Crying Out Love in the Center of the World Socrates in Love ซีรีส์ ซีรีส์ญี่ปุ่น ซีรีส์เกาหลี ทาคายูกิ ยามาดะ อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก ฮารุกะ อายาเสะ

อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก ความตาย กาลเวลา ไม่อาจไม่พรากรักแท้

Home / สารพันหนังสือ / อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก ความตาย กาลเวลา ไม่อาจไม่พรากรักแท้

ตอนที่ทราบว่าจะได้หนังสือเรื่อง “อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก”  ( 世界の中心で、愛をさけぶCrying Out Love in the Center of the World) ผลงานจากปลายปากกาของ “เคียวอิจิคาตายามะ”  (Kyoichi Katayama) ก็ระลึกได้ว่าเคยดูเวอร์ชั่นซีรีส์ญี่ปุ่นที่นำแสดงโดยนางเอกสาว ฮารุกะ อายาเสะ (HarukaAyase) กับพระเอก ทาคายูกิ ยามาดะ (Takayuki Yamada) ในครั้งนั้นใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Socrates in Love”จำได้ว่าร้องไห้เป็นเผาเต่าตอนดูซีรีส์แต่พอมาดูฉบับภาพยนตร์ก็ซึ้งไปอีกแบบเหมือนกัน แน่นอนว่าพอมาเสพด้วยการอ่านก็ย่อมได้อรรถรสที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แต่ละบรรทัดที่ตั้งใจอ่านบ้างข้ามไปบ้างนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอันมากล้นของพระเอกอย่าง “มัทสึโมโตะ ซาคุทาโร่” หรือ“ซัคจัง” ที่ได้บอกเล่าทุกเรื่องราวระหว่างเขากับ “ฮิโรเสะ อากิ” และคนรอบตัวคนอื่นๆ ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง จนทำให้นึกภาพตามและรู้สึกตามไปได้ไม่ยาก ไม่ว่าฉากนั้นจะเป็นฉากติดตลก ฉากเศร้า ฉากโรแมนติกเล็กๆ การแทนตัวเองว่า “ผม” ผู้เขียนและผู้แปลต่างก็ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวอักษรได้อย่างละเมียดละไมซะเหลือเกิน คนอ่านยิ่งรู้สึกเข้าถึงตัวละครได้ง่ายขึ้นด้วย

https://www.tbs.co.jp/tbs-ch/item/d1198/

“อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก” ใช้วิธีการเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตผ่านความนึกคิดของซัคจัง ว่าด้วยเรื่องระหว่างที่ซัคจังและอากิคบหากันตั้งแต่ม.ต้นจนอากิล้มป่วยด้วยโรคลูคิเมียและจากไปในช่วงม.ปลาย พ่อแม่ของอากิได้พาซัคจังไปที่ “อูรูลู” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศออสเตรเลียที่ชาวอะบอริจินส์เชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลกเพื่อโปรยเถ้ากระดูกของอากิตามคำขอร้องของเธอ  แต่ทว่าซัคจังกลับแอบเก็บเถ้ากระดูกบางส่วนของสาวผู้เป็นที่รักเอาไว้นานกว่า 17 ปี เพื่อหวังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เสมือนว่าอากิยังอยู่กับเขาตลอดเวลา

เรื่องราวได้บอกเล่าถึงความรักของซัคจังที่อาจกล่าวได้ว่าคือการไม่ปล่อยวาง เขาเหมือนคนตายที่ยังมีลมหายใจ กว่า 17 ปีเต็มที่เขาจมอยู่กับเถ้ากระดูกอากิในขวดพลาสติกใบจิ๋ว กระทั่งวันที่เขาทำมันแตก และได้กลับไปหาพ่อแม่ของอากิเพื่อสารภาพว่าแท้จริงแล้วเขาแอบเก็บมันไว้ และครั้งนั้นเองที่ทำให้เขาได้ปลดปล่อยตัวเองจากอดีตที่จมดิ่งมาเนิ่นนาน

เรื่องราวระหว่างอากิกับซัคจังนั้นถูกถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาที่เรียบง่าย ทว่าสละสลวยจนอยากจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ หน้าแล้วหน้าเล่า ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าอยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลกเป็นนิยายรักธรรมดาๆ ที่สื่อสารถึงความรักที่ซัคจังมีต่ออากิที่ไม่หวือหวาแต่น่าจดจำ หลายประโยคนั้นตรึงใจไว้อ่านแล้วอบอุ่นใจ

https://www.tbs.co.jp/tbs-ch/item/d1198/

(คำพูดของซัคจัง)

“…การที่เรารักใครสักคนมันหมายถึงว่า เราให้ความสําคัญกับคนๆ นั้นมากกว่าตัวเองนะ อย่างเช่น ถ้ามีของกินอยู่แค่นิดเดียว ฉันก็พร้อมที่จะยกส่วนของฉันให้อากิ หรือถ้ามีเงินอยู่น้อยนิด ฉันก็จะเลือกซื้อสิ่งที่อากิอยากได้มากกว่าสิ่งที่ตัวฉันเองต้องการ แค่อากิบอกว่าอร่อย ท้องของฉันก็อิ่มแล้ว…”  

(คำพูดของอากิ)

“สิ่งที่ไม่มีอยู่ในที่นี้ตอนนี้ตาย ไปแล้วก็คงจะไม่มีหรอก แต่อะไรก็ตามที่มีอยู่ในตอนนี้ ถึงตายไปแล้วก็จะยังคงมีอยู่อย่างนั้น”

(คำพูดของซัคจัง)

“ถ้าอย่างนั้นความรักและความรู้สึกของฉันที่มีต่ออากิ ตอนนี้มันอยู่ที่นี่แล้ว ถึงตายไป มันก็จะยังคงอยู่สินะ”

https://www.tbs.co.jp/tbs-ch/item/d1198/

แค่ตัวอย่างบางส่วนของบทสนทนาระหว่างพระนาง ผู้อ่านคงคิดไม่ต่างกันใช่มั้ยคะว่าทำไมนิยายที่เนื้อเรื่องดราม่า นางเอกตายตั้งแต่กลางเรื่องกลับได้รับความนิยมทำยอดขายได้มากถึง 4 ล้านเล่มแค่ในญี่ปุ่น ยังไม่รวมการแปลเป็นภาษาไทยที่มีทั้งนิยายและการ์ตูน ทั้งยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เวอร์ชั่นเกาหลีอีกด้วย

“คนบางคน พระเจ้าแค่ส่งให้มาเจอกัน แต่ไม่ได้ให้มาอยู่ด้วยกัน” ประโยคโปรยสุดคลาสสิกที่ทำให้ “อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก” (Crying Out Love in the Center of the World) เป็นนิยายที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า มาร่วมซาบซึ้งไปกับความรักที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แต่ก็ไม่เคยตายไปจากหัวใจกันเถอะค่ะ