ถุงยางอนามัย – ท้อง ไม่ท้องไม่ต้องลุ้น เพราะการป้องกันมีมากว่า 1,000 ปี

Home / สารพันหนังสือ / ถุงยางอนามัย – ท้อง ไม่ท้องไม่ต้องลุ้น เพราะการป้องกันมีมากว่า 1,000 ปี

ประวัติศาสตร์ ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย

อีกหนึ่งวิธีป้องกันในเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ไม่ต้องลุ้นว่า ท้องจริงหรือมั่วนิ่ม อีกต่อไป คือ การใช้ถุงยางอนามัย ตามแคมเปญที่สังคมออนไลน์เคยตื่นตัวอยู่สักพักใหญ่อย่าง “ซื้อถุงยางยังไงไม่ให้อาย

ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย

แล้วการซื้อถุงยางนี่มันน่าอายจริงหรือ? ..หรือจริง ๆ แล้วคนที่ต้องอายควรเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมและคนที่รักกันแน่ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่คุณตัดสินใจมีอะไรกับคู่รักโดยที่ไม่ป้องกัน นอกจากจะเสี่ยงตั้งครรภ์แล้วยังอาจนำพาโรคร้ายเข้าร่างกายได้ และสิ่งที่รุนแรงที่สุดเมื่อเกิดภาวะท้องไม่พร้อม อาจนำสู่การทำแท้งในที่สุด ซึ่งถือว่าร้ายแรงอย่างมาก

ถุงยางอนามัย

แต่ไม่ต้องอายไปหรอกนะ เรื่องทางเพศไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เพราะการใช้ถุงยาง มีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

 


ย้อนเวลาพันปี สู่ ถุง(ไม่)ยาง

ชิ้นแรกของโลก

ประวัติความเป็นมาของถุงยางนั้นอาจย้อนไปนานหลายศตวรรษ มีนักวิชาการหลายคนสันนิษฐานเอาไว้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมานานกว่า 13,000 ปี ก่อนถูกใช้อย่างแพร่หลายช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งกว่าจะมาเป็นถุงยางสำเร็จรูปที่ฉีกซองง่าย ใช้คล่องอย่างปัจจุบัน ถุงยางอนามัยถูกปรับปรุงรูปลักษณ์อยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งวิธีการใช้และวัสดุที่ใช้ในการผลิต

ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย
ถุงอนามัยที่ทำจากผ้าลินิน สันนิษฐานว่าทำขึ้นในปี 1900 – ที่มาของภาพ Wikimedia Commons
ถุงยางอนามัย
ก่อนศตวรรษที่ 19 ถุงอนามัยส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าลินินและเนื้อหนังของสัตว์ที่ได้รับการสลายทางเคมี (ใช้ส่วนลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ) เพื่อให้ได้ทรงถุงป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20  ถุงอนามัยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นั่นคือความก้าวหน้าทางเพศสัมพันธ์ครั้งสำคัญที่เกิดขึ้น และเกิดขึ้นก่อนที่จะมียาเม็ดคุมกำเนิดเสียอีก

ถุงยางอนามัย

ถุงอนามัยจึงเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่เกิดขึ้นยุคแรกในแถบตะวันตก ต่อมาในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 ต้นทุนของถุงยางต่ำลง ทำให้มันถูกใช้อย่างแพร่หลายในการวางแผนครอบครัวหลายประเทศ และมันยังมีความสำคัญในยุคที่โลกเผชิญหน้ากับโรคร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเอดส์, ซิฟิลิส รวมถึงหนองใน  เรียกได้ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย มนุษย์เราก็ไม่เคยห่างหายไปจากการยืดอกพกถุงนี้ทั้งนั้น โดยถุงอนามัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกถูกขุดพบบริเวณหน้าปากทางเข้าถ้ำ Dudley Castle มันถูกสร้างจากส่วนหนึ่งของสัตว์ และสันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นในปี 1642

ถุงยางอนามัย
ภายในถ้ำ Dudley Castle ค้นพบถุงอนามัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก – ที่มาของภาพ spafe.com.au
ถุงยางอนาม

ยุคเก่า กลาง ใหม่ ก็อุ่นใจเมื่อมีถุง

ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ยุคกลาง ไม่แน่ใจนักว่ามีการใช้ถุงอนามัยในอารยธรรมโบราณหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นข้อถกเถียงระหว่างนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์กันอยู่ ว่าในอารยธรรมโบราณของอียิปต์ กรีก หรือแม้แต่กรุงโรม ที่ไม่ต้องการให้ครอบครัวขยายตัวไปมากกว่าที่เป็น พวกเขาพึ่งพาการคุมกำเนิดแบบไหน?

ถุงยาง

ถุงยางอนามัย
ถุงอนามัยในอารยธรรมโบราณของอียิปต์
อย่างไรก็ตาม การคุมกำเนิดในยุคนั้นถือเป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายหญิง เพราะฉะนั้นอุปกรณ์และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา จึงมีไว้ใช้กับเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็น การฝังยาและสมุนไพรเอาไว้ที่ร่างกาย หรือแม้แต่การใช้กระเพาะปัสสาวะของแพะเพื่อทำถุงอนามัยของเพศหญิง แต่ก็มีนักวิชาการบางส่วนได้อธิบายถึงผ้าขาวม้าที่ชาวอิยิปต์และชาวกรีกสวมใส่ว่า มันไม่ได้มีไว้เพียงปกคลุมร่างกายเท่านั้น เพราะเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์ พวกเขาจะสวมมันปกคลุมอวัยวะเพศระหว่างทำกิจกรรมนั้นด้วย
ถุงยาง
แม้ยุคหลังจะมีการคุมกำเนิดออกมามากมาย แต่ไม่ได้มีบันทึกเอาไว้ชัดเจนจนกระทั่งศตวรรษที่ 15  ซึ่งจากข้อสันนิษฐานที่ดูเป็นไปได้คือในช่วงจักรวรรดิโรมันมีการใช้งานถุงอนามัยจริงแต่สูญหายไประหว่างการล่มสลาย ส่วนชาวมุสลิมและชาวยิวในยุคกลาง มีงานเขียนที่อ้างอิงถึงความพยายามจะคุมกำเนิดของเพศชายด้วยวิธีพิสดาร เช่น การครอบอวัยวะเพศด้วยดินน้ำมันก่อนทำกิจกรรมทางเพศ หรือแม้แต่เอาอวัยวะเพศไปแช่ในน้ำหัวหอม ไม่แน่ใจว่าพวกเขาใช้วิธีนี้จริงหรือไม่  เพราะเพียงได้ฟังก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนไม่น้อย

ไม่ใช่แค่ท้องไม่ท้อง แต่ป้องกันการติดโรค

จากบันทึกของ Gabrielle Fallopius ผู้ผลิตถุงอนามัยจากผ้าลินินคนแรกในบทความ De Morbo Gallico ที่กล่าวถึงการระบาดของโรคซิฟิลิส ในปี 1564 น่าจะเป็นครั้งแรกที่ถุงอนามัยถูกพูดถึงอย่างเป็นทางการ  โดยก่อนคริสต์ศักราชศตวรรษที่ 15 ถุงอนามัยชนิด GLANS หรือถุงอนามัยที่ครอบเฉพาะส่วนหัวขององคชาต ถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มคนชั้นสูง ไม่ใช่แค่โซนตะวันตกเท่านั้น เพราะในแถบประเทศจีน ได้ปรากฎ การใช้ถุงอนามัยที่ทำมาจากกระดาษไหม และประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ถุงอนามัยจากกระดองเต่าหรือเขาของสัตว์

ถุงยาง

ถุงยางอนามัย
พ่อค้าชาวดัตซ์นำถุงอนามัยชนิดคลุมทั้งอวัยวะเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในยุค 1640 เชื่อว่าเป็นถุงอนามัยที่ทำมาจาก “หนังแท้”

ถุงยางอนามัย

ถุงยาง
การระบาดของซิฟิลิสที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1494 หรือช่วงเดียวกับที่กองทัพฝรั่งเศสล่าอาณานิคมทั่วยุโรป  ซิฟิลิสจึงเริ่มกระจายจากโซนยุโรปไปยังพื้นที่เอเชีย และไม่กี่สิบปีตีวงกว้างไปทั่วประเทศจีน  การระบาดที่ว่านี้สร้างความหวาดหวั่นให้กับคนทั่วโลกอย่างมาก เพราะสมัยนั้นยังไม่มีวิธีการรักษาและหากติดโรคแล้ว จะนำพาสู่ความตายในไม่กี่เดือนต่อมา

ถุงยาง
Gabriele Falloppio ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ถุงอนามัยสมัยนั้นทำมาจากผ้าลินินแช่ในสารเคมีทำละลาย ใช้ปกคลุมอวัยวะของเพศชายและรัดรึงด้วยริบบิ้น  เขายังอ้างอีกว่า ได้ทำการทดลองถุงอนามัยผ้าลินินนี้กับผู้ชายจำนวน 1,100 คน และแทบไม่พบว่ามีใครติดโรคซิฟิลิสหรือหนองในจากการใช้ถุงอนามัยประกอบกิจกามสักคนเดียว
ถุงยาง
หลังจากที่ De Morbo Gallico ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลก เรื่องราวของการป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ก็แพร่หลายไปทั่วยุโรป ข้อบ่งชี้สำคัญที่อุปกรณ์นี้ถูกนำมาใช้ควบคุมการเกิดโรคมากกว่าการคุมการกำเนิด คือในช่วง ปี 1605 Leonardus Lessius นักบวชคาทอลิกชื่อดังออกมาประณามการคุมกำเนิดทุกวิธีว่าคือการกระทำที่ผิดศีลธรรม

ถุงยาง

ถุงยางอนามัย
Leonardus Lessius นักบวชคาทอลิกที่ออกมาประณามการคุมกำเนิดว่า ผิดศีลธรรม
ถุงยาง
มีการโต้แย้งและมองต่างเรื่องการใช้ถุงอนามัยมากมายในศตวรรษที่ 18 ทั้งการเรียกร้องให้พวกมันกลายเป็นสินค้าผิดกฎหมาย หรือโต้ตอบว่าพวกมันไม่สามารถป้องกันโรคได้ แถมยังให้สัมผัสที่ไร้ความรู้สึกเสียวซ่านใด ๆ และในด้านความเชื่อยังแสดงให้เห็นว่าการใช้ถุงยาง เป็นเรื่องผิดศีลธรรมที่เกินกว่าจะให้อภัยได้ แต่ถึงอย่างนั้นในศตวรรษที่ 18 ก็ยังนับว่าเป็นยุครุ่งเรืองยุคหนึ่งของการใช้ถุงอนามัย เพราะมันถูกวางขายตั้งแต่ในผับบาร์, ร้านตัดผม, ร้านขายยา, ตลาดกลางแจ้ง หรือแม้แต่โรงละคร

ถุงยาง

แม้ในช่วงปี 1800  มีบันทึกที่ระบุเอาไว้เกี่ยวกับการใช้ถุงอนามัย อาจจะสองหรือสามศตวรรษหลังจากสงครามปฏิวัติอเมริกา ว่าใช้แล้วระคายเคืองและไม่สบายผิวเลยสักนิดเดียว แต่ถุงอนามัยก็ถูกใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 ตั้งแต่ชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูง จะมีแต่ชนชั้นล่างเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้ อันเนื่องมาจากขาดการศึกษาเรื่องโรคทางเพศและราคาสูงมากหากต้องใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

ยางเปลี่ยนโลก

ถุงยางอนามัย

ถุงยาง
นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ถุงยางครั้งยิ่งใหญ่ในปี 1839  ต้องขอบคุณชายที่ชื่อ Goodyear Tires ที่คิดค้นการหลอมยางธรรมชาติแทนการใช้เนื้อเยื่อของสัตว์ในการผลิตถุงยาง เพราะหลังจากนั้นในปี 1855 แบรนด์ Trojan ได้คลอดถุงอนามัยที่ทำจากยางชนิดแรกที่ให้สัมผัสที่ดีขึ้นและราคาถูกมากขึ้น ก่อนหน้านี้ถุงอนามัยมีราคาแพงที่เกินไปและถูกมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น ซึ่งการใช้ถุงยางเพียงอันเดียว อาจเท่ากับค่าแรงทั้งอาทิตย์ของโสเภณีเชียวล่ะ

ถุงยางอนามัย
นักวิทยาศาสตร์ทดสอบการแตกและการระเบิดของถุงยาง โดยข้อกำหนดของรัฐบาลระบุเอาไว้ว่า ถุงอนามัยที่ได้คุณภาพจะต้องสามารถอัดอากาศเข้าไปได้ถึง 25 ลิตรอากาศก่อนที่จะระเบิด ซึ่งการทดสอบนี้ช่วยตรวจสอบข้อบกพร่องเล็กน้อยได้
ถุงยาง

ถุงยาง
เมื่อเปลี่ยนจาก หนัง เป็น ยาง สิ่งที่พัฒนาต่อมาคือ รูปแบบ จากที่เคยคลุมแค่ส่วนหัวขององคชาตก็สามารถคลุมทั้งอวัยวะเพศเพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันการรั่วไหลได้มากขึ้น  ในช่วงแรกที่มีถุงยางออกมาวางขาย ถุงอนามัยที่ทำจากสัตว์ยังได้รับความนิยมอยู่ จนค่อย ๆ เสื่อมความนิยมไปในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่จะเริ่มเห็นโฆษณาถุงยางอนามัยบนหน้าหนังสือพิมพ์ชื่อดัง อย่าง The New York Times
ถุงยางอนามัย
ป้ายส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยในปี 1943 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย American troops เพื่อรณรงค์ให้ใช้ถุงยางเพื่อป้องกันโรคซิฟิลิสและหนองใน

เปิดศึกการค้าถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย

ถุงยาง
ในที่สุดผู้เล่นตัวจริงในสังเวียนถุงยางอย่าง Trojan ก็ปรากฎตัวขึ้นในช่วง 1920 ถือเป็นก้าวสำคัญในการคิดค้นและพัฒนารูปแบบของถุงยางอนามัยไปอีกขั้น ด้วยกรรมวิธีที่ล้ำสมัยและความก้าวหน้าทางนวัตกรรม ทำให้ถุงยางถูกออกแบบมามีลักษณะ “หนึ่งขนาดเหมาะกับทุกคน” ซึ่งก่อนหน้านี้ขั้นตอนการทำถุงยางค่อนข้างอันตรายและมีความเสี่ยงสูง อันเนื่องจากต้องใช้น้ำมันเบนซินเป็นวัสดุในการผลิตจึงเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ อีกทั้งยังมีราคาต้นทุนที่สูง ซึ่งทำให้ราคาขายต่อชิ้นสูงตาม
ถุงยางอนามัย
ป้ายโฆษณารณรงค์ส่งเสริมถุงยางในปี 1980 เพื่อต่อสู้กับโรค HIV/AIDS
ถุงยาง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือความผิดมหันต์ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เพราะไม่ได้แจกจ่ายถุงยางให้กับทหารของตน ผลที่เกิดขึ้นทำให้ ซิฟิลิส และ หนองใน แพร่ระบาดสู่ประชากรกว่า 400,000 รายทั่วโลก โชคดีที่พวกเขายังเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งสำคัญ ทำให้ทหารในสงครามโลกครั้งที่สองฉลาดพอที่จะใส่ถุงยาง และเกิดแคมเปญรณรงค์ให้ใช้ถุงยางในวงกว้าง

” อย่าลืม – ใส่ไว้ก่อนที่คุณจะใส่มัน “

ถุงยาง

ข้อครหาแห่งศีลธรรม

ถุงยาง
การปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ของถุงยางอนามัยเกิดขึ้นในปี 2000 หลังจากที่ Durex เข้ามาโลดแล่นในอุตสาหกรรมถุงยางอนามัย ในปี 1957 และสร้างถุงยางอนามัยที่มีสารหล่อลื่นชิ้นแรกของโลก ซึ่งในปี 1965  และค่อนข้างจะประสบความสำเร็จเมื่อผลสำรวจพบว่า กว่า 42% ของผู้ที่ใช้บริการทางเพศยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยกับโสเภณี  และอีก 60% ของคนที่มีคู่สมรสยอมรับว่าเคยใช้ถุงยางอนามัยในห้องนอนเพื่อประกอบกิจกาม
ถุงยาง
แต่ถึงอย่างนั้นอุตสาหกรรมถุงยางก็ไม่ได้รับกำไรอื้อซ่าเป็นกอบเป็นกำอย่างที่คิดและไม่ใช่อุตสาหกรรมหลักที่สร้างมูลค่ากว่าพันเหรียญ จนกระทั่งมีการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ในทศวรรษที่ 1980
ถุงยางอนามัย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ถุงยาง
โรคระบาดนี่เองเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายถุงยางอนามัยทะลุสูงเป็นประวัติการณ์ ทุกคนวิตกกังวลและตระหนักถึงความปลอดภัยของตัวเอง ถุงยางจึงถือเป็นมาตรการสำคัญเพื่อการป้องกันการคุมกำเนิดและควบคุมโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนด้านศีลธรรมที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีในอดีตนั้น กลับถูกลบล้างและเจือจางลงเมื่อ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ออกมารับรองว่าการใช้ถุงยางอนามัยนั้นไม่ผิดศีลธรรมแต่อย่างใด

ถุงยาง
มีเซ็กซ์อย่างป้องกัน ต้องใช้ทั้งร่างกายและสมองไปพร้อมกัน นอกจากจะไม่ต้องมานั่งวิตกกับ “ท้อง” หรือ “ไม่ท้อง” ยังช่วยป้องกันโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นเพียงเพราะกระหายใคร่ครั้งเดียวเท่านั้น หากใครสนใจเรื่องรักใคร่ได้เสียในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ภาพยนตร์ ยังมีหนังสือ ” SEX หนัง รัก ใคร่” โดยสำนักพิมพ์ Geek Book ไว้มองเรื่องอย่างว่าในทิศทางที่ประเทืองสมองกว่าที่เคย

ถุงยางอนามัย


ที่มาของข้อมูล | Condom History — From Sheep Intestines To Latex  (allthatsinteresting.com), Special Topic History of Condom Use ( web.archive.org), History of condoms (en.wikipedia.org), Biographical / Historical (asteria.fivecolleges.edu), Large condoms for S African men (news.bbc.co.uk)
ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore

MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส 

ิ