หลายคนยึดติดกับความคิดแบบมโนหรือคิดเองเออเอง จนทำให้การตัดสินใจผิดพลาดเพราะไม่สอดคล้องกับความจริง บางคนมีความสามารถก็มักจะคิดแบบเอาตนเอง เป็นศูนย์กลางจักรวาล จนทำให้มองไม่เห็นคุณค่าของคนอื่น กระบวนการคิดแบบนี้ทำให้หลายคนจมปลักจนไม่ประสบความสำเร็จ เรามีทางออกคุณ! เชื่อเถอะว่าวิธีคิดเหล่านี้ จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน…
คิดในกรอบ และคิดนอกกรอบ
การปลดล็อคความคิดนั้นให้นึกว่าเราคิดอะไร อยากทำอะไร เราทำได้ทุกเรื่องไม่ว่าใครว่าเรา ไม่ว่าจะคิดนอกกรอบหรือในกรอบก็ตาม ขอเพียงแค่คิดเรื่องดีๆ ที่เปลี่ยนแปลงเราให้เป็นคนใหม่
คิดบวก คิดลบ คิดแบบไหน
การคิดบวกเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ เพราะการคิดบวกเป็นการคิดที่อยู่บนพื้นฐานของการมองโลกที่ดี แต่จงอย่าคิดบวกจนหลงลืมตน ส่วนการคิดลบนั้นหากมองอีกทางเปรียบเหมือนการช่วยเผื่อใจและเตือนตนไม่ให้ประมาทกับชีวิต
คิดตรงจริตตัวเรา อย่าไปก๊อปปี้เขาเลย
คนเรามักจะเลือกคบคนที่มีลักษณะนิสัยหรือความคิดคล้ายกัน บางคนเลือกที่จะทำตามคนอื่นแต่กลับนำไปปรับใช้ไม่เป็น เราจะต้องรู้จักนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง และเลือกเอาจุดเด่นของเราออกมาให้ได้
คิดให้เจ๋ง เก่งนอกกรอบ
ขอเพียงสนุกและรักที่จะเรียนรู้ ชอบที่จะทำ ตั้งใจแสวงหา กล้าทำในสิ่งที่ไม่เหมือนคนอื่น ก็จะทำให้เรามีความคิดแปลกๆ มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ออกมาเสมอ
กับดักความคิด
บางครั้งเราเชื่อว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนั้น แบบนี้ แต่ผลออกมากลายเป็นอีกแบบ บางครั้งความจริงกับสิ่งที่คิดคิดมักจะไม่ใช่เรื่องเดียวกันเสมอไป เราสามารถหลุดจากกับดักได้ง่ายๆ เพียงแค่เราไม่ยึดติดกรอบในเรื่องที่เราไม่รู้จริงและเลือกที่จะเดินตามคนอื่นเขา
เป็นหัวหมาดีกว่าอยู่กับเสือ
อย่าวิ่งหลงไปกับกระแสสังคมเพราะอาจทำให้หลงทางได้ แต่เราควรจะเป็นผู้ตามตลอด ไม่สำคัญว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันสำคัญตรงที่เราจะต้องเป็นใหญ่ที่ใจของเราเอง
คิดประมาทอาจตกหลุมพราง
เราจะประสบความสำเร็จได้จะต้องมีความมั่นใจในตัวเอง แต่ควรมีในระดับที่เหมาะสม เราต้องระมัดระวังจิตใจของเราไม่ให้ตกหลุมพราง ยิ่งเราเก่งมากเท่าไร ยิ่งต้องรับฟังผู้อื่นมากขึ้นไปเท่านั้น
คิดบวกตามเขา แต่ทำไมเราทุกข์จัง
เราควรปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้สอดคล้องกับร่างกาย ไม่จำเป็นต้องคิดบวกอย่างเดียวเสมอไป หากแต่ว่าให้คิดให้เห็นความจริงที่แท้จริงเท่านั้น เราจะเข้าใจและไม่ทุกข์
คิดบวกเพื่อท่านหรือเพ้อฝันเพื่อตนเอง
ถ้าเมื่อไรเราใช้ความคิดบวกเพื่อตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยขาดจิตสำนึก เมื่อนั้นความคิดนี้อาจย้อนมาทำร้ายตัวเราเองได้
คิดสายกลาง
คำว่า “ทางสายกลาง” ไม่ได้หมายถึงกายและวาจาของเรา แต่หมายถึงจิตใจ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้คิดบวกแต่ทรงเตือนให้เราละความชั่วและเลือกประพฤติความดี
คนฉลาดไม่อวดฉลาด…
บางเรื่องแม้เรารู้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเราควรพูดหรือไม่ เพราะบางทีเราอาจไปเจอคนที่รู้มากกว่าเราก็ได้ คนฉลาดที่แท้จริงจะต้องเข้าใจจิตใจของคนอื่น
คิดมุมกลับ คิดหลายมุม…
เราต้องคิดเสมอว่าไม่มีมนุษย์คนไหนเกิดมาแล้วไม่เจอปัญหาและไม่เคยผิดพลาดมาก่อน เมื่อเกิดปัญหาอย่าท้อแท้สิ้นหวัง ปล่อยให้เป็นบทเรียนให้เราได้ปรับตัว
คิดแบบรู้จริงและเข้าใจ…
การไม่ยึดติดตัวเองให้เป็นสูญกลางจะทำให้ชีวิตเรามีความสุข เราต้องใช้ชีวิตให้ฉลาด ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ สบายๆ และรู้จักปล่อยวางจึงจะเป็นการคิดที่รู้จริงและเข้าใจ
คิดไกล ใจกว้าง
การมองโลกกว้างๆ ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้หลายมุม เราจะเข้าใจความทุกข์และปัญหาอย่างลึกซึ้ง การคิดเช่นนี้น่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขสำหรับคนฉลาด
คิดอย่างมีเหตุผล
ในสังคมส่วนใหญ่มักจะเห็นคนทำสิ่งที่ถูกใจตนเองมากกว่าความถูกต้องตามหลักเหตุและผล คนที่ขาดสติมักทำอะไรผิดพลาดเสมอ หากเรามีสติก็จะได้คิดและเข้าใจจนเกิดเป็นปัญญาขึ้นมา
คิดสร้างคุณค่า
คนยุคนี้คิดว่าความสุขที่แท้จริงคือลาภยศและบารมี แต่แท้จริงแล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น ตัวเราเองนั่นแหละที่มีคุณค่ามากที่สุด ดังนั้นเราไม่ควรดูถูกตัวเองและเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
คิดไม่ประมาท
ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน บางอย่างเราเพ้อฝันไปกับมันและบางสิ่งก็เลวร้ายจนรับไม่ได้ แต่เราต้องรู้จักยอมรับมันพร้อมที่จะแก้ไขและเรียนรู้ไปกับมัน
คิดเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง
อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นเพียงภาพมายาของความคิดเท่านั้น ดังนั้นสิ่งใดเกิดขึ้นนั้นดีเสมอ อย่าคาดหวังมากจนเกินไปแต่ให้เชื่อมั่นในตนเองและเชื่อว่าทุกปัญหาแก้ไขได้เสมอ
คนฉลาดมักไม่ตกเป็นทาสอะไรๆ…
เพราะความอยากทั้งหลายทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นในใจ แต่ถ้าการมีแล้วทำให้เป็นทุกข์ สู้ไม่มีจะดีกว่า ถ้ารู้จักหยุดแล้วหันมาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็คงดีกว่านี้
คนฉลาดต้องแสร้งโง่เป็น
เราต้องทำตัวใฝ่รู้และพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอเพื่อพัฒนาเรื่องใหม่ๆ ไม่ให้ตกข่าวสาร พร้อมรับฟังอย่างสงบนิ่งนั่นต่างหากคือคนฉลาดอย่างแท้จริง ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะถ้ารู้จักโง่เป็น
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือ คิดแบบนี้ ชาตินี้มีแต่สำเร็จ