CNN Ted Turner รักการอ่าน สื่อมวลชน เท็ด เทอร์เนอร์

ท่องจักรวาลตัวหนังสือของ ‘Ted Turner’ เจ้าพ่ออาณาจักรสื่อแห่ง CNN

Home / สารพันหนังสือ / ท่องจักรวาลตัวหนังสือของ ‘Ted Turner’ เจ้าพ่ออาณาจักรสื่อแห่ง CNN

ท่องจักรวาลตัวหนังสือของ ‘Ted Turner’ เจ้าพ่ออาณาจักรสื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง CNN กับมุมรักการอ่านที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

          ‘Ted Turner’ เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของสื่อมวลชน และยังได้รับฉายาให้เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการสื่อมวลชนชาวอเมริกัน โดยการก่อตั้งสำนักข่าวระดับยัก์ใหญ่ขึ้นมาอย่าง ‘เคเบิล นิวส์ เน็ตเวิร์ก’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามของ ‘CNN’ ซึ่งเป็นสถานีโทรทัสน์ข่าวแห่งแรกของโลกที่ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง

          ย้อนกลับไปในสมัยเรียน ‘Ted Turner’ ชื่นชอบและหลงใหลการอ่านหนังสืออย่างมาก จึงเลือกเรียนวิชาเอกวรรณคดีคลาสสิก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาได้เปลี่ยนสาขาเป็นเศรษฐศาสตร์ โดยไปเน้นการทำกิจกรรมระหว่างเรียนมากขึ้น เขาเป็นทั้งรองประธานกลุ่มโต้วาทีของมหาวิทยาลัย และเป็นกัปตันทีมเรือพาย ในขณะที่ชีวิตของเขากำลังไปได้ดี สุดท้ายก็ต้องมาสะดุดลงเพราะเรื่องชู้สาวที่เกิดขึ้นจากตัวของเขาเอง ทำให้เขาต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน

          ก่อนที่ ‘Ted Turner’ จะกลายเป็นเจ้าพ่ออาณาจักรสื่อแห่ง CNN เขาเคยทำธุรกิจป้ายโฆษณาบิลบอร์ดที่สืบทอดมาจากพ่อของเขา (ซึ่งพ่อของเขาเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย) และอีก 7 ปีต่อมาธุรกิจนี้ก็ได้ขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นธุรกิจสื่อในที่สุด

          จะเห็นได้ว่ากว่าที่ ‘Ted Turner’ จะประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ เขาต้องผ่านมรสุมชีวิตมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่สิ่งหนึ่งที่เขายึดมั่นมาโดยตลอดและมองเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ การอ่านหนังสือ เพราะเขาเชื่อเสมอว่าการอ่านหนังสือทำให้ทุกคนมีความรู้ สิ่งที่ทำให้เรารู้เท่าทันโลกได้ก็มาจากการอ่านหนังสือเช่นเดียวกัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รับฉายาให้เป็น ‘เจ้าพ่ออาณาจักรสื่อแห่ง CNN’ ที่คนทั้งโลกต่างชื่นชม เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่า แล้วหนังสือเล่มโปรดของเจ้าพ่ออาณาจักรสื่อแห่ง CNN คนนี้คือเรื่องอะไร งั้นมาดูไปพร้อมกัน

Life Is What You Make It

โดย Peter Buffett

          ‘Peter Buffett’ คือลูกชายคนสุดท้องของเจ้าพ่อนักลงทุนอย่าง ‘Warren Buffett’ แต่เส้นทางชีวิตของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับผู้เป็นพ่อแม้แต่น้อย แทนที่จะเดินรอยตามพ่อด้วยการเป็นนักธุรกิจและนักลงทุน เขากลับเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเองโดยการอยู่บนเส้นทางสายดนตรี กับการเป็นนักแต่งเพลงและนักดนตรี แม้จะเลือกอยู่คนละทางเดิน แต่เขาก็ยังคงปรัชญาของความเป็นครอบครัว Buffett ไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม โดย ‘Ted Turner’ ได้เล่าถึงความประทับใจของหนังสือเล่มนี้ว่า

เขาเล่าให้ผมฟังว่า การจะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไปพร้อมกับหาเลี้ยงตัวเองเป็นอย่างไร ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะปลุกให้เราคิดตามไปด้วยระหว่างที่อ่าน

The Iliad

โดย Homer

          ‘The Iliad’ ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดมหากาพย์วรรณกรรมของยุโรป โดยเนื้อเรื่องเล่าถึงเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายของสงครามกรุงทรอย ที่บทสรุปจบลงด้วยชัยชนะของชาวกรีกซึ่งใช้กลศึกม้าไม้ในการทำสงคราม

The Odyssey

โดย Homer

          ‘The Odyssey’ คือเรื่องราวที่เล่าต่อเนื่องจากสงครามกรุงทรอย โดยเนื้อหาจะเน้นไปที่ตัวละครเอกอย่าง ‘Odysseus’ ที่ต้องรอนแรมอยู่ในทะเลนานถึง 10 ปี เพื่อเดินทางกลับถึงบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเอง โดย ‘Ted Turner’ เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ว่า

ตอนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ผมเลือกเอกวรรณกรรมคลาสสิก เพราะอยากศึกษาวัฒนธรรมของกรีก รวมถึงประวัติศาสตร์โรมันด้วย ผมอ่านเรื่องพวกนี้ได้ไม่มีเบื่อ

The Aeneid

โดย Virgil

          ‘The Aeneid’ เป็นอีกหนึ่งมหากาพย์วรรณกรรมที่มีเนื้อเรื่องเชื่อมโยงกับสงครามกรุงทรอย เรื่องราวการเดินทางไปยังอิตาลีของ ‘Aeneas’ เจ้าชายที่รอดชีวิตจากเมืองทรอยและก่อตั้งอาณาจักรโรมันขึ้น วรรณกรรมเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่า ทำไมเทพปกรณัมของชาวโรมันถึงมีความเชื่อมโยงกับเทพปกรณัมกรีก

Gone With the Wind

โดย Margaret Mitchell

          ‘Gone With the Wind’ งานเขียนสุดคลาสสิกที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด นอกจากเนื้อหาจะเล่าเรื่องราวรักสามเส้าของตัวละครเอกทั้งสามคนแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นภาพสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา ที่เกิดขึ้นในปี 1861 ถึง 1865 ซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องทาส โดย ‘Ted Turner’ ให้เหตุผลที่ทำให้เขารักหนังสือเล่มนี้ว่า

ผมชอบอ่านหนังสือที่มีเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ และ Gone With the Wind ก็เป็นหนึ่งในนั้น

จุดเปลี่ยนของ CNN

          เหตุการณ์ที่ทำให้สำนักข่าว CNN กลายเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกมาจากการเกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียในปี 1990 ซึ่งสำนักข่าวของเขามีความเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ทำให้สามารถนำเสนอแง่มุมต่างๆ ได้อย่างละเอียด แตกต่าง ครบถ้วน มีความน่าสนใจ และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือมีนักข่าวที่พร้อมลงพื้นที่รายงานข่าวด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ในขณะที่สำนักข่าวอื่นๆ ไม่มีใครกล้าลงพื้นที่เพราะกลัวสงคราม สิ่งนี้จึงส่งผลให้สำนักข่าว CNN คือแหล่งข่าวเดียวที่สามารถมองเข้าไปในอิรักได้

Source : favobooks