จินตนาการ นักอ่าน มหานคร วรรณกรรม โลกวรรณกรรม

มหานครสุดยิ่งใหญ่ สู่จินตนาการแห่งโลกวรรณกรรม

Home / สารพันหนังสือ / มหานครสุดยิ่งใหญ่ สู่จินตนาการแห่งโลกวรรณกรรม

          หากจะให้นับว่าในโลกของเรามีงานเขียนประเภทวรรณกรรมอยู่ทั้งหมดกี่ชิ้น นับเท่าไรก็คงจะไม่มีวันหมด ปัจจัยสำคัญของการเขียนวรรณกรรมจะต้องเกิดขึ้นจากความคิดและจินตนาการ แน่นอนว่าเนื้อเรื่องจะต้องมีฉากและสถานที่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีงานเขียนจำนวนไม่น้อยเลือกใช้มหานครที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาอยู่ในเนื้อเรื่อง มหานครจึงเป็นที่มาสำคัญของจินตนาการที่นักเขียนจะสร้างสรรค์สิ่งใดลงไปก็ได้ จนกลายเป็นผลงานที่นักอ่านหลายคนให้การยอมรับในที่สุด เท่านั้นยังไม่พอ วรรณกรรมบางเรื่องยังกลายเป็นผลงานที่มีคุณค่าและได้รับการยอมรับไปทั่วโลกอีกด้วย

          และนี่ก็คือสุดยอดมหานครที่เต็มไปด้วยจินตนาการ มาดูกันว่าจะมาจากวรรณกรรมเรื่องไหนกันบ้าง…

A Tale of Two Cities

โดย Charles Dickens

          ฉากชาวสลัมแย่งกันดื่มไวน์จากถังซึ่งเป็นฉากเปิดของวรรณกรรมเรื่องนี้สามารถบอกคุณได้ทันทีว่าเรากำลังอยู่ในมหานครยักษ์ใหญ่อย่างปารีส ผู้เขียนใช้ตัวหนังสือวาดภาพปารีสยุคก่อนปฏิวัติและลอนดอนยุควิกตอเรียนในเรื่องได้อย่างหนักแน่นและได้อรรถรส แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงอยู่บ้างก็ตาม

The Bees

โดย Laline Paull

          รังผึ้งมักถูกใช้เป็นอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบมหานครขนาดใหญ่อันแออัดหลายต่อหลายครั้ง แต่ใน The Bees ของ Laline Paull นั้นเป็นเรื่องราวของมหานครในรังผึ้งจริงๆ คุณจะได้ติดตามชีวิตของ ‘Flora 717’ ผึ้งงานระดับต่ำสุดของฝูงที่ต้องออกผจญภัยมากมาย ทั้งที่ในแบบที่คุณคาดถึงและคาดไม่ถึงว่าผึ้งตัวหนึ่งจะสามารถทำได้

Five Star Billionaire

โดย Tash Aw

          วรรณกรรมเรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของวรรณกรรมชีวิตคนเมืองที่แท้จริง Five Star Billionaire เป็นเรื่องราวของชาวมาเลเซียหกคนที่ย้ายถิ่นฐานไปยังเซี่ยงไฮ้ ทว่าท่ามกลางฉากหลังอันสับสนวุ่นวายและเร่งรีบของมหานครที่ใหญ่ที่สุดของจีนแห่งนี้ พวกเขากลับพบว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ผู้คนหลายล้านคนต่างแปลกแยกและขาดปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อ

The Horse and His Boy

โดย CS Lewis

          ตัวละครหลักของเรื่องนี้เดินทางท่องเที่ยวตลอดเวลา และเมืองแฟนตาซีเมืองหนึ่งที่พวกเขาได้ไปเยือนก็คือ ‘Tashbaan’ ซึ่งในเรื่องถูกขนานนามว่าว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปข้างในแล้วกลับพบว่ามหานครแห่งนี้มันเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่อาบน้ำ สัตว์เลี้ยงแสนสกปรก กลิ่นเหม็นอันอบอวลมีกระเทียม หัวหอม และกองขยะมากมายตลอดทาง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นสภาพที่คล้ายคลึงกับมหานครในโลกแห่งความเป็นจริงมากทีเดียว

Saturday

โดย Ian McEwanSaturday

          เป็นเรื่องราวของแพทย์ศัลยกรรมคนหนึ่งที่ใช้เวลาหนึ่งวันท่องไปในใจกลางมหานครลอนดอน โดยตัวเขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจราจรอันติดขัด การผ่าตัดสมอง การขโมยของ การเล่นสควอช ไปจนถึงสงครามอิรัก ได้อ่านเรื่องนี้แล้วคุณจะพบว่าใน 24 ชั่วโมงของชีวิตคนๆ หนึ่งนั้นสามารถเกิดเรื่องราวอันชุลมุนวุ่นวายและชวนคิดได้เยอะแยะแค่ไหน

The Carnivorous City

โดย Toni KanThe Carnivorous City

          เป็นเรื่องราวของ ‘Abel’ ชายคนหนึ่งจากชนบทของไนจีเรียที่ต้องเข้ามาผจญภัยในมหานครลากอส เมืองใหญ่แห่งทวีปแอฟริกา เพื่อตามหาน้องชายของเขาซึ่งหายตัวไปอย่างลีกลับ เนื้อเรื่องจะค่อยๆ เปิดโปงความเป็นไปของสังคมไฮโซ แก๊งอาชญากร และสังคมลับของมหานครแห่งนี้ ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับตัวละคร

Batman

โดย DC Comics

          คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า Gotham เป็นมหานครในจินตนาการที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อเอ่ยชื่อ ใครๆ ก็ต้องรู้จักไม่มากก็น้อยผ่านหนังและวรรณกรรมซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตอย่าง ‘Batman’ ความหม่นหมองของมหานครแห่งนี้สอดรับกับซูเปอร์ฮีโร่ผู้เยือกเย็นและออกช่วยเหลือคนในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี

Clear Light of Day

โดย Anita Desai

          ท่ามกลางความเคลื่อนไหวในกรุงเดลีอันซอกแซกจอแจ ตึกรามบ้านช่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายไม่เว้นแต่ละวันแต่ยังมีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าที่ทรุดโทรมจนใกล้จะพังอย่างสันโดษ และความจริงของพวกเขากับความจริงของโลกภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นสิ่งเดียวกันเท่าไรนัก Clear Light of Day ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์ แต่เป็นการถ่ายทอดอารมณ์อย่างสมจริง ซึ่งจะทำให้คุณมองเห็นว่าสังคมๆ หนึ่ง หรือประเทศๆ หนึ่ง สามารถถูกแบ่งแยกด้วยความแตกต่างศาสนาและวัฒนธรรมได้อย่างไรบ้าง

My Name Is Red

โดย OrhanPamuk

          หลังจากตัวละครหนึ่งถูกฆาตกรรมในอิสตันบูล คุณจะได้ท่องไปในมหานครของตุรกีผ่านเทคนิคการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและคาดไม่ถึง ทั้งการเล่าเรื่องผ่านเหรียญ ศพ และสีแดง สุดท้ายคุณจะพบว่าไม่มีใคร วัตถุใดๆ หรือแนวคิดไหนที่ย่างเยื้องเข้ามาในเขตมหานครแล้วจะผ่านพ้นออกไปได้โดยไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เลย

Everything Good Will Come

โดย Sefi Atta

          วรรณกรรมเกี่ยวกับมหานครลากอสอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด Everything Good Will Come ถ่ายทอดชีวิตของเด็กผู้หญิงสองคนที่เจอในลากอสยุค 60s คุณจะได้เห็นว่ามหานครแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆ กับการเติบโตของพวกเธอ เมืองและความสัมพันธ์ของทั้งสองต่างผ่านพ้นความยากลำบากมามากมาย ทั้งสงครามกลางเมือง ยุคตื่นน้ำมัน และเผด็จการทหาร กลายเรื่องราวสุดคลาสสิกที่คุณอาจหาอ่านไม่ได้จากวรรณกรรมเล่มอื่นๆ

 

ที่มา : theguardian