หากใครได้เข้าไปที่เว็บไซต์ Google คงได้เห็นภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ในหน้าค้นหา ซึ่งเขาไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือนักเขียนมือฉกาจของไทยที่มีชื่อว่า ‘โชติ แพร่พันธุ์’ หรือ ‘ยาขอบ’ นั่นเอง
‘โชติ แพร่พันธุ์’ เกินวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2450 ถือเป็นนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญของไทย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของนามปากกา ‘ยาขอบ’ อีกด้วย ยาขอบเกิดที่พระนคร เป็นบุตรของเจ้าอินแปง เทพวงศ์ เชื้อสายเจ้าเมืองแพร่ มารดาชื่อจ้อย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาเข้ามาอยู่ในวงการนักเขียนนั้น มาจากที่ตอนเด็กพ่อและแม่พาไปฝากไว้ที่บ้านพระยาบริหารนครินทร์ ทำให้เขามีโอกาสได้อ่านวรรณกรรมชั้นดีหลายเรื่อง เช่น ขุนช้างขุนแผน, สามก๊ก, รามเกียรติ์, อิเหนา ซึ่งได้กลายเป็นพื้นฐานในการเขียนหนังสือในกาลต่อมา ขณะที่มีอายุ 6 ขวบ ก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และได้พบเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งซึ่งต่อมาได้กลายเป็นนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญนั่นคือ หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง ระพีพัฒน์, กุหลาบ สายประดิษฐ์ และ สด กูรมะโรหิต แต่สุดท้ายก็ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ม. 4 แล้วเร่ร่อนใช้ชีวิตตามลำพัง ต้องไปเป็นทั้งนักจ๊อกกี้แข่งม้า เด็กปิดใบปลิวหน้าโรงหนัง จนสุดท้ายได้มาพบกับ ‘ครูถนิม’ จึงรับตัวไปทำงานที่หนังสือพิมพ์ สยามรีวิว ต่อมาได้ทำงานที่หนังสือพิมพ์ ธงไทย ของ เฉวียง เศวตะทัต และลาออกไปเป็นหัวหน้าแผนกโฆษณาของห้างขายยาเพ็ญภาค
ในตอนนั้น เขามีหน้าที่ออกแบบและค้นคิดประโยคถ้อยคำโฆษณาแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ติดหูผู้ฟังออกสู่ตลาด เป็นที่ถูกใจเจ้าของมากเป็นพิเศษ จนในปี 2472 กุหลาบ สายประดิษฐ์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ สุภาพบุรุษ มองเห็นแววนักเขียนของเพื่อนตนเอง จึงขอร้องแกมบังคับให้เขียนเรื่องตลกขบขันส่งมาลงเป็นประจำ และตั้งนามปากกาให้ว่า ‘ยาขอบ’ ซึ่งเลียนแบบมาจาก W. W. Jacobs นักเขียนเรื่องตลกชื่อดังชาวอังกฤษ นอกจากเขียนเรื่องต่าง ๆ ลงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับแล้ว เขายังมีผลงานการประพันธ์มากมายหลายสิบเรื่อง นิยายเลื่องชื่อของท่านคือ ยอดขุนพล, ผู้ชนะสิบทิศ และ สามก๊กฉบับวณิพก และเขาได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2499 ขณะอายุได้เพียง 48 ปี เนื่องจากป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
แหล่งข้อมูล : wikipedia