
คอวรรณกรรม นวนิยายแปลต้องร้องอ๋อแน่ๆ เมื่อเอ่ยชื่อนักเขียนชาวญี่ปุ่นอย่าง“ฮิงาชิโนะ เคโงะ (Keigo Higashino)” ที่มีผลงานเขียนซึ่งได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยและภาษาอื่นๆ เยอะมาก เรียกได้ว่าร้านหนังสือที่ไหนก็ต้องมีผลงานของเขาคนนี้วางขายอยู่แน่นอน
แต่กว่าจะประสบความสำเร็จในฐานะนักเขียนมือทองได้อย่างทุกวันนี้ หนุ่มใหญ่วัย 61 ปีคนนี้ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการหนังสือมาอย่างโชกโชนกว่าผลงานเขียนจะได้รับการยอมรับก็ใช้เวลานับสิบปีได้ วันนี้ Book MThaiจะขอพาแฟนๆ ไปทำความรู้จักกับประวัติและผลงานเด่นๆ ของฮิงาชิโนะ เคโงะ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเดินบนเส้นทางนี้ได้บ้าง
ฮิงาชิโนะ เคโงะ เกิดเมื่อปี 1951 ที่เมืองโอซาก้า เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากด้านคณะวิศวกรรมศาสตร์ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า เขาก็เริ่มต้นอาชีพวิศวกรควบคู่ไปกับการเขียนหนังสือในปี 1981 กระทั่งเมื่ออายุ 27 ปี ในปี 1985 ก็ได้รับรางวัลเอโดงาวะรัมโปะ (Edogawa Rampo Prize) จากงานเขียนที่ชื่อว่า “หลังเลิกเรียน” (放課後;Hōkago)
จากการรับรางวัลใหญ่ครั้งนี้เองที่ทำให้ฮิงาชิโนะตัดสินใจลาออกจากการเป็นวิศวกรที่โอซาก้า มาเริ่มต้นอาชีพนักเขียนอย่างจริงจังที่โตเกียว และเริ่มต้นผลิตผลงานเขียนเรื่อยมา แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จแม้จะเคยได้รางวัลเอโดงาวะรัมโปะก็ตาม
กระทั่งในปี 1999 ความพยายามของเขาก็เป็นผลเมื่อเขาก็ได้รับรางวัลสมาคมนักเขียนรหัสคดีแห่งญี่ปุ่น (Mystery Writers of Japan Award) จากผลงานดังอย่าง “ความลับ” (秘密 : Himitsu) โดยเมื่อนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “Naoko” ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครหลักในนิยายนั่นเอง
อาจกล่าวได้ว่าการได้รางวัลนักเขียนรหัสคดีแห่งญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นการประสบความสำเร็จในฐานะนักเขียนให้ฮิงาชิโนะก็เป็นได้ แม้จะยังไม่ได้เปรี้ยงปร้างนัก เพราะผลงานที่ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกและได้รับความนิยมในเวลาถัดมานั่นก็คือ ผลงานจากซีรีส์ชุด Galileo ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะถูกนำมาทำเป็นทั้งซีรีส์และภาพยนตร์
ในปี 2006 นวนิยายเรื่อง “Devotion of Suspect X (Yōgisha X no Kenshin)” เมื่อได้รับการแปลเป็นภาษาไทยใช้ชื่อว่า “กลลวงซ่อนตาย” ได้รับรางวัลนาโอกิ (Naoki Prize) ครั้งที่ 134 รวมไปถึงรางวัล Honkaku Mystery Award ครั้งที่ 6
“Devotion of Suspect X” ยังถูกเลือกเป็นอันดับ 1 ของการจัดอันดับไกด์บุ๊คหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน Kono Mystery gaSugoi! จากสำนักพิมพ์ Takarajimasha ในปี 2006 อีกด้วย
จากการได้รางวัลนาโอกิจากผลงานเรื่อง “กลลวงซ่อนตาย” นี่เองที่ทำให้ฮิงาชิโนะกลายเป็นนักเขียนดังในญี่ปุ่นและกลายเป็นที่รู้จักในนานาประเทศอีกด้วย
หลังจากจุดเริ่มต้นของการมีชื่อเสียงในครั้งนี้ ฮิงาชิโนะได้ผลิตผลงานเขียนออกมาอีกมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมและถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ อีกมากมายหลายเรื่อง รวมถึงการนำไปดัดแปลงเป็นซีรีส์และภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น
- ซีรีส์และภาพยนตร์ชุด Galileo (Detective Galileo) ที่ว่าด้วยเรื่องการสืบคดีของนักฟิสิกส์คนเก่งที่ชื่อว่า ยุคาว่า มานาบุ (Manabu Yukawa)
- The Devotion of Suspect X (original title: Yōgisha X no Kenshin) แปลไทยในชื่อ “กลลวงซ่อนตาย” ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ญี่ปุ่น Galileo (กาลิเลโอ ยอดอัจฉริยะไขคดีป่วน)
- Salvation of a Saint (original title: Seijo no Kyūsai) แปลไทยในชื่อ “รักต้องฆ่า” หรือ “พิษรักสั่งตาย” ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ญี่ปุ่น Galileo (กาลิเลโอ ยอดอัจฉริยะไขคดีป่วน)
- A Midsummer’s Equation (original title: Manatsu no Hōteishiki) ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นในชื่อเดียวกัน
- ซีรีส์และภาพยนตร์ชุด “ความลับ” ((秘密 : Himitsu) โดยเมื่อนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “Naoko” ถูกนำไปสร้างเป็นทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ถึง 3 ครั้ง
- ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Secret ในปี 1999
- ภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง The Secret ในปี 2007
- ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Himitsuในปี 2010
ผลงานอื่นๆ ก็เช่นภาพยนตร์เรื่อง “Laplace’s Witch” ที่เพิ่งเข้าโรงไปเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา เป็นต้น หรือจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง “Miracles of the Namiya General Store” ที่ฉายในปี 2012 ฉบับหนังสือก็โด่งดังอย่างมาในชื่อเดียวกันและได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ “ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ”
แม้ว่าผลงานของฮิงาชิโนะจะถูกนำไปดัดแปลงเป็นทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มากมาย แต่เชื่อเหลือเกินว่าสำหรับหนอนหนังสือนั้นการเสพผลงานเหล่านี้จากตัวอักษรในหนังสือคงได้อรรถรสกว่าเป็นไหนๆ ซึ่งแฟนหนังสือสามารถจับจองนวนิยายภายใต้สำนักพิมพ์ Maxx Publishing ได้ดังนี้ ความลับ, จดหมายจากฆาตกร, ฆาตกรรมในคืนฝนดาวตก, รักในโลกพิศวง