MThai
Video
Seeme
ฉากของนวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองเล็กๆ ในอิสราเอล และพูดถึงบทบาทของ Dovaleh Greenstein ตัวเอกผู้มีอาชีพเป็น “ตลกคาเฟ่” ตั้งแต่การขึ้นไปยืนบนเวที เล่นมุกจาบจ้วง ไปจนถึงการก่อความผิดพลาดที่ไม่อาจหวนคืน และสิ่งนั้นก็หวนกลับมาหลอกหลอนเขาไปจนชั่วชีวิต
จุดเด่นของเรื่องนี้คือการฉายภาพไปที่ผลพวงแห่งความเศร้าโดยปราศจากร่องรอยความรู้สึกอ่อนไหว ตัวละครที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องทั้งเป็นคนช่างท้าทายและไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ดึงดูดความสนใจของเราได้อยู่หมัด เราต่างถูกดึงดูดเข้าสู่โลกของ David Grossman ด้วยทุกประโยค ทุกถ้อยคำในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยมของประดิษฐกรรมทางงานเขียนที่ส่งผลต่อผู้อ่าน นักวิจารณ์ต่างมองว่า นี่ไม่ใช่แค่หนังสือเกี่ยวกับประเทศอิสราเอล แต่เป็นเรื่องของคนและสังคมที่ประสิทธิภาพบกพร่อง แล้วบางครั้งเราก็ทำได้แค่พูดถึงสิ่งเหล่านี้ผ่านเรื่องเล่า Grossman เองก็เหมือน Dovaleh ตัวเอกในเรื่องที่เขาเขียน คือเป็นเจ้าแห่งการเล่านิยายที่เกิดขึ้นจริง
โดยส่วนตัว Grossman นั้น นอกจากจะเป็นนักเขียนนวนิยายแล้ว เขายังเคยเขียนสารคดีและหนังสือสำหรับเด็กที่ได้รับการแปลมากกว่า 36 ภาษาทั่วโลกด้วย Grossman เกิดและใช้ชีวิตในเยรูซาเล็ม และทุกวันนี้เป็นที่รู้จักในฐานะนักเขียนระดับโลก เจ้าของเหรียญอิสริยาภรณ์ศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ชั้นอัศวิน (รางวัลเดียวกันกับที่ แดนอรัญ แสงทอง ได้รับ) รางวัล Buxtehuder Bulle (รางวัลวรรณกรรมเยาวชน) แห่งเยอรมนี และอื่นๆ อีกมากมายทั้งจากโรม แฟรงค์เฟิร์ต และประเทศอิสราเอลเอง
และในตอนนี้ ชื่อของ Grossman ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ชนะรางวัลนี้เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นผลงานที่ได้รับเลือกท่ามกลางผลงานทั้งหมด 126 เล่ม หลังจากที่คณะกรรมการคัดจนแหลือ longlist 13 เล่ม และ shortlist 6 เล่ม สำหรับรางวัล 50,000 ปอนด์ที่เขาได้ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะแบ่งให้กับ Jessica Cohen ผู้แปลหนังสือของเขาเป็นภาษาอังกฤษนั่นเอง
ข้อมูลจาก : The Guardian และ Time Magazine
