แมวญี่ปุ่น | เรื่อง แมว แมว ของ แมวญี่ปุ่น (ความเชื่อ-ประวัติศาสตร์-ตำนาน)

แมวญี่ปุ่น

แมวญี่ปุ่น | เรื่อง แมว แมว ของ แมวญี่ปุ่น (ความเชื่อ-ประวัติศาสตร์-ตำนาน)

 

แมวมีความสัมพันธ์กับมนุษย์อย่างแนบแน่นทั้งในด้านของอารยธรรมและประวัติศาสตร์มากว่า 9,500 ปี จึงไม่ค่อยแปลกใจนัก หากแมวจะสำคัญและกลายเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องเล่าและตำนานลึกลับอยู่บ่อยครั้ง

ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ให้ความสำคัญกับแมวมาก  เรียกได้ว่าเอะอะอะไรก็ แมว แมวจ๋าแมว นับถือแมวในเรื่องต่าง ๆ  ที่ต้องพูดถึงคือตุ๊กตาแมวญี่ปุ่นยอดนิยมอย่าง  Maneki-neko (มะเนะกิเนะโกะ) หรือ แมวกวักนำโชค ตุ๊กตารูปปั้นรูปแมวในท่ากวักมือ เชื่อกันว่าหากบูชาเอาไว้จะนำมาซึ่งพรมงคลและชีวิตดี ๆ แก่เจ้าของ

5 ความจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับ แมวญี่ปุ่น สายเทพ

แมวกวักนำโชค

หากใครเคยไปร้านรวงสัญชาติญี่ปุ่นหรือแม้แต่ร้านค้าฝั่งเอเชีย อาจจะเคยเห็นรูปปั้นเล็ก ๆ ของแมวสักตัวที่นั่งเกาะอยู่ตามมุมใดมุมหนึ่งเงียบ ๆ แมวที่คุณเห็นนี้คือแมวแห่งโชคลาภ ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า แมวกวักนำโชค
แมวกวักนำโชคเหล่านี้มักถูกตั้งไว้บริเวณหน้าทางเข้าของร้านค้าและสถานประกอบการธุรกิจ ตามความเชื่อที่เล่าต่อกันว่าจะพัดพาสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต นอกจากความโชคดีที่เชื่อกันมาแต่เดิม ยังมีสิ่งใดอีกที่แฝงมากับหน้าตาน่ารักของเจ้าแมวนี้

1.กวักทรัพย์ พัดโชคเข้าหา “มะเนะกิเนะโกะ”

แมวแห่งโชคดี ถูกรู้จักในชื่อ “มะเนะกิเนะโกะ” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “แมวที่กวักมือ” หรือตามตำนานที่เล่าว่าเจ้าแมวกวักมือเรียก เจ้าของจึงโชคดี เป็นคำศัพท์ที่แปลเหมือนกับคำว่า “Lucky Cat” “Money Cat” หรือ “Cat”

2.กว่าจะมายืนหนึ่งในตำแหน่ง “แมวแห่งโชคดี”

ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า “มะเนะกิเนะโกะ” ตัวแรกจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ส่วนใหญ่ยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า แมวแห่งโชคดี ปรากฏตัวครั้งแรกในยุคสมัยเอโดะ* (ศตวรรษที่ 17 – กลางศตวรรษที่ 19)

แมวญี่ปุ่น

มีตำนานมากมายเล่าเรื่องแมวแห่งโชคดีนี้ แต่ตำนานแรก ๆ ที่เล่าขานกันมายาวนาน คือตำนานของชายหนุ่มมั่งคั่งที่หลบฟายุฝนอยู่ใต้ต้นไม้ข้างวัด เขาสังเกตเห็นแมวตัวหนึ่งกวักมือเรียกให้เข้าไปในวิหาร จึงเดินตามมันเข้าไป ไม่ทันได้หายใจสายฟ้าก็ฟาดลงมาตรงที่ที่เขาเคยยืนหลบฝนอยู่ ต้นไม้หักโค่นระเนระนาด เขารอดชีวิตราวปาฏิหาริย์และรู้สึกว่าแมวตัวนั้นคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต ต่อมาจึงนำเงินมาทำนุบำรุงวัดวาอารามนั้นและทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของแมวดีขึ้น กระทั่งก่อนที่เขาจะล่วงลับ จึงสร้างรูปปั้นแมวทิ้งไว้เพื่อเป็นเกียรติให้คนรุ่นหลังได้จดจำ

แมวญี่ปุ่น

อีกตำนานหนึ่งคือเรื่องแปลกแต่เล่าต่อกันมาช้านาน ว่ากันว่ามีเกอิชาหน้าตาสะสวยเลี้ยงแมวคู่ใจเอาไว้ตัวหนึ่งและเธอก็รักมันมาก แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าแมวได้ตะบบชุดกิโมโนของเธอจนหลุดรุ่ย เจ้าของโรงน้ำชาที่เธออาศัยอยู่วิตกว่าแมวตัวนั้นจะถูกครอบงำด้วยปีศาจ จึงฟันหัวของมันด้วยดาบยาว ระหว่างที่งูร้ายตัวหนึ่งที่กำลังจะกัดเกอิชาพอดี หัวแมวหลุดลอยละล่องลงมาปะทะกับงูจึงช่วยชีวิตเกอิชาได้ทันควัน เกอิชาเสียใจกับการสูญเสียแมวที่รักอย่างมาก จนหนึ่งในแขกของเธอสงสาร และสร้างรูปปั้นแมวขึ้นเพื่อให้เธอระลึกถึงและเชิดชูความดีของมัน



3.อุ้งเท้าที่ยก ให้โชคต่างกัน

ว่ากันว่าอุ้งท้าที่ยกขึ้นของแมวนำโชคนี้ให้ความหมายที่แตกต่างกัน หากเป็นอุ้งเท้าซ้าย จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้าน และหากเป็นอุ้งเท้าขวา จะช่วยในเรื่องของโชคดีและเงินทอง ฟังแล้วดูเข้าท่าทั้งสองแบบ ในยุคปัจจุบันจึงมีบางรูปปั้นที่ยกอุ้งเท้าทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกัน และแทรกความหมายให้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอัปมงคลเข้าไปด้วย

แมวญี่ปุ่น


4.สีสันของแมว ให้ความหมาย

โดยทั่วไปเรามักจะเห็น “มะเนะกิเนะโกะ” ลำตัวสีขาว แต้มจุดสีส้ม หรือ สีดำ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าแมวนำโชคนี้มีสีสันมากมาย และให้ความหมายที่แตกต่างกัน

แมวญี่ปุ่น



5.ของประดับ ไม่ได้ใส่มาเฉย ๆ

แม้แต่ของประดับตกแต่งของ “มะเนะกิเนะโกะ” หรือแมวนำโชคก็มีความหมาย เพราะในสมัยเอโดะนั้นเป็นเรื่องปกติที่คนรวยมั่งคั่งจะจัดแจงแต่งกายสัตว์เลี้ยงของตน เช่น แมว ให้ดูหรูหราฟู่ฟ่าเหมาะสมฐานะ รวมถึงการสวมระฆังขนาดเล็กบริเวณคอเพื่อให้สามารถติดตามเบาะแสของแมวได้

แมวญี่ปุ่น

สิ่งที่แมวนำโชคมักถือเอาไว้ที่อุ้งเท้า ได้แก่
  1. เหรียญทองคำโคบัง: เหรียญนำโชคยุคเอโดะ เชื่อกันว่าจะนำความมั่งคั่งและโชคดีมาให้
  2. ค้อนเงินวิเศษ: ถ้าเห็นแมวกวักถือค้อนเมื่อไหร่ นั่นแสดงถึงความมั่งคั่ง การเขย่าค้อนจะหมายถึงการดึงดูดความมั่งคั่งให้เข้ามาในชีวิต
  3. ปลาตัวหนึ่ง (ที่ลักษณะคล้ายปลาคาร์พ): ปลาเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์
  4. หินอ่อนและอัญมณี: เชื่อว่าหมายถึงภูมิปัญญาและสติปัญญา
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอื่นที่จะพบแมวนำโชคถือ ได้แก่ น้ำเต้า, หัวไชเท้า และก้อนโลหะ ซึ่งทั้งหมดหมายถึงความมั่งคั่งและโชคดี

ประวัติศาสตร์ชาติ แมวญี่ปุ่น

ประวัติศาสตร์เล่าว่าแมวอยู่คู่ประเทศญี่ปุ่นมากว่า 500 ปีแล้ว จากเดิมที่อยู่คู่วัดวาอารามเพื่อคุ้มครองอาณาบริเวณจากเหล่าหนูและสัตว์สร้างความรำคาญ แมวจึงถือเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์มาโดยตลอด ในสมัยนั้นแมวจะมีเจดีย์ส่วนตัว ไม่ขึ้นกับใคร ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่าอย่างมาก จนในศตวรรษที่ 10 เริ่มมีเหล่าขุนนางหรือชนชั้นสูงนำมาเลี้ยงและเป็นเจ้าของและทำให้ประชากรแมวตามธรรมชาติลดลง

แมวญี่ปุ่น

เมื่อการเลี้ยงเป็นส่วนตัวทำให้ประชากรแมวทั่วญี่ปุ่นลดลงอย่างรวดเร็ว หนูและสัตว์ต่าง ๆ เริ่มออกมาสร้างความปั่นป่วนอีกครั้ง จนกระทั่งรัฐบาลญี่ปุ่นต้องสั่งให้ผู้มีแมวในครอบครองต้องปล่อยให้แมวออกมาเป็นอิสระบ้าง เพื่อจำกัดหนูและสืบพันธ์ตามธรรมชาติ

แมวญี่ปุ่น


เรื่องแมว แมว สู่สื่อเริงใจ

ทุกวันนี้เราจะเห็นแมวได้ในทุกที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น จาก อนิเมะ และ ภาพยนตร์ต่าง ๆ  ทั้ง Kirara จาก Inuyasha, หุ่นยนต์ Doraemon ผู้โด่งดัง, Luna จาก Sailor Moon, Catbus จาก My Neighbor Totoro, Meowth จาก Pokemon, She and her cat และอื่น ๆ ที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

แมวญี่ปุ่น

 

 


คาเฟ่แมวทั่วโลก

ความรักในแมวนี้ยังขยายตัวไปไกลกว่านวนิยายและสื่อต่าง ๆ เพราะมันรวมถึงสถานที่ เช่น คาเฟ่คนรักแมว ที่สามารถลูบคลำและเล่นกับน้องแมวระหว่างที่ดื่มกาแฟได้ แต่ด้วยกฎหมายของทางญี่ปุ่นที่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงแมวในร้านกาแฟ (รวมไปถึงร้านอาหาร) ร้านประเภทนี้จึงค่อย ๆ หายไปจากประเทศญี่ปุ่น ในปี 2012 แต่ลุกลามไปยังลอนดอนและนิวยอร์ก ซิตี้ แทนในช่วงปลายปี 2013 นั่นเป็นจุดกำเนิดคาเฟ่แมวแห่งแรกในแถบยุโรป อย่าง “Cat Emporium” และ “Meow Parlor” ที่เปิดให้บริการในช่วง ปี 2014

เธอและแมวตัวนั้น


เกาะแน่น ๆ (แน่นไปด้วยแมว)

อีกสถานที่ที่น่าสนใจอย่างมากคือ “เกาะแมว” ใน Aoshima ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในเกาะแมวกว่า 11 แห่งทั่วญี่ปุ่นที่มีจำนวนแมวมากกว่ามนุษย์ในอัตราส่วน “แมว 6 ตัว ต่อ มนุษย์ 1 คน” เนื่องจากเกาะนี้มีผู้อาศัยเพียง 15 คนเท่านั้นและส่วนใหญ่เป็นชาวประมงผู้สูงอายุกับภรรยาของเขา ดังนั้นเหล่าบรรดาแมวจึงถูกเลี้ยงดูอย่างดี เดินเตร่ อยู่ดี กินดี แถมยังมีพยาบาลหมู่บ้านคอยดูแลสุขภาพและให้อาหารพวกมันทุกวัน

 


แมวสายดาร์ค ของญี่ปุ่น

อย่าพึ่งคิดเอาเองว่าเลี้ยงแมวแล้วมีแต่เรื่องดี ๆ หากยังไม่รู้จักกับ ปีศาจแมว Bakeneko (บาเกะเนะโกะ) แมวที่สามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ แม้แต่มนุษย์ และ Nekomata (เนะโกะมะตะ) แมวหางสองแฉก

เธอและแมวตัวนั้น

Bakeneko (บาเกะเนะโกะ)

Bakeneko (บาเกะเนะโกะ) หรือที่ถูกเรียกประจำว่า “แมวผี” “แมวปีศาจ” แต่หากให้ถูกต้องที่สุดเห็นจะเป็น “แมวแปลงร่าง” ที่สร้างตำนานด้วย “ปลา”

เธอและแมวตัวนั้น

จริง ๆ แล้วแมวไม่ได้มีถิ่นฐานกำเนิดในญี่ปุ่นเสียทีเดียว แต่ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในรูปแบบของ “เสือที่สามารถให้อาหารด้วยมือได้” เพื่อทำหน้าที่เฝ้าบ้าน ดูแลความปลอดภัย และจับหนูผู้หิวโหย

เธอและแมวตัวนั้น

เพราะชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในยุคนั้นจะทำเกษตรกรรม ทำให้หนูและสัตว์สร้างความรังควานเยอะ แมวถูกกำหนดหน้าที่ให้เป็นผู้กำจัด เพื่อแลกกับอาหารต่อวันอย่างเศษผักที่เหลือใช้จากสวนหรือเศษอาหารที่เหลือทิ้ง อย่างไรก็ตามแมวเป็นสัตว์กินเนื้อและมันก็ไม่ได้ชอบผักใบเขียวเท่าไหร่นัก มันจึงเสาะหาเนื้อสัตว์ในระยะใกล้จนได้มาเจอเข้ากับน้ำมันปลาจากตะเกียงไฟของเจ้าของมันนั่นแหละ

เธอและแมวตัวนั้น

เมื่อแมวจอมหิวโหยโหยหาโปรตีนนี้อย่างมาก สิ่งที่พวกมันจะทำคือยืนสองขา ในลักษณะยืนด้วยขาหลังและยืดตัวยาวไปให้ถึงตะเกียงน้ำมัน เพื่อเลียน้ำมันปลาในตะเกียงไฟที่เจ้าของใช้เป็นเชื้อเพลิง ความมืดและแสงสลัวจากแสงไฟในตะเกียง สะท้อนเงาแมวตัวยืดยาวยืนสองขา ที่ดูคล้ายคลึงกับมนุษย์ เมื่อเจ้าของพบเข้าจึงตื่นตระหนก ตกใจจนเชื่อมโยงเจ้าแมวเข้ากับเงาสะท้อน กลายเป็น แมวผีแปลงร่าง Bakeneko (บาเกะเนะโกะ) ในที่สุด

เธอและแมวตัวนั้น

Nekomata (เนะโกะมะตะ)

นอกจากนี้ยังมีแมวที่น่ารังเกียจอย่าง Nekomata (เนะโกะมะตะ) แมวที่ชอบไล่ล่าและโจมตีมนุษย์ในยุคคามากูระ* (ปี 1185 – 1333) เรื่องราวของ Nekomata (เนะโกะมะตะ) ถูกพูดถึงในแง่ของสัตว์ร่างใหญ่มหึมาที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเทือกเขาใหญ่ มันรอคอยผู้สัญจรที่ไม่ระวังอันตราย อาศัยจังหวะเพื่อตะครุบฆ่านำไปเป็นอาหาร

เธอและแมวตัวนั้น

ต่อมาในยุคเอโดะ เชื่อกันว่า Nekomata (เนะโกะมะตะ) คือแมวที่เคยอาศัยอยู่ตามบ้านและหนีออกจากบ้านไปยังเทือกเขา เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหางของพวกมันจะแยกออกเป็นสองแฉก จึงถือเป็นการแปลงกายสู่ เนะโกะมะตะ ที่สมบูรณ์

เธอและแมวตัวนั้น

The Spirit of the Cat Stone หินแมวผี  Nekomata (เนะโกะมะตะ) โด่งดังมากในยุคที่การเล่นคะบุกิ* เป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 19


Sources:
  1. She and Her Cat – เธอและแมวตัวนั้น
  2. 5 Interesting Facts About Maneki Neko (Lucky Cats or Fortune Cats)
  3. มะเนะกิเนะโกะ
  4. ยุคเอโดะ
  5. เขตเกอิชาของกรุงโตเกียว
  6. Cultural depictions of cats
  7. ยุคคามากูระ
  8. Cats Purr-vade Japan’s History and Culture
  9. Maneki Neko: The lucky cats of Japan
  10. En Tokio está el mejor templo de gatos para los ‘Instagramers’
  11. The Viral Cat Pictures of Japan’s Edo Period
  12. The Enchanting History Of Geisha
  13. Why Are Calico Cats Always Female?
  14. Cat Obsession Has A Long Multi-Cultured History In Japan
  15. Snapshot: Inside London’s First Cat Café
  16. Meow Parlor, NYC’s First Permanent Cat Café Opens Monday
  17. Cats Rule Japan’s Aoshima Island, Also Known as “Cat Island”
  18. A Visit to Aoshima, a Japanese ‘Cat Island’

ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore

MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040