Her Publishing พม่าพักรัก รตี ช่วงแก้ว เที่ยวพม่า

ถึงจะโสดแต่ไม่เศร้า เพราะเธอแก้ได้ด้วย ‘การเดินทาง’

Home / สารพันหนังสือ / ถึงจะโสดแต่ไม่เศร้า เพราะเธอแก้ได้ด้วย ‘การเดินทาง’

เคยได้ยินคำว่า ‘เที่ยวบำบัด’ หรือเปล่าคะ เวลาเราเศร้า เราเหงา เราทุกข์ การออกไปเที่ยว ออกไปเจอโลกกว้างนี่แหละ จะทำให้เราลืมเรื่องที่ทำให้จิตใจบอบช้ำได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ รตี ช่วงแก้ว นักเขียนสาวเจ้าของผลงาน ‘พม่าพักรัก’ ที่เลือกการออกเดินทางคนเดียวเพื่อพักใจ และเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม ผ่านประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศพม่า ผ่าน 5 เมืองใหญ่ ย่างกุ้ง พุกาม กะลอว์ มัณฑะเลย์ และพินอูลวิน ที่คนอกหักน้อยคนนักจะออกเดินทางพักใจได้คนเดียวแบบเธอ

 

ทำไมถึงเลือกไปเที่ยวประเทศพม่าคะ

รตี : คือเราอยากไปเที่ยวพม่าอยู่แล้วค่ะ เพราะเราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบออกเดินทาง ถ้ามีเวลาหรือวันหยุดยาวๆ นี่เราเล็งหาที่จุดมาร์คเลย แล้วเราก็เป็นคนที่อยากไปเที่ยวไหนเราก็ไปเลย ไม่คิดอะไรด้วย จริงๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเดินทางคนเดียวนะคะ แต่มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราคิดว่า “อืม คงถึงเวลาที่ฉันต้องออกไปพักใจสักที” เราก็เลยตัดสินใจเช็คตั๋วเครื่องบิน ดูวันไป-วันกลับ แล้วก็จองเลยค่ะ

 

แล้วอะไรทำให้คุณรตีตัดสินใจที่จะไปเที่ยวพม่าคนเดียวคะ

รตี : จริงๆ เราเคยคุยกับคนคนหนึ่งไว้ว่าถ้ามีเวลาเราไปเที่ยวพม่ากันนะ เพราะก่อนหน้านี้เราเคยไปเที่ยวประเทศเวียดนามด้วยกันมา แล้วเรารู้สึกว่าเราเที่ยวกับเค้าแล้วเราสบายใจ เราสนุก เค้าเข้ากับเราได้ดีมาก แต่บางเรื่องเมื่อมันถึงเวลาของมัน เราก็ต้องเข้าใจให้ได้ว่า คนที่เราอยากเดินทางด้วยในวันนั้น อาจจะไม่ใช่คนที่อยู่ข้างเราในวันนี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับให้ได้ แล้วมันเหมือนเราได้พักด้วย พักจากความคิด พักจากความรู้สึกตรงนั้น แล้วไปพบกับประสบการณ์ใหม่ที่กำลังรออยู่ข้างหน้า ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาค่ะ (ยิ้ม)

 

ตอนที่ตัดสินใจจะไปเที่ยวพม่าคนเดียว คุณรตีรู้สึกเหงาบ้างไหมคะ

รตี : ไม่เหงาเลยค่ะ แล้วก็ไม่ได้ร้องไห้ด้วย พูดตรงๆ ว่าไม่เฮิร์ทเลย คือเราไม่ใช่คนเก่งอะไรนะคะ เราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งนี่แหละ แต่เราเชื่อว่า ถ้าเรากำลังเศร้า เราไม่ควรจะเศร้ากับมันนานเกินไป ไม่ควรคิดซ้ำไปซ้ำมาแต่เรื่องเดิมๆ โลกนี้ยังมีอะไรให้เราทำอีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งการออกเดินทางก็เป็นการเยียวยาที่ดีทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น เราเลยตัดสินใจไปเที่ยว เราจะได้โฟกัสแต่กับความสนุก ความตื่นเต้นที่เรากำลังจะไป แต่เวลาเจออะไรดีๆ ระหว่างทางเราก็คิดถึงนะคะ คิดถึงความทรงจำของเรา แต่ถามว่าเสียใจมั้ย เราไม่ได้เสียใจเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะเราเลือกเก็บแต่สิ่งดีๆ ไว้ เพราะเราเข้าใจ แล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่

 

 

ความรู้สึกตอนที่เที่ยวพม่าคนเดียวเป็นยังไงบ้างคะ

รตี : ความรู้สึกแรกตอนไปถึงพม่าคือ “แปลกดีนะ โสดดี” (หัวเราะ) จริงๆ คือตอนไปเที่ยวเราร่าเริงมากนะคะ ร่าเริงถึงขีดสุด ตื่นเต้นกับทุกสิ่งตรงหน้ามากๆ แต่ก็จะมีแวบนึงที่คิดว่า อืม… มันคงจะดีถ้ามีคนมาตื่นเต้นไปด้วยกัน แต่เราไปคนเดียวเราก็เลยตื่นเต้นคนเดียว ถ้าถามว่ากลัวมั้ย ก็มีบางครั้งนะคะ ที่เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะว่าเราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว แล้วคนพม่าเวลาเค้ามองผู้หญิงนี่เค้าก็จะมองแบบจ้องแรงๆ เลยนะ จ้องตามตาไม่กระพริบเลย เราก็มีกลัวๆ บ้าง เพราะจริงๆ ผู้หญิงพม่าไม่ค่อยเดินถนนคนเดียวนะคะ ส่วนใหญ่เราจะเห็นผู้หญิงพม่าแต่งตัวสวยๆ ในวัดซะมากกว่า ซึ่งเราก็ยิ้มสู้เลย แล้วก็เที่ยวต่อด้วยความตื่นเต้นเหมือนเดิม เพราะจริงๆ คนพม่าใจดีมากนะคะ ยิ่งรู้ว่าเราเป็นคนไทยเค้ายิ่งดีใจเลย ยิ้มแย้มแจ่มใส เราไปมา 5 เมืองใหญ่ ก็มี ย่างกุ้ง, พุกาม, กะลอว์, มัณฑะเลย์ และพินอูลวิน ไม่มีเมืองไหนเลยที่ทำให้เรารู้สึกแย่ค่ะ ชอบทุกเมือง

 

ถ้าอย่างนั้น อยากให้คุณรตีเล่าถึงหนังสือ ‘พม่าพักรัก’ หน่อยค่ะ

รตี : ค่ะ จริงๆ เราไม่ใช่นักเขียนโดยจิตวิญญาณนะคะ เราเพียงแค่ทำงานสายหนังสือกับสายนิตยสารมาก่อน แล้วเราก็ไม่เคยเขียนอะไรยาวๆ เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 ให้คนอ่านเลย แต่เราก็ผ่านงานเขียนมาบ้างในรูปแบบคอลัมน์ โครงสารคดี บทความสั้นๆ ซึ่งการเขียนหนังสือแบบที่ต้องเล่าเรื่องยาวๆ มันเป็นอะไรที่ยากกว่ามากๆ ก็ทำให้เครียดเหมือนกัน เพราะกว่าจะเค้นแต่ละบทออกมาได้เราใช้พลังงานไปเยอะมาก เขียนแล้วก็แก้ อ่านแล้วไม่ชอบก็แก้ จนรู้สึกว่ามันพอดีแล้วถึงได้ยิ้มออก อีกอย่างคือ เราอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นในรูปแบบบันทึกด้วย ไม่ได้อยากให้มันเหมือนหนังสือนำเที่ยวหรือหนังสือชวนเที่ยวอะไรแบบนั้น เราก็เลยใส่เข้าไปหมดทุกอย่าง ทั้งการวางโครงเรื่อง การเล่าเรื่อง การใช้รูปภาพประกอบ คือเราอยากให้มันออกมาเป็นหนังสือในแบบที่อ่านแล้วคนอ่านรับรู้ถึงความรู้สึกของเราที่มีทั้งก่อนและระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ให้ได้ ให้มันเป็นความทรงจำที่ดีของเรา ถึงแม้มันจะเริ่มต้นแบบเหงาๆ แต่พออ่านไปเราจะรู้เลยว่าไม่มีอะไรทำให้เราเหงาได้นอกจากใจเราเองค่ะ

 

 

แล้วรู้สึกหนักใจมั้ยที่ต้องมาเล่าเรื่องความรักที่ไม่สมหวังของตัวเองลงในหนังสือจนหมดแบบนี้

รตี : ตอนเริ่มต้นเขียนแรกๆ หนักใจมากค่ะ เพราะปกติเราก็ไม่ใช่คนที่ชอบเล่าความรู้สึกอยู่แล้ว เรื่องความรักมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คือเราก็ใช้เวลาตัดสินใจนานมากที่จะเล่าเรื่องความรักของเราทั้งหมดให้คนอื่นอ่าน เราก็จะเขียนแบบกั๊กๆ หลบๆ เล่าไม่หมดอะไรแบบนี้ แต่พอเรากลับมาอ่านอีกทีความรู้สึกมันไม่ได้อะค่ะ มันเหมือนเราอ่านอะไรที่ไม่สุด เราเลยต้องเปิดตัวเองแล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา เพราะเราอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เอาไว้เก็บเรื่องราวและความรู้สึกของเราระหว่างการเดินทางและเรื่องราวที่เกี่ยวกับคนคนหนึ่งจริงๆ ค่ะ

 

 

ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดของ “รตี” หญิงสาวที่ไปหลบรักพักใจไกลถึงพม่า

ได้แล้ววันนี้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ store.mbookstore.com