ในมือเธอมีดอกทานตะวัน
.
ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : the sun and her flower
.
“สิ่งใดกันเล่า จะแข็งแกร่งกว่าหัวใจคนเรานี้ ที่แหลกสลาย ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ยังไม่ตาย”
.
นี่คือถ้อยคำบอกเล่าเรื่องราวที่แตกหน่อจากผลงานเล่มก่อนแล้วออกดอกเป็นตัวของตัวเอง ทั้งเติบโตและเหี่ยวเฉา ทั้งโอบกอดและซ้ำเติม หาก “ปานหยาดน้ำผึ้ง” เปรียบดังหมู่ภมรที่โหมกระพือออกมาจากรังแห่งความรวดร้าว “ในมือเธอมีดอกทานตะวัน” ก็คงเหมือนดอกไม้บานที่ร่มเย็นพอให้มวลหมู่ผึ้งเหล่านั้นมาพักอาศัย
.
สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ “ในมือเธอมีดอกทานตะวัน” สะท้อนให้เห็นการเติบโตของผู้หญิงคนหนึ่งในฐานะมนุษย์ที่พยายามทำความเข้าใจโลกมากขึ้น แต่ยังคงยืนหยัดในความคิดของตนเองว่า ผู้หญิงมีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของความรักหรือปล่อยมันไปได้อย่างเสรี และหวังว่าความคิดและความหวัง
.
แห้งเหี่ยว
.
ความรักไม่ได้หน้าตาเหมือนใคร รักคือการกระทำ รักคือการเสียสละให้ แม้เพียงเค้กชิ้นที่ใหญ่กว่าก็ได้ รักคือความเข้าใจ เราสามารถทำร้ายกันสักวัน
.
แต่เราจะทำสุดความสามารถ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีวันนั้น รักคือการรู้ซึ่งถึงความดีงามที่เราควรค่า และถ้าหากมีใครเข้ามา บอกว่าจะทำดีต่อเราเช่นกัน
แต่หลังจากนั้นกลับก่อความสูญเสีย แทนที่จะส่งเสริมเราได้
.
“ร่ายการฉันสัมผัสได้ว่าคุณจะทอดทิ้งไป”
หน้า 40 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน
.
ร่วงโรย
.
ฉันตื่นมาคิดว่าวันนี้สบาย ไม่ต้องทำซ้ำเดิมอีกต่อไป ฉันใสซื้อเกินจะรู้ว่าแผลใจ รักษาไม่หายง่ายดายปานนั้น ไม่มีวันสุดท้าย ไม่มีเส้นชัย แผลใจต้องรักษาเรื่อยไปทุกวัน
.
คนเรามีพร้อมพรั่ง แต่ยังอยากได้ไม่เลิกรา
จงหยุดไขว่คว้าสิ่งที่ขาดไป แล้วมองสิ่งที่มีอยู่ให้ดีๆ
.
‘ความพอใจอยู่ตรงนี้’
หน้า 112 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน
.
.
หยั่งราก
.
หลังผ่าตัดครั้งนั้น แม่บอกฉัน ว่ามันแปลกประหลาดเสียจริง ที่พวกเขารื้อทิ้ง บ้านหลังแรกที่ลูกแม่พักพิง
.
‘แม่ยอมละทิ้งความใฝ่ฝัน เพื่อให้ฉันได้ฝันใฝ่’
หน้า 150 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน
.
.
งอกเงย
.
ทำไมฉันถึงต้องสองจิตสองใจ ฉันอยากให้คุณต้องการ แล้วพอเป็นเช่นนั้น ฉันกลับหวาดหวั่น กลัวสักวันจะต้องเสียใจ ทำไมฉันไม่เปิดรับความรัก เหมือนกลัวนักหนาว่าคุณจะมาเห็นแผลที่ฉันซ้อนเร้นไว้ ฉันเคยเปิดอกเปิดใจ ในเรื่องแบบนี้นะที่รัก ‘เราควรพบกันเมื่อวันที่ฉันพร้อม’
.
.
ฉันไม่อาจยั้งใจ จึงวิ่งไปทะเลตอนดึกดื่น แล้วสารภาพกับผืนน้ำ ถึงความใจใจที่มีให้คุณ พอพูดจบลงเท่านั้น เกลือในทะเลก็กลายเป็นน้ำตาล
.
‘เราสองคนคือบทสนทนาไม่รู้จบ’
หน้า 187 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทนตะวัน
.
.
ผลิบาน
.
ตัวเราคือกระจกเงา ถ้าเราไม่รักตนเองบ้าง ก็อย่าหวังได้รับความรักจากใครอีกคน แต่ถ้าเรารักตนเองอย่างลึกล้ำ ฟ้าจะนำพาไปพบพาน คนที่รักเราเช่นกัน ‘เหตุผลก็เท่านั้น’
.
.
เราต้องการความรักมากกว่าเดิม แต่ไม่ใช่เพิ่มเติมจากผู้ชาย เราต้องรักตัวเองให้เป็น เช่นเดียวกับรักกันและกัน
.
‘การเปลี่ยนโลกนี้ ไม่มีวันจบ’
หน้า 244 หนังสือ ในมือเธอมีดอกทานตะวัน
.
เป็นธรรมดาชีวิตของคนเรา แม่บอกกล่าว เมื่อคราวฉันร้องไห้ในอ้อมกอดท่าน ลองนึกถึงดอกไม้ที่ปลูกไว้ ในแต่ละปี มันมีคติสอนใจ ว่าคนเรานั้นไซร้ ต้องแห้งเหี่ยว ร่วงโรย หยั่งราก งอกเงย แล้วจึงผลิบาน
.
.
.

.
แนะนำหนังสือ
ในมือเธอมีดอกทานตะวัน : รูปี กอร์
.
บัดนี้ ไม่เหลือสิ่งใด ให้ต้องไหวหวั่น เมื่อมีสุริยาและดอกทานตะวัน
.
รูปี กอร นักเขียนสาวชาวแคนาดาเชื้อสายอินเดีย ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงสำคัญของผู้หญิงยุคใหม่ สู่ตัวตนที่เติบโตขึ้นและพร้อมจะพาทุกคนเติบโตไปด้วยกัน เช่นดอกไม้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวัฏจักรของการแห้งเหี่ยว ร่วงโรย หยั่งราก แล้วจึงงอกเงย ผลิดอกบาน ผ่านผลงานลำดับที่ 2 ของเธอ “ในมือเธอมีดอกทานตะวัน”
.