ลับคมความคิดด้วย 10 แบบฝึกการเขียนเชิงสร้างสรรค์

Home / สารพันหนังสือ / ลับคมความคิดด้วย 10 แบบฝึกการเขียนเชิงสร้างสรรค์

          บางทีเขียนมากไปหรือเขียนบ่อยๆ ก็เกิดอาการเบื่อได้ ลองหาแนวทางเขียนใหม่ๆ หน่อยเป็นไร เพื่อปลุกไฟในการเขียนของคุณให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง จากโจทย์ฝึกสมองการเขียน 10 แบบที่จะแนะนำต่อไปนี้ ไม่แน่ว่า คุณอาจจะได้งานใหม่ๆ จากแบบฝึกการเขียนครั้งนี้ก็เป็นได้

          7 X 7 X 7
          แบบฝึกนี้ง่ายมาก หากเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ให้ลองค้นหาหนังสือเล่มที่ 7 จากชั้นวางหนังสือ เปิดไปที่หน้า 7 และสังเกตประโยคที่ 7 ในหน้านั้นให้ดี หลังจากนั้นเริ่มต้นบทกวีหรือเขียนเล่าเรื่องแบบง่ายๆ จากประโยคที่ได้เลย ขอจำกัดความยาวไว้ที่ 7 บรรทัด เพื่อขมวดเรื่องราวทั้งหมดไม่ให้เยิ่นเย้อเกินไป

          พจนานุกรมสร้างเรื่อง
          มีคลังคำเยอะเท่าไหร่ ย่อมทำให้การเขียนมีชัยไปกว่าครึ่ง แบบฝึกนี้ช่วยในเรื่องของการสะสมคำด้วยการเปิดหน้าพจนานุกรมแบบสุ่ม แล้วหยุดไปที่ต้น กลาง ปลาย ซ้าย ขวา หน้านั้นๆ ที่เปิดได้ เลือกมา 1 คำ แล้วค่อยเปิดสุ่มต่อไป จนได้คำประมาณ 4-5 คำ แล้วค่อยบรรจงแต่งเรื่องจากคำที่ได้ประมาณครึ่งหน้ากระดาษ ซึ่งเป็นแบบฝึกวัดกึ๋นการเขียนและจินตนาการโดยแท้

          เรื่องแรกเริ่ม
          หากการเขียนถึงทางตัน ลองไปที่จุดเริ่มต้นดูสิ อาจได้ไอเดียอะไรดีๆ ผุดมาก็ได้ โดยเริ่มจาก “ครั้งแรก” ในชีวิตของคุณ เช่น ป็อปปี้เลิฟครั้งแรก จูบแรก เลี้ยงสัตว์ตัวแรก แล้วบอกถึงความรู้สึกหรือเรื่องราวที่ห้อมล้อมเหตุการณ์นั้น เรื่องที่เขียนอาจเป็นเรื่องที่คุณหลงลืมไป แต่มันอาจกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการต่อยอดผลงานเขียนต่อไป

          จิ๊กซอว์นิตยสาร
          มีนิตยสารเหลือใช้เยอะไหม ถ้ามี มาลองแบบฝึกนี้กัน กับการตัดคำหรือวลีที่นิตยสารเขียนไว้ แล้วใส่ลงในชามหรือตะกร้า หลังจากนั้นสุ่มจับดูประมาณ 5-10 คำ แล้วเขียนเรื่องแต่งจำนวน 250 คำโดยประมาณ หรือครึ่งหน้ากระดาษ ชุดข้อมูลที่นิตยสารให้ อาจมอบเรื่องแต่งชั้นเยี่ยมในแบบที่คุณอาจไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้

          จังหวัดนี้มีดีอะไร
          เตรียมกระดาน หมุด และแผนที่ประเทศไทยไว้ งานนี้เราจะทำตัวเป็นไกด์และนักเขียนเรื่องท่องเที่ยวกัน โดยกางแผนที่ออกมาแปะในกระดาน เตรียมหมุดในมือไว้ให้พร้อม หลับตาแล้วปักลงไปในแผนที่ประเทศไทยเลย ปักได้ที่จังหวัด เมือง แม่น้ำ หรือทะเลแห่งไหน ลองเขียนเรื่องราวที่นั่นดู ไม่ต้องเค้น ไม่ต้องพยายาม เอาเท่าที่รู้ พอเขียนจนสุดแล้ว ค่อยหาข้อมูลพื้นที่นั้นๆ ว่า มีอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์การเขียนให้มากขึ้น

          ขายของแปลก
          แบบฝึกนี้อาจจะต้องงัดสกิลความเป็นพ่อค้า แม่ค้าในตัวคุณขึ้นมา เพราะมันคือการเขียนโฆษณาเพื่อขายสิ่งๆ นี้ให้ได้ โดยของที่นำมาขายจะไม่ใช่ของปกติที่เห็นได้ตามท้องตลาด แต่เป็นของที่แปลก และแหวกแนว เพื่อให้สมองได้เค้นการพรรณนาและบรรยายอย่างสุดความสามารถ เช่น ขายงูสายพันธุ์ที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน หรือขายสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยมีใครเห็น งานนี้วัดแววความคิดสร้างสรรค์ขั้นสุดกันไปเลย

          สวัสดี ตัวฉันในอนาคต
          เขียนให้เต็มที่ อยากบอกอะไรกับตัวเองในอนาคต เขียนไปอย่าได้หยุดว่า ต้องการจะพูดอะไรกับตัวเองในภายภาคหน้า จะบอกถึงอุทาหรณ์ ประสบการณ์ชีวิต การคาดเดาเหตุการณ์ในชีวิต หรือการประเมินสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ โดยอาจเขียนในรูปแบบจดหมายหรือบันทึกก็ได้ ไม่จำกัดหน้า ไม่จำกัดความคิด ลุยไปได้เลยเต็มที่

          คำโฆษณาล่าเรื่อง
          ภาษาเจ๋งๆ แจ๋วๆ มักจะปรากฏในใบปลิว โบรชัวร์ หรือใบประกาศโฆษณาเป็นส่วนมาก เอาตรงนั้นแหละมาตั้งธงในการเขียนงาน แบบฝึกนี้ไม่มีอะไรยุ่งยาก เขียนบทความจากภาษาหรือคำในโฆษณาที่ชอบหรือหามาได้นั่นแหละ อย่าง เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว แพรวพราวราวตากผ้า มันก็จะ…หน่อยๆ ฯลฯ เรียกได้ว่า มีเรื่องให้สร้างสรรค์และเขียนกันได้แบบยาวไป ยาวไป

          ฉันจำได้ว่า…
          เริ่มต้นย่อหน้าด้วย ‘ฉันจำได้ว่า…’ และปล่อยให้ความทรงจำพรั่งพรูออกมาเป็นตัวอักษร ใครที่ชอบทบทวนเรื่องราวของตัวเอง คงจะชอบแบบฝึกนี้ เพราะมันคือการรื้อฟื้นอดีตออกมาเรียบเรียงใหม่อีกครั้งในรูปแบบของการเขียน เขียนยาว มาก น้อย ไม่เป็นไร ขอแค่ได้เขียนว่า ตัวเองจำอะไรได้แค่นั้นพอ

          เปลี่ยนผู้เล่าเรื่อง
          เขียนแต่เรื่องตัวเองใช่ไหม แบบฝึกนี้ท้าทายกันไปเลย ด้วยการเขียนบุคลิกของคนที่มีเพศ เชื้อชาติ และอายุที่แตกต่างกันกับตัวเองให้เป็นผู้ดำเนินเรื่อง จะให้เขาทำอะไร ไปเจอกับเหตุการณ์ใด มีชีวิตอย่างไร แล้วแต่ใจของคุณเลย แต่อย่าเป็นเรื่องราวของตัวเองพอ เพราะการเขียนเรื่องราวของคนอื่น คือการดึงศักยภาพของตัวเองว่า ช่างสังเกตและมองความเป็นไปของโลกมากน้อยแค่ไหน

          หวังว่าทุกคนจะสนุก ฟิตแอนด์เฟิร์มสมองไปกับ 10 แบบฝึกสุดสร้างสรรค์นี้
          ใครเขียนเสร็จแล้ว ส่งมาให้อ่านใน Inbox Fanpage : MThai Books บ้างนะ…

          บทความแปลและแก้ไขจาก : writetodone