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่างอารมณ์นี้เองที่ช่วยพัฒนาความเห็นอกเห็นใจที่พึงมีในมนุษย์ให้มากขึ้น

.

เช่น ผู้อ่านอาจไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับชีวิตในยุคเอลิซาเบธของอังกฤษแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามบทกวีได้แหกคอกวัฒนธรรมและเชื่อมต่อช่วงเวลาระหว่างศตวรรษที่ 17 และยุคปัจจุบัน ให้ต่อกันได้ด้วยความรักและความปรารถนา ในกวีนิพนธ์ของเช็คสเปียร์

.

พอพูดถึงบทกวีก็พาผู้อ่านหลายคนใจไม่ดี เมื่อคิดถึงตอนแปลความหมายที่ยุ่งยากซับซ้อน ทุกอย่างจะง่ายขึ้นเมื่อเราฝึกฝนจนชำนาญ และนี่คือเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจมันได้ง่ายขึ้น .

บทกวี

. .

✪ วางไว้ข้างเตียง

โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เราสร้างเรื่องให้ตนเองวุ่นวายได้ตลอด ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการอ่านบทกวีที่สุดคือ ก่อนเข้านอน เพราะเป็นเวลาที่สมองใกล้ปิดการทำงานเพื่อผ่อนคลายจากความเครียดทั้งปวง

หากคุณวางมันเอาไว้ข้างเตียง อาจมีแนวโน้มที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่านมากกว่าเก็บไว้บนชั้นหนังสือ พร้อมทั้งฝึกนิสัยให้ชอบอ่านได้ง่ายขึ้นเมื่ออ่านมันทุกวัน

.

✪ วางบทกวีเอาไว้ในห้องน้ำ

ระหว่างที่กำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หลายคนชอบหยิบเอาแชมพูหรือครีมอาบน้ำมาอ่านฉลากสินค้าด้วยความเบื่อหน่ายหรือไถหน้าจอมือถือด้วยความว่างเปล่า นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะเปลี่ยนจากฉลากสินค้าเหล่านั้นเป็นบทกวีสักบท ที่จะสร้างความสุขและความสุนทรีระหว่างการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้มากขึ้น .

.

✪ ฝึกอ่านจากร้อยแก้ว

จะข้ามขั้นไปบทกวีทั้งที่ยังมีทักษะน้อยนิดก็อาจจะลำบาก ลองเลือกอ่านหนังสือในหมวดหมู่เดียวกับ เช่น ร้อยแก้ว ที่มีการเล่นคำและสัมผัสในระดับที่อ่านง่ายลงมาหน่อย อย่าง ‘Milk and Honey’ หรือ ‘Sun and Flower’ เป็นต้น หนังสือพวกนี้จะช่วยให้คุณค่อย ๆ ไต่ระดับจากความง่ายไปยากได้อย่างไม่ฝืนใจนัก .

.


แนะนำหนังสือ

‘Milk and Honey – ปานหยาดน้ำผึ้ง’

บทกวี

.

หนังสือขายดีอันดับหนึ่งของนิวยอร์กไทมส์ Milk and Honey ร้อยแก้วความเรียงที่เขียนด้วยภาษาที่งดงามเข้าใจง่าย ถ่ายทอดเรื่องราวการอยู่รอดจากประสบการณ์การถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ความรัก ความสูญเสีย บทบาท และภาวะความเป็นผู้หญิง แบ่งออกเป็น 4 บท แต่ละบทมีจุดประสงค์เพื่อสื่อความหมายที่แตกต่าง และการเยียวยาความเจ็บปวดที่ต่างกัน .

.

รูปี กอร์ ผู้เขียนหนังสือ คือศิลปิน-นักกวีสาวชาวอินเดียสัญชาติแคนาดา ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่เธอมีหนังสือบทกวีผสมความเรียงออกมาสองเล่มแล้ว นั่นก็คือ Milk and Honey หรือ ปานหยาดน้ำผึ้ง เล่มนี้ และผลงานเล่มที่สองของเธอที่ชื่อ The sun and her flowers นั่นทำให้รูปีได้รับการยกย่องเป็น“เสียงของหญิงสาวแห่งยุคสมัย” ไปเป็นที่เรียบร้อย .

.

ไม่เว้นแม้แต่ดาราฮอลลีวูดนักอ่านอย่าง เอ็มม่า วัตสัน ที่ปลื้มในผลงานของเธอเป็นอย่างมาก Milk and Honey จะทำให้ผู้อ่านก้าวผ่านช่วงเวลาที่ขมขื่นของชีวิต และค้นพบความหวานชื่นในห้วงเวลาเหล่านั้น เพราะว่าความหวานชื่นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งแม้กระทั่งในความปวดร้าว ถ้าหากคุณใช้ใจมอง . คลิกเพื่อสั่งซื้อหนังสือ .

.



 

MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส