การเดินทาง พม่า พม่าพักรัก อกหัก เที่ยวพม่า

พม่าพักรักบักทึกการเดินทางของสาวช้ำรัก ที่อ่านแล้ววางไม่ลง

Home / Editor Picks, สารพันหนังสือ / พม่าพักรักบักทึกการเดินทางของสาวช้ำรัก ที่อ่านแล้ววางไม่ลง

ตั้งแต่โซเชียลเน็ตเวิร์คกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การใช้เวลาอ่านหนังสือครั้งละนานๆเหมือนเมื่อก่อนก็น้อยลง แต่เมื่อหยิบ “พม่าพักรัก” ขึ้นมาอ่าน หนังสือเล่มนี้กลับมีมนต์สะกดให้ต้องเปิดอ่านไปเรื่อยๆ หน้าแล้วหน้าเล่า จนต้องมานั่งพิจารณาเหตุผลการวางไม่ลงในครั้งนี้

“พม่าพักรัก” ไม่ใช่หนังสือรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีการแนะนำวิธีเดินทาง ไม่มีภาพรีวิวสวยๆ ไม่มีการชูโรงอาหารดัง แต่เป็นบันทึกของนักเขียนสาวผู้ช้ำรัก “รตี ช่วงแก้ว” ที่อยากหนีบรรยากาศเดิมๆ ออกเดินทางคนเดียวไปรักษาอาการบาดเจ็บทางใจที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่น่าค้นหาอย่าง “พม่า” ผ่านการเดินทางแบบสาวแบ็กแพ็คเกอร์ ค่ำไหนนอนนั้น ปั่นจักรยานบ้าง ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ตะลุยไปตาม เมืองใหญ่ถึง 5 เมือง ได้แก่ ย่างกุ้ง-พุกาม-กะลอว์-มัณฑะเลย์-พินอูลวิน

เหตุผลที่ทำให้อ่าน “พม่าพักรัก” แล้ววางไม่ลงคงเป็นเพราะวิธีการเล่าเรื่องของรตีที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เหมือนนวนิยายที่มีตัวเอกคือเธอ บรรยายบรรยากาศ ความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นเรื่องราวได้อย่างไหลลื่น คนอ่านได้ซึมซับบรรยากาศต่างๆ ของแต่ละสถานที่ แต่ละสิ่งที่เธอพบเห็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนิบช้า เรื่อยๆ แต่มีเสน่ห์ ผสมกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัว เรื่องความรักที่เธอเพิ่งผ่านพ้นมา ซึ่งสอดแทรกอยู่เนืองๆ แต่ไม่มากจนเหมือนอ่านบันทึกรัก

รตีบอกเล่าสิ่งที่เธอพบเห็นได้อย่างละเอียดลออ สายตา มุมมองความคิดของเธอ เมื่อรวมเข้ากับประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อน วัฒนธรรมที่สวยงามของพม่า และหลักคิด คำคมของคนดังที่เธอแทรกไว้ในแต่ละเรื่องราว ภาพที่เธอถ่ายก็ไม่ใช่ภาพสถานที่สวยงามอลังการ แต่เป็นภาพถ่ายแห่งความทรงจำที่แสนธรรมดา ทำให้ “พม่าพักรัก” กลายเป็นบันทึกการเดินทางที่กลมกล่อม ไม่ยัดเยียดความเป็นตัวเอง แต่เปิดให้คนอ่านพิจารณาตาม มองเห็นภาพแบบที่เธออยากให้เห็น

“พม่าพักรัก” ก็ยังสอดแทรกเรื่องราวที่น่าสนใจของแต่ละสถานที่ แต่ละเมืองไว้แบบพอดีๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรตี เหมือนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ ด้วย และยังทำให้รู้สึกอยากไปสัมผัสบรรยากาศเช่นเดียวกับที่รตีพบเจอ อยากลองไปอยู่ที่ตรงนั้น อยากมีประสบการณ์เหมือนๆ เธอ

การเดินทางของรตีในแต่ละเมืองยังเปิดโลกให้คนอ่านเห็นอีกว่าพม่ามีสิ่งสวยงาม มีวิถีชีวิตที่น่าค้นหา หาใช่มีแต่แป้งทานาคา เจดีย์ชเวดากอง หรือพระทันใจเท่านั้น แต่ละเมืองก็มีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างกันจนไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในประเทศเดียวกัน

“พม่าพักรัก” ยังช่วยจรรโลงใจคนอกหักได้ด้วย รตีได้สอดแทรกความรู้สึกนึกคิดที่เธอระลึกได้ระหว่างการเดินทางคนเดียว ถึงไม่ใช่หนังสือปรัชญาความรัก แต่ก็บรรเทาความเศร้าได้ดีไม่แพ้กัน บางทีแค่การอยู่กับตัวเอง อาจทำให้คุณเห็นตัวเองมากขึ้นเหมือนที่รตีบอกไว้

“พม่าพักรัก” ยังเปิดมุมมองการเที่ยวคนให้ผู้หญิงด้วยกัน ว่าผู้หญิงก็เที่ยวคนเดียวได้ แม้ในประเทศที่เพิ่งเปิดตัวเองมาไม่กี่ปีนี้อย่างพม่า ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นรัฐบาลทหาร แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายแบบที่หลายคนคิด ตรงกันข้ามคนพม่ามีความน่ารัก เป็นกันเอง เข้าถีงได้ง่าย ไม่มีจริต ไม่มีการวางท่า และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน

หากใครที่อยากไปเยือนประเทศพม่า ลองหยิบ “พม่าพักรัก” ขึ้นมาอ่านสักหน่อย อ่านแค่บางตอนก็ได้ แล้วมุมมองที่มีต่อพม่าจะเปลี่ยนไป เชื่อว่าแค่ไม่กี่หน้าก็ทำให้ความอยากไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้เพิ่มขึ้นได้เป็นทวีคูณ