MThai
Video
Seeme
เคยได้ยินมาว่า “ถ้าอยากรู้ว่าคนคนนั้นเป็นยังไง ..ให้ดูจากประเภทหนังสือที่เขาอ่าน หรือเพลงที่เขาฟัง” วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอดีตนักศึกษา Harvard ผู้เรียนไม่จบ, ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft รวมไปถึงประธานองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหนอนหนังสือตัวยง อย่าง Bill Gates เกี่ยวกับหนังสือ 5 เล่มที่เขาชื่นชมว่ามันดีที่สุดในปีนี้!
นวนิยายภาพกราฟิกที่เล่าเรื่องถึงการอพยพเอาตัวรอดช่วงสงครามเวียดนาม ในปี 1970 ผ่านตัวละครพ่อแม่ชาวเวียดนามกับการแบกรับภาระที่หนักอึ้งเพื่อตามหาอนาคตที่ดีกว่าในต่างแดน …จากเรื่องราวทั้งหมด จะหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนแบบไหนกันนะ?
แก่นหลักของเรื่องคือการต่อสู้สากล ท่ามกลางการปรับตัวสู่ความเป็นแม่ และค้นพบความหมายของการเป็นผู้ปกครองอย่างแท้จริง การเสียสละอย่างไม่มีที่สิ้นสุด, การกระทำที่ไม่ถูกจดจำ รวมไปถึงความรักที่พูดถึงไม่ได้ แม้จะดูขัดแย้งกับบทบาทครอบครัว แต่ดูเหมือนว่า Thi Bui ก็สามารถสอดแทรกอัตลักษณ์เหล่านั้นเข้าไปในทุกตัวอักษรได้อย่างความลึกซึ้งกินใจ
ไม่ใช่แค่ Bill Gates ที่พูดถึงหนังสือเล่มนี้อย่างออกหน้าออกตา แม้แต่ Viet Thanh Nguyen ผู้ชนะรางวัล Pulitzer Prize ก็ยังกล่าวถึงนวนิยายเล่มนี้ว่า “มันคือหนังสือที่จะรักษาหัวใจของคุณ หลังจากที่มันทำลายหัวใจของคุณจะแตกละเอียด” โดยสิ่งที่ Thi Bui ได้ให้ไว้ในหนังสือเล่มนี้คือความแรงบันดาลใจที่จะทำให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะค้นหาอนาคตที่ดี และปรารถนาที่จะมีอดีตที่เรียบง่าย
จากนักสังคมศาสตร์ Harvard สู่ผลงานชิ้นสำคัญของทุนการศึกษา (หนึ่งในเงินสนับสนุนของ Bill Gates) ที่จะทำให้เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความยากจนในอเมริกาไปเสียสนิท และก่อนจะมาเป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ Matthew Desmond ได้เข้าไปเก็บข้อมูลในย่านที่จนที่สุดในเมือง Milwaukee เพื่อศึกษาเรื่องราวของ 8 ครอบครัว หนึ่งในนั้นเป็นครอบครัวของ Arleen กับบทบาทคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามเลี่ยวลูกชายของเธอสองคนด้วยเงิน 20$ ต่อเดือนหลังจากจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ไปจนหมด, Scott พยาบาลผู้อ่อนโยนที่ติดเฮโรอีน, Lamar ชายไร้ขาที่ดิ้นรนทำงานเพื่อปลดหนี้กับเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยเด็กผู้ชาย และ Vanetta กับการเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายหลังจากที่เธอถูกพักงาน
“ความจน” ไม่ใช่ปัญหาเดียวคนพวกนี้เผชิญ หากแต่มันขยายวงกว้างไปสู่ปัญหาอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะปัญหาครอบครัว, การงาน, และสังคม ที่คนเหล่านี้ต้องกัดปากตีนถีบ เอาชีวิตรอดได้ในแต่ละวัน
บันทึกความทรงจำของ Eddie Izzard นักแสดงตลกชาวอังกฤษผู้ซึ่งชนะรางวัลชนะเลิศนักแสดงตลกยอดเยี่ยม เป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความทรงจำในวัยเด็ก, การแสดงครั้งแรกของเขาบนถนนลอนดอน และไต่ขึ้นสู่ความสำเร็จระดับสูงสุด จนมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับการยกย่องจากคนทั่วโลก
ว่ากันว่าในช่วงวัย 30 Eddie Izzard ได้พิสูจน์ว่าตัวเองด้วยการแสดงเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี จนดังเป็นพลุแตกอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าภาพยนตร์หรือจอโทรทัศน์ก็จะเจอเขาอยู่ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ย้อนไปในช่วงที่ Eddie 6 ขวบ ตอนที่แม่ของเขาเสียชีวิต นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกับชีวิตของเขาในเวลาต่อมา ในช่วงวัยรุ่นเขาลาออกจามหาวิทยาลัย เตร็ดเตร่เร่ร่อนเป็นนักแสดงตลกโนเนมอยู่บนถนนลอนดอนกับคู่หู่ของเขา ต่อมาเมื่อคู่หูของเขาไม่เอาด้วย เขาเลยฉายเดี่ยว ..สิ่งนี้สะกดสายตาและสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก ด้วยลีลาและสำบัดสำนวนที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับการแต่งกายที่โด่ดเด่น ทำให้เขาเป็นที่จดจำและโด่งดังในที่สุด
ผลงานของ Eddie Izzard ได้รับการตีพิมพ์ไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และได้รับการแปลถึง 4 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และ สเปน ด้วยลีลาการเขียนที่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน และการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนประวัติศาสตร์สะท้อนให้ผู้อ่านนึกภาพตามได้ไม่ยาก ทำให้หนังสือ Believe Me ของ Eddie Izzard สร้างแรงบันดาลในให้กับหลายชีวิตที่สับสนมาตั้งแต่อดีตจนสู่ยุคปัจจุบัน
The Sympathizer นวนิยายดีกรีรางวัลชนะเลิศ Pulitzer Prize ปี 2016 และยังกวาดรางวัลอื่นอีกกว่า 5 รางวัล ถูกยกย่อยให้เป็นนวนิยายยอดเยี่ยมที่สร้างความระทึกขวัญให้กับผู้อ่านได้อย่างลงตัว เป็นเรื่องราวมหากาพย์ความรักและความทรยศของ สายลับสองหน้าชาวลูกครึ่งฝรั่งเศส-เวียดนามเหนือที่ย้ายไปอยู่ในอเมริกาหลังจากการล่มสลายของสงครามไซ่ง่อน ซึ่ง The Sympathizer แตกต่างจากนวนิยายประวัติศาสตร์ทั่วไปที่เล่าในมุมมองอเมริกัน เพราะเป็นการเล่าเรื่องสงครามในมุมมองของคนเวียดนาม ที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างโลดโผนและตื่นเต้นจนผู้อ่านวางไม่ลง
Energy and Civilization เป็นเรื่องราวที่อธิบายถึงรูปร่างของ “พลังงาน” ตั้งแต่ก่อนยุคสังคมเกษตรกรรมมาจนถึงยุคอารยธรรมที่ใช้เชื้อเพลิงขับเคลื่อนในปัจจุบัน
“พลังงาน” เป็นเพียงหน่วยเรียกสากล แต่กลับจำเป็นอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อพลังงานบนโลก มักจะเป็นเรื่องที่น่าตระหนกเสมอ ทุกชีวิตบนโลกขึ้นอยู่กับพลังงาน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวมวลในโรงงานเพื่อการสาธารณูปโภค และพลังงานอื่นๆที่สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องพึ่งพา เช่นพลังงานเชื้อเพลิง ไปจนถึงการผลิตกระแสไฟฟ้าของเซลล์สุริยะ
หนังสือเล่มนี้ของ Vaclav Smil แม้จะต้องใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจกับคำศัพท์เฉพาะเสียหน่อย แต่ก็ไม่ยากเกินจะเข้าใจ ถือเป็นหนังสือน่าทึ่งอีกหนึ่งเล่มที่ศึกษาด้านพลังงานของโลกอย่างจริงจังในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยผ่านการวิจัยและเจียระไนสาระออกมาเป็นสาระประโยชน์คับเล่ม
Bill Gates เผยเคล็ดลับสำคัญในความสำเร็จไว้ว่า เขาจะอ่านหนังสือเฉลี่ย 1 เล่มต่อสัปดาห์ตั้งแต่วัยเด็ก แม้จะได้ออกไปพบเจอผู้คนที่น่าสนใจมากมายหรือไปเที่ยวรอบโลกมาแล้ว แต่ยังไงซะ ..การอ่านหนังสือก็นับว่าตอบโจทย์ความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นหนทางที่ดีในการเจอหัวข้อใหม่ๆ ที่คุณอาจจะสนใจอีกด้วย …ถ้าอยากประสบความสำเร็จก่อนใคร จะรอช้าไม่ได้แล้ว! อ่านเลย.. ที่นี่…
ขอบคุณที่มาจาก Forbes.com, Gatesnotes.com และ Goodreads.com
