หวือหวารับวาเลนไทน์กับ Fifty Shades of Grey ! วันแห่งความรักทั้งทีอะไรจะดีไปกว่าการได้ทำอะไรหวานๆกับคนที่รัก เช่น ไปดินเนอร์, มอบของขวัญ หรือดอกไม้สักช่อ หรือแม้แต่การได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน อย่างเช่น ดูหนัง ก็นับว่าเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่เสริมความสัมพันธ์ได้ดีไม่แพ้กิจกรรมอื่น และคนโสดไร้คู่ชูชื่นก็สามารถเติมแต่งรสหวานด้วยหนังหวานๆนี้ได้เช่นกัน
แต่ครั้นจะให้แนะนำหนังรักธรรมดาก็อาจจะดูน่าเบื่อไป เพราะฉะนั้นวันนี้ BOOK.MTHAI จะพาไปรู้จักกับหนังรัก ชนิด ..รักต้องเฆี่ยน! อย่าง Fifty Shades of Grey ที่ได้ข่าวแว่วๆมา ภาค 3 Fifty Shades Freed กำลังจะมารับเดือนกุมภาพันธ์นี้ ชวนดูอย่างเดียวก็คงไม่ได้ งั้นขอแนะนำไปพร้อมๆกับการวิเคราะห์ตามหลักจิตวิทยาแล้วกัน ว่าไอ้เรื่องที่ทำเราจิกหมอน จิกผ้าปู หรือกัดฟัดกรอดด้วยความเขินในฉากเนี่ย ความจริงเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน คนอย่าง พ่อรูปหล่อเซ็กส์จัดจ้านอย่าง Christian Grey และ Anastasia Steele มีในโลกความเป็นจริงหรือเปล่า?
หนังรักอิโรติกจากนวนิยายขายดีของ E.L.James ที่มียอดขายทั่วโลกกว่า 100 ล้านเล่มทั่วโลก และได้รับการแปลถึง 52 ภาษา ถ้าพูดถึง โซ่ แซ่ กุญแจมือ น้ำตาเทียนแล้ว หลายคนคงนึกไปถึงเซ็กส์วิปริตของพวกวิตถาร แต่หนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นในมุมที่ต่างของไปในสัมพันธ์รักแบบ BDSM
เชื่อไหมว่าอิทธิพลจากหนังเรื่อง Fifty Shades of Grey ช่วงเปิดตัวแรกๆ ทำให้ยอดค้นข้อมูลเกี่ยวกับ BDSM พุ่งสูงเป็นประวัติกาล โดยข้อมูลจากทีมวิจัยของ Pornhub พบว่ามีอัตราการค้นหาคำว่า BDSM เพิ่มขึ้นถึง 40% และที่น่าสนใจอย่างมากคือผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่เอ.. BDSM ที่แท้จริงแล้วคือความสัมพันธ์แบบไหน
เมื่อบ่าว เลือกนาย
BDSM หมายถึงกิจกรรมทางเพศอย่างหนึ่งที่มีเซ็กส์แบบรุนแรงและทรมาน เป็นคำที่นิยามมาจาก 3 กลุ่มความสัมพันธ์ ได้แก่
1) B = Bondage (มัด,พันธนาการ), และ D= Discipline (เชื่อฟัง,การลงโทษ) หรือเรียกว่า B/D : มีกิจกรรมเฉพาะในห้องนอนเท่านั้น ไม่ขยายไปสู่ชีวิตประจำวัน
2) D=Dominance (ผู้ออกคำสั่งหรือนาย), S=Submission (ผู้ทำตามคล้ายเป็นทาส) หรือเรียกว่า D/S : ขยายไปสู่ในชีวิตประจำวันด้วย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมทางเพศ จะมีการตั้งกฎระหว่างกันอย่างชัดเจน มีการตั้ง Safe word เพื่อไม่ให้เกิดความครอบงำและลืมตัว เพราะผู้ที่เป็น Dominance บางคนอาจไม่ได้ตระหนักถึงขอบเขตที่มีต่อ Submission นัก Safe word จึงเป็นคำที่ถูกนำมาใช้เมื่อถูกละเมิด อาจยกเลิกข้อผูกมัดต่าง ๆ รวมไปถึงเลิกความสัมพันธ์ทันที ในบางครั้งอาจมีการสลับบทบาทกันไปมาได้ไม่ยึดติด
3) S=Sadism (มีความสุขทางเพศถ้าทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด) และ M=Masochism (มีความสุขจากการถูกผู้อื่นทำทารุณกรรม) หรือเรียกว่า S/M : มีขอบเขตคล้ายความสัมพันธ์แบบ D/S แต่จะเน้นไปที่กิจกามที่สร้างความเจ็บปวดแต่กลับได้รับความสุข แสวงหาความพอใจจากความเจ็บปวดของคู่กระทำ โดยเรียกผู้กระทำว่า นาย (Master) และผู้ถูกกระทำว่า บ่าว, ทาส (Slave) ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยินยอมกันและกันแต่กลับไม่เป็นที่ยอมรับจากวงกว้าง
P L A Y
ทฤษฎี BDSM แบบ Play นั้นจะถือว่าการมีเซ็กส์คือบทบาทอย่างหนึ่งที่ต้องแสดง จึงใช้คำว่า Play เพื่ออธิบายกิจกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดกิจกรรมกามดังกล่าวหรือช่วงเวลาในการเล่นเซ็กส์แบบ BDSM จะเรียกว่า “Session” และรายละเอียดกับสถานการ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะถูกเรียกว่า “Scene” โดยกิจกามดังกล่าวจะเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะในห้องนอนเท่านั้น ไม่กระทบไปถึงความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน
L O N G T E R M
แม้ว่าในงานเขียนที่เกี่ยวกับ BDSM ส่วนใหญ่จะอธิบายถึงความสัมพันธ์ระยะสั้นเท่านั้น แต่ในช่วงหลังพบว่าความสัมพันธ์แบบ BDSM นั้นนำไปสู่ขั้นการแต่งงาน มันยากมากที่เราจะเจอ “Perfect Match” ในความสัมพันธ์ดังกล่าวหรือความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในรสนิยมและความต้องการไปในทิศทางเดียวกัน เพราะความสัมพันธ์ของคนส่วนใหญ่มักปรารถนาให้คู่ครองเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ
P R O F E S S I O N A L S E R V I C E S
BDSM ชนิดนี้ไม่นับว่าเป็นความสัมพันธ์ แต่จะเรียกว่า บริการ เพราะเป็นการบริการอย่างมืออาชีพแลกกับเงิน ส่วนใหญ่จะให้บริการเฉพาะลูกค้าผู้ชาย
แล้วความสัมพันธ์ของ เขา และ เธอ ในเรื่องจัดอยู่ในขอบเขตไหนนะ? แม้นางเอกจะรับบท ทาส ในฉากร่วมรักก็ตาม แต่เมื่อถึงฉากชีวิต กลับ Switch มาเป็น ผู้ควบคุม ได้อย่างชาญฉลาด เสมือนเป็นผู้บำบัดอาการกระหายเซ็กส์ของพระเอกให้อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ และเปิดใจให้ความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักมากขึ้น หากวิเคราะห์แบบเจาะลึกกันจริง ๆ แล้ว ผู้อ่านอาจไม่ได้ชอบความวาบหวามในเรื่องบนเตียงของทั้งสองก็ได้ แต่ชอบวิถีปฏิบัติของ Christian Grey ที่มีต่อหญิงสาวที่ตัวเองปรารถนาเสียมากกว่า
ตรงไปตรงมา
ทุกคำถามของ Anastasia Steele นั้น Christian Grey สามารถตอบได้อย่างตรงไปตรงมา เช่น ครั้งแรกที่ Anastasia Steele พร้อมจะร่วมรักกับ Christian Grey จึงเอ่ยถามไปว่า “คุณจะร่วมรัก (make love ) กับฉันหรือ?” Christian Grey ตอบด้วยความตรงไปตรงมาว่า “Firstly, I don’t make love. I fuck” แน่นอนล่ะ ความตรงไปตรงมานับว่าเป็นกฎสำคัญแทบในทุกความสำคัญ อันเป็นรากฐานของการคบหาที่ทุกคนตามหา
มีกฎเกณฑ์ร่วมกันชัดเจน
แม้พฤติกรรมทางเพศของ Christian Grey จะหวือหวาจนน่าตกใจ แต่เขากลับไม่ใช่คนที่ทำตามใจตัวเองอย่างอำเภอใจและยังยื่นเงื่อนไข แก่ Anastasia Steele ในกฎเกณฑ์ที่ยอมรับกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย สิ่งที่ Christian Grey แสดงออก นั่นคือการให้เกียรติอีกฝ่าย อันเป็นสิ่งที่ทุกความสัมพันธ์พึงปรารถนา
คุณคือคนสำคัญ
Christian Grey แสดงออกอย่างชัดเจนว่า Anastasia Steele สำคัญกับเขามาก แม้บทบาทบนเตียงของ Christian Grey จะดูดุดันและเอาแต่ใจ แต่ทุกครั้งที่เขาเผลอทำอะไรให้อีกฝ่ายเสียน้ำตา เขาจะไม่ละเลยหรือทำอะไรที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ เขาทำในสิ่งที่เชื่อว่ามันจะสร้างความสุขทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว
แต่ทว่าที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเนี่ย แสดงว่าผู้อ่านกว่า 100 ล้านเล่มติดใจในสัมพันธ์สวาทแบบซาดิสต์ใช่ไหม? จริง ๆแล้วสรุปได้ว่าไม่ว่าจะความสัมพันธ์แบบใดก็ต้องการคนที่สามารถยอมเราตัวตนของเราได้ เหมือน Anastasia Steele ที่ยอมรับ Christian Grey ได้ถึงแม้ว่ามีความชอบทางเพศที่ค่อนข้างประหลาดก็ตาม
ยังมีหนังรักอีกหลายเรื่องที่เอามาจับประเด็นวิเคราะห์ตามหลักจิตวิทยาแล้วได้ประโยชน์มากทีเดียว หากใครสนใจที่จะอ่านเพิ่มเติมละก็ เข้าไปดูได้ที่ “รักหวานน้อยไม่ใส่น้ำตา” ของจิตแพทย์หนุ่ม พีรพล ภัทรนุธาพร หรือนักเขียนนามปากกา ผมอยู่ข้างหลังคุณ ที่หยิบยกหนังรักหลายเรื่องมาขีดเขียนวิเคราะห์ในแง่จิตวิทยาได้อย่างแตกฉาน
รวบรวมสาระน่ารู้ ทั้งข่าวสารวงการหนังสือ อีเว้นท์หนัง, หนังสือใหม่, หนังสือแนะนำ รีวิวหนังสือ และ อื่น ๆ อีกมากมาย มีให้อ่านกันฟรี ๆ ที่นี่ BOOK.MTHAI