การอ่านหนังสือ ประวัติศาสตร์ สงครามโลก สงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์ – จุดชนวนสงครามด้วยการอ่านสร้างศึก

Home / สารพันหนังสือ / การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์ – จุดชนวนสงครามด้วยการอ่านสร้างศึก

จุดชนวนสงครามโลกจาก การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์ – อ่านสร้างศึก

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์

พฤษจิกายน ปี 1915 สิบโทชาวเยอรมันคนหนึ่งในกรมทหารราบ Bawarian Reserve ได้ทิ้งจดหมายร่ำลาเอาไว้ในบ้านไร่สองชั้นใกล้กับเมือง Forture หรือห่างจากแนวหน้าของภาคเหนือประเทศฝรั่งเศสราว ๆ สองไมล์ เร่งรีบมุ่งหน้าเข้าเมือง เพื่อหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเบอร์ลิน แทนที่จะเพลิดเพลินกับความรื่นรมย์ในแบบฉบับทหารยุคเก่าที่เคล้าด้วยเหล้า บุหรี่ และนารีในซ่อง
ฮิตเลอร์
ความหลงใหลในหนังสือที่มีมาตั้งแต่เด็กจึงถูกเรียกว่าเป็นหนอนหนังสือตัวยงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะหนังสือที่ชื่นชอบมาก อย่าง ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับบุคคลสำคัญของโลก และหนังสือเชิงวิชาการที่อ่านมาตั้งแต่อายุยังน้อย

ผู้ชนะสงคราม จะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์

  การอ่านหนั
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
งสือของฮิตเลอร์
อาจเพราะหนังสือเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้หนีความจริงอันโหดร้ายของเด็กตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบและเสียงทะเลาะเบาะแว้งของพ่อแม่ไม่เว้นวัน ซึ่งวิธีการหนีความจริงนี้กลับปลูกฝังความพิเศษบางอย่างที่คาดไม่ถึง มันได้สร้างองค์ความรู้ขนาดใหญ่ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ที่มีคารมคมคาย เป็นนักพูดที่ฉะฉาน จนกระทั่งเป็นบุคคลสำคัญระดับโลกในที่สุด
 การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
แม้การอ่านหนังสือจะเป็นสิ่งที่น่าขบขันสำหรับเพื่อนทหารด้วยกันในช่วงที่ยังวัยรุ่น แต่ทว่าพฤติกรรมรักการอ่านดังกล่าวทำให้เขาเห็นข้อบกพร่องยิ่งใหญ่และปัญหาของอีกชนชาติที่เกินกว่าจะให้อภัยได้ หลังจากควันสงครามโลกครั้งที่ 1 มอดลง การรวบรวมข้อมูลจากการอ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า เลือดรักชาติเปี่ยมล้นไปด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงเกินกว่าจะย่ำอยู่กับที่ นำสู่ความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ผลักดันตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งผู้นำ พาคนนับล้านไปสู่สงครามครั้งสำคัญที่สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
 การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ใช่แล้ว.. เขาคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้สร้างสงครามโลกครั้งที่ 2
ฮิตเลอร์

ผู้นำตายได้ เปลี่ยนแปลงได้

แต่พรรคนาซีจะต้องอยู่คู่ประเทศเยอรมัน

คติสำคัญของฮิตเลอร์
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์
“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรุ่นหลังจากหนังสือต่าง ๆ ที่ถูกเขียนถึงเกี่ยวกับสงคราม  เขารับบทเป็นฆาตกรใจร้าย ที่นำพาชีวิตคนนับล้านสู่หายนะ มากกว่าพฤติกรรมนักอ่านตัวยงที่ชี้ให้เห็นว่าเขารักการอ่านมากเพียงไหน  หากสังเกตและศึกษาให้ดีแม้แต่ในตอนที่ฝ่ายสัมพันธมิตรบุกจับตัวผู้นำนาซีคนดังกล่าว ภายในบังเกอร์เบอร์ลินอันเป็นที่พักผ่อนจวบจนลมหายใจสุดท้ายของเขา กลับพบหนังสือจำนวนมหาศาลหลบซ่อนอยู่ข้างใน
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
หลายคนเรียกมันว่า “Hitler’s Private Library” หรือ “ห้องสมุดส่วนตัวของฮิตเลอร์” สถานที่ที่บรรจุหนังสือมากกว่า 16,000 เล่ม มันตั้งอยู่ใน เบอร์ลิน และ มิวนิค บนเทือกเขาอัลไพน์  ที่พักผ่อนหย่อนใจส่วนตัวรวมถึงการล่าสัตว์ของฮิตเลอร์ ที่ซึ่งหลังจากสงครามโลกที่ 2 สิ้นสุดลงแล้ว ซากเศษหนังสือต่าง ๆ ที่หลงเหลือจากการรื้อทำลายส่วนใหญ่ ถูกจัดเก็บเอาไว้ที่หอสมุดเเห่งชาติเยอรมัน
ฮิตเลอร์
แล้วการอ่านของ ฮิตเลอร์ สำคัญอย่างไร?
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
พฤติกรรมการอ่านเป็นบ้าเป็นหลังของฮิตเลอร์นี้ ชี้ให้เห็นแง่มุมและขอบเขตความคิดที่มีผลในสงครามไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อนักมานุษยวิทยาและนักจิตวิทยาได้เชื่อมโยง สร้างแผนที่จิตใจ และกระบวนการความคิดขึ้นมาใหม่  ผลที่ได้ค่อนข้างน่าทึ่งเมื่อบางอย่างชี้ให้เห็นว่า ส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งนี้ มีผลมากจากข้อความโน้มน้าวในหนังสือที่ฮิตเลอร์เลือกอ่านไม่น้อย
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์อาจไม่ได้สำเร็จการศึกษาอย่างเป็นทางการจากมหาวิทยาลัยใด เขามักถูกมองว่าเป็นคนป่าเถื่อนไร้การศึกษาอยู่เสมอ เหมือนคำพูดที่เคยกล่าวว่า “เมื่อได้ยินคำว่า วัฒนธรรม, ผมมักจะนึกถึงปืน”
ฮิตเลอร์
แต่จากการศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ ให้ข้อมูลที่ค่อนข้างขัดแย้ง เพราะมันชี้ให้เห็นว่า ฮิตเลอร์ถูกครอบงำและกล่อมเกลาด้วยวัฒนธรรมชั้นสูงมาโดยตลอด โดยเฉพาะดนตรีคลาสิก สถาปัตยกรรมรวมถึงภาพเขียนและประติมากรรมต่าง ๆ ที่เขากระตือรือร้นจะนำไปสู่ชนชาติเยอรมันให้ได้
ฮิตเลอร์
แต่ความรักชาติและวัฒนธรรมของฮิตเลอร์กลับมากเกินขอบเขตและไม่ได้มีจำนวนที่พอเหมาะเสียเท่าไหร่ มันค่อย ๆ กระจายตัวสู่ความหิวกระหายในไม่ช้า

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์
การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์ ถือเป็นพฤติกรรมที่โดดเด่นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่า หนังสือคืออีกโลกหนึ่งของเขา เพราะสำหรับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แล้ว การจมตัวในกองหนังสือช่วงฤดูใบไม้ผลิถือเป็นสิ่งที่สร้างความรู้และแรงบันดาลใจได้ดีเสมอ เขาดิ่งลึกและตั้งใจอ่านอย่างหวงแหน ตามคติความคิดของตนที่ว่า “เมื่อให้ไปหนึ่ง ก็ต้องได้มาหนึ่ง”  “ผมให้เวลากับหนังสือ และจะใช้สิ่งที่ต้องการจากหนังสือเสมอ” นั่นแสดงให้เห็นว่าหนังสือมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดเขาไม่น้อย
ฮิตเลอร์
เพื่อนวัยเด็กของฮิตเลอร์ Leni Riefenstahl ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกับเรื่องนี้ว่า “ฮิตเลอร์เหรอ .. หนังสือ หนังสือเสมอ ฉันไม่มีวันลืมฮิตเลอร์ที่มีหนังสือติดตัวตลอดเวลาหรอกนะ หนังสือเหมือนเป็นโลกของเขา”
 การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ในช่วงปี 1920 ฮิตเลอร์ดื่มด่ำการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์และชนชาติหลายร้อยเล่ม นั่นไม่ใช่เพื่อเสริมสร้างความสุขในการทำงานแต่อย่างใด  ในทิศทางกลับกันเหมือนเป็นการราดน้ำมันลงไปในกองไฟ เพราะการอ่านหนังสือของเขาเหมือน “การวางแผนร้ายในเชิงรุก”  ที่ใช้เวลาไปกับการศึกษา พัฒนาปัญญา และเก็บรวมองค์ความรู้ จนนำไปสู่ อุดมการณ์ในฐานะผู้นำพรรคนาซี ก่อนจะก่อร่างศรัทธา ความเชื่อ และหลักการอันแรงกล้า สู่สงครามครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกจดจำไปตลอดกาล

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์
ภาพถ่ายหายากของ ฮิลเลอร์ในวัย 36 ปี ที่โพสต์ท่าทางกับหนังสือของเขาในอพาร์ทเม้นต์แห่งแรกที่มิวนิค
ฮิตเลอร์
อุดมการณ์แน่นหนักขนาดใหญ่ถูกบันทึกลงไปในทุก ๆ ส่วนของฮิตเลอร์ แม้ในบัตรสมาชิกพรรคนาซีที่เขามี เขาจัดทำรายการหนังสือที่อ่านไว้บนบัตรสมาชิกพรรค พร้อมทั้งวลีโน้มน้าวชี้ชวนที่พิมพ์ด้วยตัวหนังสือขนาดหนา ว่า “หนังสือที่ทุกชาติสังคมนิยมต้องรู้”
แต่ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ตลอด เพราะหลังความล้มเหลวของฮิตเลอร์ที่ห้องโถงเบียร์ในปี 1923 ฮิตเลอร์ถูกศาลตัดสินให้จำคุก ที่ Landsberg 2-3 ปี เขาเขียนหนังสือเล่มเเรกที่ชื่อว่า “Mein Kampf” (ไมน์ คัมพป์) มันคือหนังสือเล่มเดียวที่ยังหลงเหลือร่องรอยทางสติปัญญาของผู้นำนาซีเอาไว้

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์

“Mein Kampf” สำเนาเชื้อชาติคนเยอรมัน  มุมมองจากคลังสมองคนคลั่งชาติเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของเชื้อชาติ
ฮิตเลอร์
“Mein Kampf” (ไมน์ คัมพป์) หรือถูกนำมาแปลไทยในชื่อ “การต่อสู่ของข้าพเจ้า” ผลงานเขียนเล่มแรกของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ถือเป็นตำราทางการเมืองที่จะทำให้เข้าใจในความเผด็จการและนาซีมากขึ้น
ถ้อยคำบางส่วนจากหนังสือ|
“ข้าพเจ้าทราบดีว่า น้อยคนนักที่มีชัยด้วการเขียนมากกว่าการพูด ยิ่งไปกว่านั้น การก้าวหน้าของกิจการสำคัญใดๆ ก็ตาม ย่อมเนื่องมาจากความเป็นนักพูดอันยิ่งใหญ่มากกว่าเนื่องมาจากเป็นนักเขียน
อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะก่อให้เกิดสมภาพและสามัคคีธรรม เพื่อต่อต้านและป้องกันลัทธิหนึ่งลัทธิใด จำเป็นอยู่เองที่จะต้องวางแนวหลักการกว้างๆ ไว้ให้แน่นอนเสียก่อน ฉะนั้น หนังสือเล่มนี้จึงเท่ากับเป็นศิลาก้อนแรกซึ่งเป็นหลักการนำไปสู่การงานส่วนย่อยอื่นๆ ต่อไป
ในปัจจุบันนี้ คณะพรรคของเรามีอิทธิพลมั่นคงแข็งแรงที่สุด และแผ่กว้างไปทั่วประเทศเยอรมนี ทั้งแข็งแรงและมั่นคงยิ่งกว่าได้เคยเป็นมาแล้วแต่กาลก่อน ….ลงชื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์”

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์

ก่อนสงครามโลกจะเกิดขึ้น ฮิลเลอร์ถูกทาบทามให้เข้าร่วมประชุมที่มหาวิทยาลัยมิวนิคเพื่อบรรยายเรื่อง “ทหารคอมมิวนิวส์”  ในปี 1919  ช่วงต้นเดือนกันยายนของปีนั้นเอง มีหัวข้อเกี่ยวกับ การตอบสนองของทหารต่อการสืบสวน “ชาวยิว” ฮิตเลอร์ได้ประกาศกร้าวว่า “จุดมุ่งหมายสุดท้ายหากต้องทำและอาจเป็นไปได้โดยไม่ต้องสงสัย คือการกำจัดชาวยิวทั้งหมด”  …ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา

ฮิตเลอร์

ถ้าคุณชนะ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร

แต่ถ้าคุณแพ้ คุณไม่ควรอยู่ที่จะต้องอธิบายอะไร

ฮิตเลอร์
นักประวัติศาสตร์เอียนเคอร์ชอว์ได้ตั้งข้อสังเกตวิธีการตอบคำถามของฮิตเลอร์จากชีวประวัติทั้งหมดก็พบว่า พฤติกรรมการตอบสนองดังกล่าว ส่วนหนึ่งมีผลมาจากแรงยึดมั่นต่ออุดมการณ์รักชาติและแรงผลักดันจากปลายสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พลังเหล่านี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จวบจนลมหายใจสุดท้ายในบังเกอร์เบอร์ลินก่อนปลิดชีพตัวเองด้วยลูกปืน เพราะจุดประสงค์ที่แน่นหนักของ ฮิตเลอร์ ที่เกินกว่าจะเบนเข็มไปทิศทางอื่นได้ นั่นคือ ชาตินิยมและหัวใจที่ต่อต้านชาวยิวอย่างมุ่งมั่น แต่ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความเกลียดชัง เพราะเกิดจากการเก็บสั่งสมข้อมูลมาเนิ่นนานและฝังตัวเองลงไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวเกินกว่าจะขุดตัวเองขึ้นมาได้
ฮิตเลอร์
ยิ่งไปกว่านั้นหากมองจุดเชื่อมโยงจากเมืองสำคัญต่าง ๆ ที่มีบทบาทในชีวิตของฮิตเลอร์  เมืองที่มีแรงซึบซับให้ต่อต้านชาวยิวในช่วงแรก คือ กรุงเวียนนา นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นจากการยืมหนังสือของเพื่อนนักวิชาการชาวออสเตรีย ที่ชื่อว่า Brigitte Hamann วินาทีนั้นเองหม้อน้ำต่อต้านยิวขนาดใหญ่ได้ยกตั้งไฟ รอเพียงวันเดือดก็เท่านั้น นอกจากนี้เลือดรักชาติอันแรงกล้ายังทำให้เขายังตกอยู่ในมนต์สะกดรักเยอรมันสุดหัวใจ กับภารกิจที่กล่อมตัวเองมาตลอด นั่นคือการรื้อฟื้นเยอรมันให้กลับมารุ่งเรืองเฉกเช่นวันเก่า

การอ่านหนังสือของฮิตเลอร์

ฮิตเลอร์
“Hitler’s Private Library” หรือ “ห้องสมุดส่วนตัวของฮิตเลอร์” คือสถานที่รวบรวมหนังสือส่วนตัวของฮิตเลอร์ ซึ่งไม่รวมกับหนังสือที่เขาซื้อให้กับหอสมุดแห่งชาติเยอรมัน  มีข้อมูลบ่งชี้ว่า ฮิตเลอร์มีหนังสือส่วนตัวประมาณ 6,000 เรื่อง ซึ่งหากรวมทุกคอลเลคชั่นที่มีแล้ว เขาจะมีหนังสือทั้งสิ้นกว่า 16,300 เล่ม  นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า 2 ใน 3 ของหนังสือทั้งหมด มีร่องรอยถูกแตะต้อง พร้อมเครื่องหมายบางประการที่แสดงถึงการถูกอ่าน เขาน่าจะอ่านหนังสืออย่างน้อยเรื่องละ 1 เล่ม หรือมากกว่านั้นใน 1 วัน
ฮิตเลอร์
ไม่มีบันทึกที่ยืนยันจำนวนหนังสือเหล่านี้อย่างแน่ชัด เพราะส่วนหนึ่งถูกทำลายจากฝ่ายสัมพันธมิตร และหลงเหลือหนังสือสภาพสมบูรณ์เพียง 1,200 เล่มเท่านั้น  (น้อยกว่า 10% ของหนังสือทั้งหมด) ซึ่งปัจจุบันพวกมันถูกเก็บอยุ่ที่หอสมุดแห่งชาติเยอรมัน
ฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์อาจเป็นผู้นำเผด็จการตัวร้ายของคนทั้งโลก แต่ในมุมนักอ่านแล้ว เข้ากลับเป็นผู้อ่านที่ร้ายกาจที่ได้อะไรจากการอ่านเป็นกอบเป็นกำ จากการศึกษาพบว่าเขาจะอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 1 เล่มช่วงกลางคืน นอกจากนี้ยังได้รับหนังสือเป็นของขวัญจากหญิงสาวที่คุ้นเคยอยู่เสมอ แม้สุดท้ายแล้วจุดจบของเขาคือการฆ่าตัวตาย แต่เยอรมันยังคงอยู่ ..อันเป็นไปตามคติสำคัญที่ฮิตเลอร์ยึดมั่นเสมอมา

ไอ้ที่สำคัญไม่ใช่ความจริงหรอก…เพื่อนเอ๋ย

ชัยชนะต่างหากเล่าที่จะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง

ข้อมูลเพิ่มเติม
สงครามโลกครั้งที่ 2  สงครามทั่วโลกกินเวลาตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1945 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐมหาอำนาจทั้งหมด แบ่งเป็นพันธมิตรทางทหารคู่สงครามสองฝ่าย คือ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ กล่าวได้ว่าเป็นสงครามที่กว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ มีทหารกว่า 100 ล้านนายจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมโดยตรง ประเมินกันว่าสงครามมีมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  และผู้เสียชีวิตระหว่าง 50 ถึง 85 ล้านคน ด้วยประการทั้งปวง สงครามโลกครั้งที่สองจึงนับว่าเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่สุด ใช้เงินทุนมากที่สุด และมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ฮิตเลอร์


ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore

MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส 

ิ