การตลาดแบบดึงดูด
.
การตลาดแบบดึงดูด
การตลาดยุคใหม่ ใช้เงินน้อยมาก แต่ดูดเงินมหาศาล
.
เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการสื่อสาร จึงไม่แปลกใจเลยที่มนุษยชาติพยายามค้นหาวิธีการตลาดแบบใหม่เพื่อรองรับนวัตกรรมที่ก้าวหน้าเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือการทำ การตลาดแบบดึงดูด (INBOUND MARKETING) มันเกิดขึ้นเมื่อการตลาดแบบเดิมที่เคยทำในโลกออฟไลน์ไร้ประสิทธิผลในโลกออนไลน์โดยสิ้นเชิง
.
ทำไมการตลาดแบบเดิมถึงไร้ประสิทธิผลในโลกออนไลน์
.
‘การตลาดขาออก’ (OUTBOUND MARKETING) หรือการตลาดที่เคยทำแล้วเวิร์คในสมัยก่อน มีจุดประสงค์อย่างชัดเจนคือทำให้สื่อแพร่กระจายหลากหลายช่องทาง ให้มีโฆษณาจำนวนมาก ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อขายอย่างชัดเจน หลายคนเรียกมันว่า การตลาดแบบขัดจังหวะ หมายถึงสึ่งที่ขัดจังหวะระหว่างที่กำลังทำอย่างอื่นอยู่ เช่น ขายตรงทางโทรศัพท์, โฆษณาทางโทรทัศน์, เสียงโฆษณาตามวิทยุ, โปสเตอร์ ใบปลิว และอื่น ๆ
.
แม้การตลาดรูปแบบนี้จะถูกเสนอต่อสาธารณชนจำนวนมาก ไม่เฉพาะเจาะจง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ให้ความสนใจ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่สนใจหรือรู้สึกรำคาญมากกว่า
.
ดังนั้นรูปแบบดังกล่าวจึงล้มเหลวอย่างมากในสื่อออนไลน์ เพราะถ้าหากเขารำคาญเว็บไซต์ที่มีป็อบอัพโฆษณาเด้งมาให้คลิกปิดไม่หยุดหย่อน เขาแค่เปลี่ยนไปใช้บริการเว็บไซต์อื่นที่คล้ายคลึงกันที่มีอยู่เป็นล้าน ๆ เว็บไซต์ได้
.
ดังนั้นการทำการตลาดออนไลน์จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องสร้างความเป็นมิตรกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่พวกเขาสนใจอย่างแท้จริง แนวคิดนี้จึงเป็นแก่นสำคัญของ INBOUND MARKETING
.
.
.
ถึงเวลาแล้วสำหรับ INBOUND MARKETING
.
การตลาดแบบดึงดูด (INBOUND MARKETING) จำเป็นอย่างมากในแผนพัฒนาธุรกิจยุคปัจจุบัน เพราะเป็นรูปแบบการตลาดที่ออกแบบมาจากพฤติกรรมของลูกค้าในออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น สื่อสังคมออนไลน์, การดูแลเว็บไซต์, การบริหารระบบการค้นหา (Search Engine) , บล็อก และสื่ออื่น ๆ ด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์และมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อดึงดูดลูกค้าสู่แบรนด์ของคุณ
.
อย่างไรก็ตามมันคือความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง ‘การตลาดขาออก’ (OUTBOUND MARKETING) และ ‘การตลาดขาเข้า – การตลาดดึงดูด’ (INBOUND MARKETING) เพราะในระหว่างที่การตลาดขาอออกใช้วิธีการหว่านแหกว้าง ๆ เพื่อค้นหาลูกค้า ในทางกลับกันการตลาดแบบขาเข้าอาศัยกลยุทธ์เฉพาะตัวเพื่อทำให้ลูกค้าค้นหาคุณ
.
เป้าหมายสำคัญของการตลาดขาเข้า (INBOUND MARKETING) คือ การดึงดูดปริมาณการเข้าชมที่เหมาะสมผ่านเว็บไซต์, การมีส่วนร่วมในโซเชียลมีเดีย (Engagement) , SEO, หรือการโพสต์บล็อก ด้วยเนื้อหาสดใหม่และสร้างสรรค์ เพื่อนำสู่เว็บไซต์ และสร้างยอดขายในที่สุด
.
.
ซึ่ง INBOUND MARKETING ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ :
- กำหนดรูปร่างของแบรนด์และสิ่งที่มีอิทธิผลต่อการซื้อในอนาคต
- เพิ่มอัตราการแชร์ในสื่อสังคมและดึงดูดคนสู่ลิงก์
- เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาของ Search Engine
- เพิ่มการรับรู้แบรนด์
- ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง (24/7)
- สร้างโอกาสในการซื้อขายมากขึ้น แต่ใช้เงินเพื่อการทำการตลาดน้อยลง
.
- กุญแจสำคัญที่ใช้สร้างกลยุทธ์การตลาดขาเข้า คือ การพัฒนาเนื้อหาให้เข้ากับแบรนด์ (หรือที่เรียกว่าการสร้าง Persona) เพื่อผลิตเนื้อหาที่มีคุณค่าแก่ผู้ชมโดยตรง สิ่งนี้จะทำให้พวกเขาลดข้อคัดค้านก่อนการซื้อขายน้อยลง และสร้างความเชื่อมั่นให้เพิ่มมากขึ้น
.
รูปแบบของ INBOUND MARKETING ที่ทำให้
แคมเปญต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ เช่น
.
SEO :
เพิ่มประสิทธิภาพของกลไกการค้นหาด้วยการปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไต่อันดับในผลการค้นหาให้ปรากฎในอันดับต้น ๆ ด้วยการทำ SEO
.
SEO ที่ดีจะนำสู่ยอดเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นด้วยเงินจำนวนไม่มาก สิ่งสำคัญคือการใช้ Keyword ที่เหมาะสมซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้ออนไลน์
.
แต่ SEO นั้นจะไร้ประสิทธิภาพทันทีหากเนื้อหาในเว็บไซต์ที่คลิกไปไม่มีคุณภาพ ไร้โซเชียลมีเดียในการดึงคนใหม่ ๆ เข้ามาชม หรือกล่าวได้ว่าเครื่องมือเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้การทำงานแบบการตลาดขาเข้า ทรงประสิทธิภาพได้นั่นเอง
.
PPC :
การโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) เป็นเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าหาคุณ ด้วย Keyword ที่ใช้ค้นหา เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดนิยมใช้ในการโฆษณาอย่างมาก เพราะเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อตำแหน่งต้น ๆ ใน Search Engine เมื่อมีผู้คนค้นหาข้อมูลด้วยคำ Keyword ที่คุณใช้ เครื่องมือ PPC จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นในการค้นหาทันที โดยส่วนประกอบสำคัญคือ Keyword และ เงินที่จ่ายต่อการคลิก (PPC)
.
Blog :
รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดในการทำการตลาดขาเข้า คือ บล็อกโพสต์ (Blog) เนื่องจากการเขียนบล็อกที่ดีและน่าอ่านจะช่วยดึงดูดคนให้เข้ามาอ่านอย่างมีคุณค่า และนำสู่การซื้อขายได้อย่างแนบเนียน
.
Social Media :
กว่า 67% ของผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อขายใช้สื่อออนไลน์ในการแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตนเองสนใจ คุณไม่อาจละเลยสื่อออนไลน์ยอดนิยม เช่น Facebook, Twitter และแหล่งสังคมออนไลน์อื่น ๆ ได้
.
เริ่มต้นยังไง?
.
.
อาจเป็นเรื่องจริงสำหรับการตลาดขาเข้าที่ยิ่งใช้งบประมาณมากเท่าไหร่ยิ่งได้รับผลตอบแทนมากเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญของการผลิตเนื้อหาคือต้องใช้สมองและความสร้างสรรค์
.
อย่าโยนเงินใส่มัน! จงเอาทั้งหัวและใจของคุณใส่ลงไปด้วย
.
แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ต้องเริ่มต้นจากไกด์ดี ๆ สักเล่มอย่าง การตลาดแบบดึงดูด (INBOUND MARKETING) หนังสือการตลาดยุคใหม่จาก ‘Content Shifu’ เว็บไซต์การตลาดชื่อดังที่มีผู้อ่านมากกว่า 3 ล้านครั้ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาแผนการตลาดที่คุณมี ใช้พลังคอนเทนต์ ดึงดูกค้าให้เข้าหาคุณทุกช่องทาง ที่ใช้งบน้อยมาก แต่ได้ผลมาก จาก AMARIN HOW►TO
.
ค ลิ ก เ พื่ อ สั่ ง ซื้ อ ห นั ง สื อ
.
.
INBOUND MARKETING การตลาดแบบแรงดึงดูด
50 เคล็ดวิชาการตลาดวิถี Inbound สร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาหาอย่างเต็มใจ
.
.
การตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Marketing) คือ การตลาดแบบแรงผลัก นักการตลาดจะผลักสารต่างๆออกไปยังลูกค้า แต่การตลาดแบบใหม่มองมุมกลับด้วยการใช้หลัก “Inbound Marketing” (In = เข้า) คือการทำการตลาดเพื่อให้ผู้รับสารอยากเข้ามาหาเราเอง แทนที่เราจะต้องออกไปตามช่องทางอื่น ๆ
.
เปรียบเทียบกันแล้ว นักการตลาดแบบ Outbound เป็นเหมือนนักเดินทางเสี่ยงโชคชะตา ส่วนนักการตลาดแบบ Inbound เป็นเหมือนหัวหน้าจอมยุทธ์ที่เน้นสร้างสำนัก หรือช่องทางของตนให้มีคุณภาพ แน่นอนว่าไม่มีวิธีไหนผิดหรือถูก แต่อ้างอิงจากผลการสำรวจของ Demand Metric พบว่า Content Marketing สามารถสร้าง Lead ได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในขณะที่ประหยัดได้มากขึ้น 62%
.