นวนิยายสืบสวนฆาตกรรม มีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งต่อสมอง

นวนิยายสืบสวนฆาตกรรม

การอ่าน นวนิยายสืบสวนฆาตกรรม มีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งต่อสมอง

นวนิยายสืบสวนฆาตกรรม

นอกจากเราจะอ่านเพื่อความสนุกสนานแล้ว การอ่านนวนิยายสืบสวนฆาตกรรมยังมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งต่อสมองอีกด้วย

.

.
.
(1) ผลการวิจัยจาก สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการอ่านนวนิยายฆาตกรรมช่วยลดอัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์สูงถึง 2.5 เท่าของผู้สูงอายุที่ไม่อ่านหนังสือเลย

.

(2) การอ่านนวนิยายฆาตกรรมสร้างสังคมนักอ่านขึ้น เมื่อบางคนเริ่มฉงนและสงสัยในการสืบสวนแล้วโพสต์ถามมันลงไปในกลุ่มสังคมวงกว้าง  เช่น #BlackMirror ของ Netflix ที่ทำให้คนที่ดูเหมือน ๆ กันเริ่มพูดคุยในประเด็นเดียวกัน.

.

(3) กว่าจะมาเป็นเนื้อหาส่วนใหญ่ของนวนิยายสืบสวนฆาตกรรมต้องผ่านการสืบค้นข้อมูลมากเพียงพอที่จะตกผลึกและกลายเป็นหนังสือได้ นักเขียนบางคนทำการสัมภาษณ์ฆาตกรตัวต่อตัว พูดคุยกับตำรวจ ตามติดวิถีชีวิตการสืบสวน หรือบางครั้งก็เป็น FBI เองนี่แหละ ที่ผันตัวมาเป็นนักเขียน!

.

เช่น ‘Mindhunter ล่าปมวิปลาส’ จากสำนักพิมพ์ Maxx Publishing โดย JOHN E.DOUGLAS เขาคือ FBI ที่นำประสบการณ์การทำงานที่ต้องใกล้ชิดฆาตกรต่อเนื่องตัวจริงมาเขียนลงสมุดบันทึก และกลายเป็นหนังสือ-ภาพยนตร์ในที่สุด

.

(4) Dr. David Lewis นักประสาทวิทยาด้านความรู้ความเข้าใจให้ข้อมูลว่า เมื่อคุณอ่านนวนิยายสืบสวนฆาตกรรมติดกันมากกว่า 10 นาที จะช่วยสลายความเครียดที่มีได้มากกว่า 68% หรือเทียบเท่ากับการออกกำลังกาย ฟังเพลง และ ดื่มสังสรรค์

.

(5) อยากล้วงลึกจิตใจของคนให้อ่านนวนิยายสืบสวนฆาตกรรม เพราะทุกรายละเอียดนั้นผ่านการสืบค้นและสังเกตมาจากบุคคลจริงที่ก่อการกระทำขึ้นจริง 

.

ไม่มีความจริงจากที่ไหนจะสมจริงเท่าจากปากและการกระทำของฆาตกรเอง  เพราะฉะนั้นอยากรู้ว่าฆาตกรคิดอย่างไร คุณก็ต้องถามไถ่และสังเกตพฤติกรรมของฆาตกร!

.

 ‘MINDHUNTER ล่าปมวิปลาส’ โดย Maxx Publishing

.

.

หนังสือที่รวบรวมประสบการณ์ 25 ปีตลอดการทำงานเป็นหน่วยสนับสนุนการสืบสวน (Investigative Support Unit) ใน FBI ของจอห์น อี. ดักลาส ซึ่งเขาใช้หลักจิตวิทยาในการอ่านความคิดฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนหลายคนในสหรัฐอเมริกา เรื่องราวในหนังสือได้ถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ฉายทางเน็ตฟลิกซ์

.

Mindhunter จะพาคุณเจาะลึกเบื้องหลังในหลายคดีที่ท้าทาย สยดสยอง ชวนขนลุก และน่าทึ่งตลอดระยะเวลา 25 ปีในสายอาชีพของการเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษประจำหน่วยสนับสนุนการสืบสวนของ จอห์น อี. ดักลาส เขากลายเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับผู้บังคับใช้กฎหมาย

.

ดักลาสตามจับฆาตกรต่อเนื่องอันโหดเหี้ยมหลายคน ตั้งแต่ชายผู้ไล่ฆ่าคนขายบริการเป็นกิจวัตรกลางป่าในอลาสกา ฆาตกรฆ่าเด็กที่แอตแลนตา รวมถึงคดีกรีนริเวอร์ในซีแอตเทิล ซึ่งทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดักลาสต้องประจันหน้า สัมภาษณ์ และศึกษาฆาตกรหลายคน รวมถึงชาร์ลส์ แมนสัน เท็ด บันดี้ ฆาตกรซึ่งลอกผิวหนังของเหยื่อมาสวมใส่อย่าง เอ็ด กีน

.

ดักลาสใช้ความสามารถอันพิลึกของเขาจำลองสถานการณ์ทั้งจากฝั่งผู้ล่าและเหยื่อ เขาวิเคราะห์แต่ละคดี นึกพิเคราะห์การกระทำของผู้ฆ่าและเหยื่อในความคิดของตน สร้างข้อมูลของพวกเขา อธิบายลักษณะนิสัยของพวกเขาและคาดการณ์เป้าหมายต่อไปของฆาตกร หนังสือเล่มนี้ยังเป็นต้นแบบสำคัญให้ตัวละคร แจ๊ค ครอว์ฟอร์ด ในนิยาย อำมหิตไม่เงียบ (The Silence of the Lambs) อีกด้วย

.

---

 

---

MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส