จิตต์ แพร่พานิช ร้านหนังสือแพร่พิทยา สำนักพิมพ์ปิดตัวลง สำนักพิมพ์แพร่พิทยา แพร่พิทยา

ยุคสมัยเปลี่ยนไป ร้านหนังสือในความทรงจำจากลา ปิดตำนานร้านหนังสือเก่าแก่ “แพร่พิทยา”

Home / Book News, สารพันหนังสือ / ยุคสมัยเปลี่ยนไป ร้านหนังสือในความทรงจำจากลา ปิดตำนานร้านหนังสือเก่าแก่ “แพร่พิทยา”

 

      หลังจากที่ร้านหนังสือที่เก่าแก่อย่างดวงกมล ดอกหญ้าสยามสแควร์ หมึกจีน บรรณากิจ โอเดียนสโตร์สยามสแควร์ หรือแม้แต่ เอเซียบุ๊กส์ สาขาสุขุมวิท ก็มาถึงคราวของร้านหนังสือ แพร่พิทยา ที่มีการลดสาขาลงเรื่อยๆ และปิดทำการในที่สุดหลังจากดำเนินกิจการมาหลายชั่วอายุคน

      ร้านหนังสือ “แพร่พิทยา” เริ่มต้นจาก คุณจิตต์ แพร่พานิช ได้จดทะเบียนพาณิชย์เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2496 โดยเปิดร้านหนังสือเป็นที่แรกในย่านการค้าวังบูรพา

 

 

 

      โชคดีที่คุณจิตต์ แพร่พานิชมีเพื่อนนักเขียนและนักแปลที่ชื่อว่า อาษา ขอจิตต์เมตต์ ช่วยติดต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อเชิญ ดร. เดล คาเนกี นักเขียนเจ้าของผลงาน วิธีชนะมิตรและจูงใจคน (How to Win Friends and Influence People) และหนังสืออีกมากมายที่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านคนไทยเป็นอย่างมากในสมัยนั้น มาเป็นเกียรติและตัดริบบิ้น ในงานเปิดร้านวันที่ 1 สิงหาคม 2496

      แรกเริ่มเดิมที แพร่พิทยา ขายหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ทุกหัวในประเทศไทยขณะนั้น นอกจากนั้นยังมีหนังสือพิมพ์ชาวกรุงที่มีข่าวความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และความรู้ทั่วไป ซึ่งเพลินพิศอ่านเป็นประจำเมื่อครั้งยังเด็ก

      ต่อมาได้มีการนำหนังสือประเภทอื่นๆมาขายด้วย หนังสือในร้านมีหลากหลายประเภทให้ลูกค้าได้เลือกซื้อไปอ่านกัน  เช่น นิยายรัก หนังสือตลก หนังสือบู๊ จนถึงหนังสือพยากรณ์ เรียกได้ว่าแพร่พิทยารับซื้อหนังสือทุกประเภทมาวางขายที่ร้าน โดยเธอจะเรียกหนังสือเหล่านี้ว่า ‘หนังสือของชาวบ้าน’ หมายถึงหนังสือที่คนทั่วไปพิมพ์ขาย

 

 

      สำหรับจุดเด่นที่หลายๆ คนรู้จักเมื่อพูดถึงร้านหนังสือ แพร่พิทยา ในสมัยนั้นนั่นก็คือ ละครวิทยุ ที่ทางร้านได้จัดขึ้นให้ลูกค้าได้เข้ามาฟังกัน และแน่นอนว่า เมื่อฟังแล้ว ทุกคนก็อยากจะรู้เรื่องราวของหนังสือนั้นเพิ่มขึ้น เป็นการโปรโมทหนังสือไปในตัว แต่ถึงจะถูกใจลูกค้าแค่ไหน กิจกรรมนี้ก็ต้องล้มเลิก เพราะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นั่นเอง

      นอกจากจะขายหนังสือแล้ว แพร่พิทยายังเป็นสำนักพิมพ์ ทำการจัดพิมพ์หนังสือของตัวเองหลายต่อหลายเล่ม ผลงานจากนักเขียนท่านผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส จนมีนักเขียนมากหน้าหลายตามาร่วมสร้างผลงานกับสำนักพิมพ์นี้

 

 

      แต่ช่วงหลังมานี้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนังสือเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผู้คนหันมาสนใจในเทคโนโลยีมากขึ้น หันมาจับโทรศัพท์มากกว่าจับหนังสือ คนไทยอ่านหนังสือน้อยลงมากอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ให้หลายๆสำนักพิมพ์ต้องทำการปิดกิจการลง รวมไปถึง แพร่พิทยาด้วย

      ตลอดระยะเวลา 65 ปีที่จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือ แพร่พิทยา ได้สร้างความทรงจำไว้ให้กับเหล่าลูกค้าหลายรุ่น ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ทำเอาคนรักหนังสือเสียดาย และเสียใจกันมากมาย แต่จากการเปลี่ยนแปลงของทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ก็ต้องทำใจยอมรับกันต่อไป

      แพร่พิทยา จะปิดกิจการในเดือนพฤศจิกายน สำหรับใครที่ยังอยากไปรำลึกความหลัง หาหนังสือที่เก่าแก่ หรืออยากจะไปนั่งเล่นพูดคุยกับเจ้าของร้านก็สามารถไปกันได้ภายในวันดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : แพร่พิทยา แด่ความทรงจำของร้านหนังสือที่ทันสมัยที่สุดในพระนคร