Present Perfect เพราะวันนี้...ดีที่สุดแล้ว ฌอห์ณ ฌอห์ณ จินดาโชติ ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี

ฌอห์ณ จินดาโชติ บอกเล่าความคิด ประสบการณ์ชีวิตผ่าน “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”

Home / Editor Picks, Tell Me What You Read, สารพันหนังสือ / ฌอห์ณ จินดาโชติ บอกเล่าความคิด ประสบการณ์ชีวิตผ่าน “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”

นอกจากจะเป็นนักแสดงหนุ่มขวัญใจสาวๆ ทั่วประเทศแล้ว “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ยังถือเป็นนักเขียนมือดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือออกมาได้อย่างน่าสนใจ ล่าสุดฌอห์ณได้เปิดตัวหนังสือเล่มที่สองในชีวิตที่มีชื่อน่าอ่านว่า “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”

“ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” เป็นเหมือนบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพระเอกหนุ่มวัย 30 ปีคนนี้เป็นเรื่องราวสั้นๆ 30 เรื่อง ดูเหมือนเป็นบันทึกความทรงจำแต่ทว่าฌอห์ณใช้เวลาเขียน ตัด คัด เพิ่มนานกว่า 3 ปีกว่าจะคลอดหนังสือออกมาให้นักอ่านอย่างเราๆ ได้อ่านกัน

ฌอห์ณเล่าว่า “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” นั้นอาจจะเหมือนเป็นภาคต่อของหนังสือเล่มแรกที่เขาเขียนคือ “Present Perfect”  ในแบบฉบับที่มีมุมมองต่อโลก ต่อสิ่งรอบตัวที่โตขึ้น จากเด็กหนุ่มน้องใหม่ในการทำงานวัย 22-23 ปี แต่วันนี้ที่เขาอายุ 30 ทัศนคติมุมมองก็โตขึ้นด้วย

ถ้าคุณคิดบวกแต่ไม่มีเหตุผล ผมว่าคุณน่ะโลกสวย แต่ถ้าคุณมีเหตุผลประกอบที่มีน้ำหนักมันคือการคิดในแง่บวก”

ฌอห์ณได้บอกว่าถึงคอนเซ็ปของหนังสือ “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ที่ฟังแล้วแฟนๆ ต้องหลงรักเขามากขึ้นไปอีก เขาบอกว่าไมได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อตัวเอง แต่เขียนเพื่อให้หลานสาวและหลานชาย (น้องเวลา ก้องธรนินทร์ และ น้องที่ดี-ธร ก้องธรนินทร์) ที่กำลังอยู่ในวัยกำลังโต อยากให้เมื่อหลานโตขึ้นได้กลับมาอ่านเรื่องราวความคิด ทัศนคติของน้าฌอห์ณ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรอก แต่แค่อยากให้รู้ว่าน้าเคยเจอหรือผ่านอะไรมาแล้วหลานมีความคิดอย่างไรเมื่อกลับมาอ่านในวันที่โตขึ้น

อีกคนซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของฌอห์ณในการเขียน “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ก็คือคุณปู่ของเขาเองที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ทั้งหลานและปู่เหมือนอยู่ในโลกคู่ขนานกัน ขณะที่เด็กๆ อยู่ในวัยจดจำและเรียนรู้แต่คุณปู่กลับอยู่ในช่วงเวลาของอดีตและการอยู่ในวัยกำลังลืมมากกว่ากำลังจำฌอห์ณจึงอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างคนที่เรารักทั้งสามคน

ผมตั้งกฎเกณฑ์ไว้ว่าต้องเอาตัวไปในที่ที่เราไม่เคยไปบ้าง ไปเปิดสังคมกับคนใหม่ๆ แล้วให้สถานการณ์นำพา ได้รู้เห็นการแก้ปัญหา แล้วเป็นกระจกสะท้อนว่าเราเป็นคนแบบไหน”

 

 

“ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ฌอห์ณใช้การเล่าเรื่องประกอบบทสนทนาที่เขาคอยจดบันทึกเสมอ เวลาได้คุยกับใครๆ ซึ่งเรื่องราวทั้ง 30 เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่เขาเคยร่วมงานด้วย พี่สาว (พลอย จินดาโชติ) ญาตฝั่งพี่เขยอย่างคุณหมอเจี๊ยบ ลลนา ก้อง ธรนินทร์ (หมอเจี๊ยบเป็นน้องสาวของพี่เขยของฌอห์ณ) พ่อ แม่ หลานๆ  เพื่อนร่วมทริปที่บางคนก็เป็นคนที่เขาไม่รู้จักหรือไม่สนิท หรือกระทั่งเจ้าอาวาสวัด ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่การเก็บรายละเอียดและนำมาถ่ายทอดผ่านตัวอักษรของหนุ่มฌอห์ณนั้นมันจับใจคนอ่านได้จริงๆ

 

พอเอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ต้องลดความเป็นตัวเองลงมา มันต้องเกิดการขับเคลื่อนหรือการทำงานเกิดขึ้น ยิ่งกับคนที่ไม่สนิท มักจะเกิดคำพูดตรงไปตรงมา แล้วคำพูดเหล่านั้นนำมาแก้ไขตัวเองได้เร็วด้วย ผมเชื่อในระบบแบบนั้น”

 

เรื่องราวในหนังสือ “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ในบางตอนฌอห์ณได้บอกเล่าถึงการไปเที่ยวกับเพื่อนที่ไม่สนิทแต่กลับเป็นสีสันและทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งการฝึกแก้ปัญหา การได้รู้จักตัวเอง ลดความเป็นตัวเองลงมา แม้ว่าระหว่างทางจะต้องเผชิญกับความอึดอัดบ้าง แต่สิ่งที่เขาได้กลับมามันมากกว่านั้น

ฌอห์ณยังได้บอกเล่าถึงมุมมองความสุขของตัวเองในวัย 30 ปีด้วยว่า “ผมเชื่อว่าทุกช่วงเวลาเป็นช่วงที่ดีนะ แม้ช่วงเวลาที่เราเศร้าที่สุด เพราะมันทำให้เราอยู่กับตัวเอง”

 

“เวลาที่มีความสุขเราจะไม่ได้อยู่กับตัวเองหรอก มันจะเตลิดไปไกลมาก แต่ว่าในวันที่เศร้า เราจะได้ทบทวนว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น แล้วพอผ่านจุดแห่งการโศกเศร้าเสียใจ มันจะเป็นจุดของการเรียนรู้ พอเรียนรู้ก็จะคิดได้ มันก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง”

 

หากแฟนคลับของหนุ่มฌอห์ณหรือนักอ่านท่านไหนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากรู้จักฌอห์ณและคนรอบตัวของเขาให้มากขึ้น ก็สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของหนังสือ “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ ซื้อหนังสือครั้งนี้ได้บุญด้วยนะจ๊ะ เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการขาย หนังสือ “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” จะนำไปมอบให้โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ และเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดหนองพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี อีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก https://adaybulletin.com/talk-conversation-sean-jindachot-time-will-tell

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก IG : @seanjindachot