เรื่องเพศเรียนรู้
เรื่องเพศ
เรื่องเพศ ใครว่าเป็นเรื่องเปิดกว้าง เมื่อผู้ปกครองบางบ้านยังขีดกรอบเกณฑ์ให้การเรียนรู้สำหรับเด็กอยู่แค่ในสนามเด็กเล่น
หนังสือเพศศึกษาสำหรับเด็กควรหอมหวานกว่าความเป็นจริง …จริงหรือ?
ตามธรรมชาติของเด็กแล้วจะมีความสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง พร้อมทั้งเริ่มตั้งคำถาม ซักไซ้หาคำตอบ อันเป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้เรื่องเพศตามพัฒนาการด้านต่าง ๆ สำหรับช่วงวัยนั้น ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม การอธิบายเรื่องเพศให้เด็กเล็ก ๆ ฟังได้อย่างเข้าใจนั้น ดูไม่ง่ายเลย และอาจเป็นเหมือนการโยนระเบิดใส่ผู้ปกครองเข้าอย่างจัง หลายคนประสบปัญหาน้ำท้วมปากชี้โบ๊ชี้เบ๊ และอีกหลายคนกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา ถึงกับทำให้เด็กหลายคนมีความเข้าใจในเรื่องเพศแบบผิด ๆ เลยก็มี แต่โชคดีที่หนังสือจำนวนไม่น้อยถูกสร้างมาเพื่อตอบคำถามที่น่าสงสัยเหล่านี้ อีกทั้งยังสร้างพื้นฐานที่ดีสำหรับการเปิดกว้างเรื่องเพศศึกษาอย่างแจ่มแจ้ง
หนึ่งในหนังสือเหล่านั้น คือ หนังสือ “The Amazing True Story of How Babies Are Made” โดย Fiona Katauskas หนังสือภาพการ์ตูนที่การอธิบายถึงเพศสัมพันธ์จากภาพวาดเข้าใจง่าย แต่มาจากเรื่องราวจริง อธิบายชัดเจน ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม เด็กออกมาจากไหนเขาต้องรู้ …และที่แน่ ๆ ไม่ใช่กระบอกไม้ไผ่!
เพราะเหตุนี้ หนังสือเล่มนี้จึงถูกบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองสายพิทักษ์ปกป้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของเนื้อหา อันเนื่องมาจากภาพการ์ตูนในหนังสือเล่มดังกล่าว “ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์เกินไป” (ฉันรับไม่ได้ อกอีแป้นจะแตก) อีกทั้งยังไม่หอมหวานนิ่มนวล เหมือนบอระเพ็ดเคลือบน้ำตาล เมื่อกล่าวถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์และการปฏิสนธิ
นี่มันหนังสือสำหรับ เด็กน้อยและเยาวชนตาใส ๆ นะยะ
จะเขียน “ความจริง” ทั้งหมดได้อย่างไร?
เรื่องเพศ
ภาพด้านบนเป็นภาพจากหนังสือเล่มดังกล่าว อธิบายถึงคู่รักนอนเปลือยกายอยู่ด้วยกัน ก่อนแสดงถึงแผนภาพของอวัยวะเพศของผู้ชายภายในช่องคลอดของผู้หญิง เมือภาพนี้ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมอย่าง FACEBOOK โดย Account “Auburn 2144” ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ปกครองจำนวนมาก ว่าภาพการ์ตูนดังกล่าวมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย และยังชัดเจนแจ่มแจ้งจนเกินไปอีกต่างหาก
เพศ
เอาจริงสิ? ภาพอะไรแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในหนังสือเด็ก
หรือความเห็นอย่าง
โอ้พระเจ้า นี่จริงเหรอ? มีเวลาพอสำหรับจะเตรียมพร้อมเรื่องนี้นะ ให้เด็กยังเป็นเด็กต่อไปเถอะ พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้หรอก
เรื่องเพศ
แม้มีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่กระโดดถือโล่มาพิทักษ์ลูกน้อยของตนจากความลามกอนาจารดังกล่าว แต่ก็ไม่ใช่จำนวนทั้งหมดที่รู้สึกว่าถูกรุกรานด้วยหนังสือเล่มนี้
เรื่องเพศ
ผู้ปกครองที่จะซื้อหนังสือพวกนี้เพราะคิดว่ามันจะเป็นวิธีการสอนที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับลูก ๆ ของพวกเขา ถ้าคุณไม่ต้องการซื้อ คุณก็ไม่ต้องซื้อสิจ๊ะ
หรืออีกความเห็นหนึ่ง เช่น
ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกตินี่ ฉันว่าจะไปซื้อให้ลูกชายของฉันพรุ่งนี้ ให้เขาเรียนรู้ความจริงในหนังสือที่มีรสนิยมเล่มนี้ดีกว่าความสุขหอมหวานในสนามเด็กเล่นตั้งเยอะ
เรื่องเพศ
จนกระทั่งผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าวออกมาอธิบายถึงที่มาที่ไปของหนังสือ ว่ามันเกิดจากที่ลูกชายคนโตของเธอถามว่า “ทารกมาจากไหน” และเธอตอบมันไม่ได้…
เรื่องเพศ
จากความขุ่นมัวที่หาคำตอบอันเหมาะสมให้คำถามของลูกชายไม่ได้ นำไปสู่การตัดสินใจเขียนหนังสือของตัวเองที่วางวัตถุประสงค์หลัก ๆ เอาไว้ก็เพื่อตอบคำถามแสนซื่อของเด็กน้อย อย่าง “ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา” แม้จะทราบถึงความแตกต่างในการเลี้ยงดูของแต่ละคนดี ว่าหัวข้อดังกล่าวอาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับบางบ้าน และพ่อแม่บางคนอยากจะให้มันซอฟต์กว่านี้ แต่เธอก็ไม่เลิกล้มอุดมการณ์ และมีหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาจนได้
เพศ
ไม่ใช่แค่หนังสือเล่มนี้หรอกนะที่มีประเด็นความไม่เหมาะสมจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะตำราเพศของจีนก็ถูกสังคมประนามจนเป็นประเด็นร้อน
หนังสือเพศศึกษา
ตำราดังกล่าวชื่อว่า “珍爱生命:小学生性健康教育读本” จัดทำโดยมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่ง (Beijing Normal University (BNU)) ถูกสร้างขึ้นเพื่อสอนเรื่องเพศศึกษาให้กับเด็กนักเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 2 ขึ้นไป และแล้ววันหนึ่งก็มีคุณแม่ชาวกว่างโจวคนหนึ่งนำภาพบางส่วนของหนังสือโพสต์ลงสื่อสังคมเพื่อสอบถามความคิดเห็นของชาวเน็ตว่า:
หนังสือเพศศึกษา
นี่คือแบบเรียนที่เหมาะสมกับเด็กจริงหรือ? เพราะภาษาที่ใช้รุนแรงเกินไปสำหรับเด็ก 7 ขวบอย่างมาก
หนังสือเพศศึกษา
โอ้ละพ่อ งานนี้ทำเอาเหล่าบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองออกโรงไฟลุก แสดงความคิดเห็นตามมุมมองของตนอย่างคึกคัก
พ่อแม่ร่วมรักกัน โดยองคชาติของพ่อสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดของแม่ จนอสุจิจากพ่อเข้าไปอยู่ในมดลูกของแม่
ข้อความจาก บทที่ 1 การกำเนิดมนุษย์ ในแบบเรียนดังกล่าว
珍爱生命 ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2553 ปัจจุบันใช้ในการเรียนการสอนของโรงเรียนประถมในปักกิ่ง กว่า 10 โรงเรียน
ประเทศเนเธอร์แลนด์มีกฎหมายการศึกษาที่ระบุให้นักเรียนประถมศึกษาทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาเรื่องเพศ และมีแนวโน้มที่จะสอนเรื่อง “เพศวิธีศึกษา” ในกลุ่มนักเรียนอนุบาลอีกด้วย
หนังสือเพศศึกษา
-
เด็ก 4 ขวบจะเริ่มเรียนรู้เรื่องความแตกต่างทางเพศ และเพศศึกษารอบด้าน
-
เด็กวัย 8 ขวบ จะเริ่มเรียนรู้เรื่องภาพของตนเอง และภาพเหมารวมด้วยเพศศึกษา
-
เด็กวัย 11 ขวบ จะเริ่มพูดคุยเรื่องวิถีเพศและการคุมกำเนิดต่าง ๆ
หนังสือเพศศึกษา
หนังสือเพศศึกษา
การศึกษาดังกล่าวจะมีหลักการพื้นฐานสำคัญบางประการ ได้แก่ ความหลากหลายทางเพศ, การยืนหยัดปกป้องสิทธิทางเพศ (ทั้งการเคารพรสนิยมทางเพศ, ทักษะป้องกันตนเองจากการถูกบังคับข่มขู่ทางเพศ) ,การคุกคามทางเพศ และ การล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่เรื่องเพศศึกษา แต่ยังรวมไปถึงเรื่องความรักและสัมพันธภาพ อันถือเป็นกระบวนการสำคัญที่เยาวชนจะต้องเรียนรู้และเผชิญเพื่อเข้าถึงข้อมูลได้อย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์
หนังสือเพศศึกษา
หนังสือเพศศึกษา
นอกจากหลักสูตรเพศศึกษาที่มีในหลักสูตรการเรียนการสอนแล้ว เนเธอร์แลนด์ ยังมีหนทางต่าง ๆ ที่ทำควบคู่เพื่อให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าถึงการคุมกำเนิดได้สะดวกมากขึ้น เช่น ถุงยางอนามัยหาซื้อได้ตามตู้หยอดเหรียญ ยาคุมกำเนิดแจกฟรีสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี เป็นต้น
หนังสือเพศศึกษา
ถ้าคุณมองว่าความรักและสัมพันธภาพเป็นรากของเพศสัมพันธ์แล้วล่ะก็ คุณจะเห็นว่าการพูดคุยกับลูกๆ เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดายมากขึ้น แม้ลูกจะยังเล็กอยู่ก็ตาม
เอมี่ ชาเล็ต นักสังคมวิทยาชาวอเมริกันที่เติบโตในเนเธอร์แลนด์
พ่อแม่ผู้ปกครองบางคนไม่รู้จะเริ่มต้นการคุยเรื่อง “เพศ” กับลูกน้อยอย่างไร มาดูข้อมูลนี้ อ้างอิงจากการพัฒนาของเด็กในแต่ละขั้นวัย จากคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย สรุปเอาไว้ว่า
หนังสือเพศศึกษา
2 – 5 ปี
เริ่มเรียนรู้ความแตกต่างของร่างกายระหว่างเด็กชายและเด็กหญิง อยากรู้อยากเห็นส่วนประกอบและรูปร่างของเพศตรงข้าม เริ่มแยกแยะบทบาททางเพศและเริ่มเลือกบทบาททางเพศของตนเอง ดังนั้นช่วงนี้ควรสอนให้เด็กรู้จักส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเชิงบวก ทั้งการป้องกันตัวเอง ปกป้องของสงวน หรือความเหมาะสมในการจับต้องอวัยวะเพศของตนและบุคคลอื่น แต่ไม่ควร ลงโทษ ดุ หรือขู่ ให้เด็กเข้าใจว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ผิดเด็ดขาด
หนังสือเพศศึกษา
6 – 10 ปี
เริ่มเขินอายที่จะพูดเรื่องเพศ เริ่มมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อยากรู้ เช่น เด็กเกิดมาได้ยังไง, ทารกมาจากไหน, ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานยังไง หรือเริ่มรู้จักโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ ดังนั้นควรอธิบายและให้ข้อมูลด้วยความรู้ที่ถูกต้องและตรงไปตรงมา ไม่ควรอ้อมค้อมให้เข้าใจผิดและสับสน รวมถึงเรื่องโรคทางเพศสัมพันธ์จำเป็นต้องสอนวิธีต่าง ๆ เพื่อป้องกันโรคทางเพศ ทั้งการคุมกำเนิด และ การป้องกันโรค
หนังสือเพศศึกษา
11 – 12 ปี
ระยะแรกในการเข้าสู่วัยรุ่น มีการหลั่งฮอร์โมนและเกิดสิ่งแปลกใหม่ขึ้นกับร่างกาย เด็กหลายคนมีความวิตกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และเมื่อมีการพูดคุยกับเพื่อนวัยเดียวกัน หรือมีสิ่งเร้า จะเริ่มอยากมี “แฟน”
-
สอนให้รู้จักความเปลี่ยนแปลงนี้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก เช่น การมีประจำเดือน, การแข็งตัวของอวัยวะเพศ รวมถึงความรู้สึกทางเพศ และ การฝันเปียก
-
สอนให้รู้จักสิ่งที่ “ควร” และ “ไม่ควร” ให้เหมาะสมกับช่วงวัย ทั้งการสงวนตัว, การระวังตัว, การปฏิเสธ รวมถึงปัญหาการตั้งครรภ์และการติดเชื้อโรค ทั้งนี้ทั้งนั้นพยายามอย่า “ขู่” และ “บังคับ” แต่สอนให้รู้จักสิ่งถูกผิดในทิศทางที่เป็นจริง ตรงไปตรงมา
หนังสือเพศศึกษา
เปิดใจมองเรื่องเพศให้เป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ เพื่อปัญหาที่ไม่บานปลายและต้องมาแก้ไขกันทีหลัง
เรียนรู้เรื่องเพศศึกษาจากภาพยนตร์
.
-
รักหวานน้อยไม่ใส่น้ำตา คลิก
เรียนรู้เรื่องความรักและสัมพันธภาพในแบบฉบับจิตวิทยาผ่านภาพยนตร์
.
-
Wakeup ชะนี! (ตื่นเถอะค่ะ! ชะนีขา) ฉบับเปลี่ยนปก คลิก
เรียนรู้เรื่องความรักและสัมพันธภาพผ่านปลายปากกาคุณหมอ
Sources|
-
Educate your inbox. Subscribe to ‘Here’s the Deal,’ our politics newsletter
-
PARENTS DIVIDED OVER ‘INAPPROPRIATE’ SEX EDUCATION BOOK FOR YOUNG CHILDREN
-
珍爱生命系列小学生性教育读本又出新书 曾备受争议
-
对《珍爱生命—小学生性健康教育读本》引发讨论的回应
-
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
-
How the Dutch Do Sex Ed
หนังสือเพศศึกษา
ติดตามข่าวสารและซื้อหนังสือออนไลน์ผ่าน mbookstore
MTHAI BOOK | อ่านสนุก ทุกวัน ทันกระแส