365 daily life mbookstore Springbooks แนะนำหนังสือ ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

Home / Editor Picks, สารพันหนังสือ / ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป มุมมองความทรงจำต่างๆ ทั้งดีและร้ายที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวันของชีวิต ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป


ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

“วันนี้เป็นวันที่แย่จัง”
เคยรู้สึกกับตัวเองบ้างไหม

o

ชีวิตเราต้องพบเจออะไรมากมาย บางวันเป็นวันที่ดี บางวันเป็นวันที่แย่ เมื่อเราเติบโตความสุขก็ยิ่งหายากมากขึ้น เพราะหลายอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม บางวันเราอาจรู้สึกท้อ หมดกำลังใจ

o

ความฝันที่เคยคิดจะทำสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ จนในที่สุดชีวิตของเราก็มีแต่วันที่แย่ มากกว่าวันที่ดี แต่ถ้าเราลองมองย้อนกลับมาสำรวจความคิดตัวเอง เราอาจพบว่า เป็นความคิดของเราเองต่างหากที่ทำให้เรารู้สึกแย่

o

เพราะชีวิตคือการเติบโตและเรียนรู้ ความผิดหวังและอุปสรรคคือสิ่งที่เราต้องพบเจอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราเติบโตขึ้น และแข็งแกร่งกว่าเดิม

o

หนังสือ ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป เป็นหนึ่งในหนังสือสร้างพลังบวกและคอยเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังพบเจออะไรที่แย่ๆ จากอีกหลายเล่ม ที่เราเลือกหยิบยกขึ้นมา อยากให้ทุกคนเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

o

ถังขยะของคนสำเร็จ

o

“ยิ่งความสำเร็จ
มีมากเท่าไหร่
โอกาสผิดพลาด
ยิ่งมากตามไปด้วย”

o

มีภาพหนึ่งที่สะท้อนถึงความสำเร็จ กับเบื้องหลังของมันได้เป็นอย่างดี เป็นภาพของนักแสดงกายกรรมโยนจานกลางอากาศ ผู้ชมที่ได้เห็นการแสดงต่างพากันปรบมือ ให้กับความสามารถของเขา โดยไม่มีใครเห็นจานใบอื่นๆ ที่แตกกระจัดกระจายอยู่หลังเวที

o

เป็นเหมือนตัวแทนของการฝึกซ้อม และความผผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนอยู่ระหว่างที่เขาเดินขึ้นมา บนโต๊ะทำงานของคนที่ประสบความสำเร็จ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กองรวมกันอยู่บนนั้น มีเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ที่นำมาใช้จริงๆ ที่เหลือคงถูกกวาดลงถังขยะ

o

เมื่อมองย้อนกลับไปยังเบื้องหลังของความสำเร็จ ความผิดพลาดและความล้มเหลวระหว่างทาง สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

o

ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

o

ตัวเราในวันพรุ่งนี้

o

“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ล้วนมีเวลาของมัน”

o

พอโตเป็นวัยรุ่นการแก้โจทปัญหาก็ไม่ได้ยากสักเท่าไหร่ พอเริ่มเขาสู่วัยทำงานการอกหักก็เป็นแค่เรื่องหนึ่ง พอทำงานมาสักระยะก็รู้ว่าไม่ควรเชื่อใจใครไปหมดทุกคน ที่เรารับมือกับปัญหาได้ไม่ใช่ว่าปัญหามันเล็กลง แต่เป็นเราต่างหากที่เรียนรู้และเติบโตขึ้น

o

เรื่องบางเรื่องที่เราเผชิญอยู่ในวันนี้ อาจจะต้องอาศัยประสบการณ์ เพื่อที่จะเข้าใจและผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีเวลาของมัน สิ่งที่เราทำได้คือทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำในวันนี้ และให้ตัวเราเราในวันพรุ่งนี้รับช่วงต่อวันนี้อาจเป็นวันที่พ่ายแพ้ แต่วันพรุ่งนี้ไม่มีใครรู้

o

ออกจากกระถางใบเดิม

o

“ความคิดของเรา
เมื่อได้พบเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มากขึ้น
ยิ่งแตกแขนงตามสิ่งที่เจอ”

o

อาจารย์ที่รู้จักกันเคยเล่าให้ฟังว่า น้องคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.ปลาย เขาเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวตั้งแต่เด็ก เวลาไปแต่ละที่จะมีสถานที่ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป เขามีความคิดว่าคงจะดีมาก ถ้าเขาสามารถแนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยวให้คนที่สนใจไปเที่ยวได้ง่ายขึ้น

o

เขาจึงขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อ ให้ช่วยสนับสนุนสิ่งที่คิดให้เป็นจริง คุณพ่อถึงกับตกใจเมื่อเขาขอยืมเงินหนึ่งแสนบาท เพื่อพิมพ์หนังสือไกด์บุ๊ก แต่เพื่อลูก คุณพ่อจึงยอมให้เงินจำนวนนั้นมา

o

น้องคนนี้นำเงินที่ได้ไปพิมพ์หนังสือขาย เริ่มแรกอาจจะยากสักหน่อย  แต่พอมีคนเอาโปรแกรมเที่ยวไปใช้ได้จริง ก็บอกต่อคนอื่นๆมาช่วยอุดหนุน

o

ผมไม่ได้จะบอกว่าเราควรออกไปเที่ยวบ่อยๆ หรอกนะครับ แต่ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ขณะที่ไปเที่ยวให้ได้มากที่สุด เปิดประตูบานใหม่ให้ชีวิตไปเรื่อยๆ ต้นไม้ที่โตขึ้นไม่สามารถอยู่ในกระถางใบเดิมได้ เพราะรากของมันยาวเกินกว่าสิ่งที่กีดขวางมันไว้

o

ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

o

ไอเดียสิ่งที่หาตัวจับยากที่สุด

o

“ความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งมหัศจรรย์
ที่ชีวิตมอบให้เราทุกคนอย่างเท่าเทียม”

o

ไอเดียสามารถพาเราไปพบกับทางออก มันสามารถแก้ปัญหาเรื่องยากๆ ด้วยวิธีใหม่ๆ ที่แก้ไม่ได้ด้วยตรรกะ อย่างเรื่องง่ายๆ เช่น รถโดยสารคันหนึ่งต้องวิ่งผ่านสะพานลอย แต่รถสูงกว่าสะพานลอยประมาณ 5 เซนติเมตร ทำให้ผ่านเส้นทางนี้ไปไม่ได้

o

ถ้าไม่สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ก็มีวิธีเดียวคือ ต้องรื้อสะพานออก หรือไม่ก็ต้องเลี้ยวกลับไป แต่มีพลเมืองดีท่านหนึ่งเสนอว่า ทำไมเราไม่ลองปล่อยลมยางรถดู มันอาจจะทำให้ลดความสูงลงมา แล้วรถจะลอดผ่านสะพานลอยไปได้

o

เมื่อได้ลองทำตามคำแนะนำดังกล่าว ก็สามารถทำให้รถลอดผ่านสะพานลอยไปได้จริงๆ บางครั้งไปเดียทำให้เราไปสู่จุดที่เราไม่เคยคาดคิด

o

o

อย่าให้ของสำคัญกว่าคน

o

“ของบางอย่าง
เสียแล้วซ่อมได้
แต่กับจิตใจคน
บางครั้งทำให้กลับมา
เหมือนเดิมไม่ได้”

o

น้องคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เธอไปหาเพื่อนที่พึ่งซื้อรถยนต์คันใหม่ เพื่อชวนให้เพื่อนขับรถของเขาไปเที่ยว แต่พอเธอก้าวขาขึ้นรถ แล้วรองเท้าไปขูดกับประตูจนเป็นรอย เพื่อนของเธอบ่นไม่หยุดเรื่องรอยนั้น และทริปนี้ก็เริ่มไม่สนุกซะแล้ว

o

รอยขูดเพียงรอยเดียว ทำให้เกิดรอยแผลในใจโดยที่เราไม่รู้ตัว ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ DrMassicotte เขาเป็นคุณพ่อที่มีลูกน้อยวัยกำลังหัดขีดเขียน วันหนึ่งลูกของเขาเขียนกำแพงด้วยปากกามาร์กเกอร์ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่นอาจจะดุลูกที่ทำบ้านเลอะเทอะ แต่เขากลับทำอย่างอื่นที่ดูเข้าท่ากว่านั้น

o

เขานำกรอบรูปมาครอบทับรูปวาดของลูก แล้วแปะชื่อผมงานและศิลปิน เหมือนรูปวาดชิ้นนี้เป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ที่ลูกของเขาจะรู้สึกภูมิใจทุกครั้ง ที่เห็นว่าพ่อของเขาให้ความสำคัญกับตน มากกว่าผนังบ้านที่เป็นรอย

o


o

เกี่ยวกับหนังสือ

ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

อะนะ
เจ้าของเพจ 365 daily life
เขียน

Nes
ถ่ายภาพประกอบ

o

ย้อนกลับไปทบทวนความคิด แม้จะมืดมิด ไม่มีวันไหนที่แย่เกินไป

สั่งซื้อหนังสือคลิก