Her Publishing Rupi Kaur the sun and her flower หนังสือแนะนำ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : Rupi kaur

Home / Editor Picks / ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : Rupi kaur

ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.

ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : the sun and her flower

.

“สิ่งใดกันเล่า จะแข็งแกร่งกว่าหัวใจคนเรานี้ ที่แหลกสลาย ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ยังไม่ตาย”

.

นี่คือถ้อยคำบอกเล่าเรื่องราวที่แตกหน่อจากผลงานเล่มก่อนแล้วออกดอกเป็นตัวของตัวเอง ทั้งเติบโตและเหี่ยวเฉา ทั้งโอบกอดและซ้ำเติม หาก “ปานหยาดน้ำผึ้ง” เปรียบดังหมู่ภมรที่โหมกระพือออกมาจากรังแห่งความรวดร้าว “ในมือเธอมีดอกทานตะวัน” ก็คงเหมือนดอกไม้บานที่ร่มเย็นพอให้มวลหมู่ผึ้งเหล่านั้นมาพักอาศัย

.

สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ “ในมือเธอมีดอกทานตะวัน” สะท้อนให้เห็นการเติบโตของผู้หญิงคนหนึ่งในฐานะมนุษย์ที่พยายามทำความเข้าใจโลกมากขึ้น แต่ยังคงยืนหยัดในความคิดของตนเองว่า ผู้หญิงมีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของความรักหรือปล่อยมันไปได้อย่างเสรี และหวังว่าความคิดและความหวัง

.

แห้งเหี่ยว

.

ความรักไม่ได้หน้าตาเหมือนใคร รักคือการกระทำ รักคือการเสียสละให้ แม้เพียงเค้กชิ้นที่ใหญ่กว่าก็ได้ รักคือความเข้าใจ เราสามารถทำร้ายกันสักวัน

.

แต่เราจะทำสุดความสามารถ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีวันนั้น รักคือการรู้ซึ่งถึงความดีงามที่เราควรค่า และถ้าหากมีใครเข้ามา บอกว่าจะทำดีต่อเราเช่นกัน

 

แต่หลังจากนั้นกลับก่อความสูญเสีย แทนที่จะส่งเสริมเราได้

.

“ร่ายการฉันสัมผัสได้ว่าคุณจะทอดทิ้งไป”

หน้า 40 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.


ร่วงโรย

.

ฉันตื่นมาคิดว่าวันนี้สบาย ไม่ต้องทำซ้ำเดิมอีกต่อไป ฉันใสซื้อเกินจะรู้ว่าแผลใจ รักษาไม่หายง่ายดายปานนั้น ไม่มีวันสุดท้าย ไม่มีเส้นชัย แผลใจต้องรักษาเรื่อยไปทุกวัน

.

คนเรามีพร้อมพรั่ง แต่ยังอยากได้ไม่เลิกรา
จงหยุดไขว่คว้าสิ่งที่ขาดไป แล้วมองสิ่งที่มีอยู่ให้ดีๆ
.
‘ความพอใจอยู่ตรงนี้’

หน้า 112 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.

.

หยั่งราก

.


หลังผ่าตัดครั้งนั้น แม่บอกฉัน ว่ามันแปลกประหลาดเสียจริง ที่พวกเขารื้อทิ้ง บ้านหลังแรกที่ลูกแม่พักพิง

.

‘แม่ยอมละทิ้งความใฝ่ฝัน เพื่อให้ฉันได้ฝันใฝ่’

หน้า 150 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.


.

งอกเงย

.

ทำไมฉันถึงต้องสองจิตสองใจ ฉันอยากให้คุณต้องการ แล้วพอเป็นเช่นนั้น ฉันกลับหวาดหวั่น กลัวสักวันจะต้องเสียใจ ทำไมฉันไม่เปิดรับความรัก เหมือนกลัวนักหนาว่าคุณจะมาเห็นแผลที่ฉันซ้อนเร้นไว้ ฉันเคยเปิดอกเปิดใจ ในเรื่องแบบนี้นะที่รัก ‘เราควรพบกันเมื่อวันที่ฉันพร้อม’

.

.

ฉันไม่อาจยั้งใจ จึงวิ่งไปทะเลตอนดึกดื่น แล้วสารภาพกับผืนน้ำ ถึงความใจใจที่มีให้คุณ พอพูดจบลงเท่านั้น เกลือในทะเลก็กลายเป็นน้ำตาล

.

‘เราสองคนคือบทสนทนาไม่รู้จบ’

หน้า 187 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทนตะวัน

.


.

 

ผลิบาน

.

ตัวเราคือกระจกเงา ถ้าเราไม่รักตนเองบ้าง ก็อย่าหวังได้รับความรักจากใครอีกคน แต่ถ้าเรารักตนเองอย่างลึกล้ำ ฟ้าจะนำพาไปพบพาน คนที่รักเราเช่นกัน ‘เหตุผลก็เท่านั้น’

.

.

เราต้องการความรักมากกว่าเดิม แต่ไม่ใช่เพิ่มเติมจากผู้ชาย เราต้องรักตัวเองให้เป็น เช่นเดียวกับรักกันและกัน

.

‘การเปลี่ยนโลกนี้ ไม่มีวันจบ’

หน้า 244 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.


 

 

เป็นธรรมดาชีวิตของคนเรา แม่บอกกล่าว เมื่อคราวฉันร้องไห้ในอ้อมกอดท่าน ลองนึกถึงดอกไม้ที่ปลูกไว้ ในแต่ละปี มันมีคติสอนใจ ว่าคนเรานั้นไซร้ ต้องแห้งเหี่ยว ร่วงโรย หยั่งราก งอกเงย แล้วจึงผลิบาน

 

.

.


.

.

แนะนำหนังสือ

ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : รูปี กอร์

.

บัดนี้ ไม่เหลือสิ่งใด ให้ต้องไหวหวั่น เมื่อมีสุริยาและดอกทานตะวัน

.

รูปี กอร นักเขียนสาวชาวแคนาดาเชื้อสายอินเดีย ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงสำคัญของผู้หญิงยุคใหม่ สู่ตัวตนที่เติบโตขึ้นและพร้อมจะพาทุกคนเติบโตไปด้วยกัน เช่นดอกไม้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวัฏจักรของการแห้งเหี่ยว ร่วงโรย หยั่งราก แล้วจึงงอกเงย ผลิดอกบาน ผ่านผลงานลำดับที่ 2 ของเธอ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน

.