5 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่า การอ่านสำคัญกับสุขภาพของคุณ

ตั้งแต่จำความได้ คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครู ก็ให้เราอ่านหนังสือให้ได้อย่างน้อยวันละเล่ม ตอนเด็กอาจจะยังไม่รู้หรอกว่า ทำไมผู้ใหญ่ถึงโน้มน้าวให้อ่าน แต่พอเติบโตขึ้นถึงได้รู้ว่า การอ่านจำเป็นมากแค่ไหนในการสร้างองค์ความรู้ให้กับตัวเอง เพราะหนังสือนอกเหนือจากจะให้ข้อเท็จจริงและความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมแล้ว มันยังมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งบอกว่า การอ่านเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์สำหรับสุขภาพและร่างกายของคุณ มาดูกันสิว่า การอ่านสัมพันธ์กับสุขภาพด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อย่างไร

          1. ปรับปรุงหน่วยความจำและเชื่อมต่อความรู้ที่มี
          เคน พัคห์ ประธานและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Yale’s Haskins Labratories ได้พูดถึงการอ่านได้อย่างน่าสนใจว่า “การอ่านจะช่วยยกระดับสมองในเรื่องความจำของคุณได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยจัดการวิสัยทัศน์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ในหัวได้เป็นอย่างดี”
          คนที่อ่านหนังสือที่มีความซับซ้อนมากขึ้น หน่วยความจำของคุณจะทำงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งการอ่านหนังสือที่มีความซับซ้อนเหล่านี้ จะช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์อย่างได้ผล โดยได้รับการยืนยันจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์ Rush ในเมืองชิคาโก้ว่า สมองของคุณจะได้รับการออกกำลังกายจากการอ่านหนังสือเหล่านี้ ยิ่งอ่านและกระตุ้นสมองมากเท่าใด ยิ่งปกป้องหน่วยความจำของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น
          นอกจากนี้ ผลการศึกษาของ Emory University ที่ตีพิมพ์เรื่องการเชื่อมต่อของสมอง (Brain Connectivity) ยังพบอีกว่า การอ่านช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อในสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการทำงานของสมองได้เต็มกำลัง โดยมหาวิทยาลัยได้ศึกษาจากผู้อ่านนวนิยายแล้วพบว่า คนอ่านเหล่านั้นใส่ใจในรายละเอียดของนวนิยายได้มากขึ้น มีจินตนาการและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์จากสิ่งที่อ่านได้อย่างต่อเนื่อง

          2. ลดระดับความเครียด
          เมื่อขดตัวอยู่บนที่นอน อ่านหนังสือดีๆ สักเล่มในช่วงเวลาสุดท้ายของวัน รู้สึกไหมว่า ความเครียดที่เคยมีอยู่ทุเลาเบาบางลง มันมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ นักวิจัยจาก Mindlab International จากมหาวิทยาลัย Sussex กล่าวว่า “การอ่านหนังสือเพียง 6 นาที ช่วยลดระดับความเครียดได้ถึง 68 เปอร์เซ็นต์” จากการศึกษาเพิ่มเติมยังค้นพบอีกว่า ผู้เข้าร่วมที่อ่านหนังสือผ่อนคลายจากความเครียดมากกว่าการเดินหรือฟังเพลงทั่วไป
          หนังสือช่วยให้หลบหนีจากความกังวลและความเครียดในโลกแห่งชีวิตประจำวันไปได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักพักอย่าง 6 นาทีที่เขาได้ศึกษามา ก็ดีต่อใจในการผ่อนคลายตัวเองแล้ว

3. บำบัดตัวเองได้
ศาสตราจารย์คริสเทล รัสเซล แห่ง American University ผู้วิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค ได้ศึกษาเกี่ยวกับ ‘การบริโภคหนังสือและภาพยนตร์ซ้ำ’ ค้นพบว่า คนที่มีส่วนร่วมในการอ่านและชมนี้ ไม่ใช่แค่เพียงต้องการสนุกกับหนังสือหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงการค้นหาความหมายใหม่ในตัวของผู้อ่านหรือผู้ชมเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทบทวนสิ่งที่คุ้นเคยในมุมมองใหม่ ซึ่งคนคนนั้นจะมองเห็นตัวเองจากสิ่งที่สะท้อนออกมาจากหนังสือและภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจน

4. เพิ่มความสนใจในตัวเอง
สื่อใหม่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่คนเราจะมีช่วงความสนใจที่สั้นกว่าเดิม แต่นักวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาอย่าง บารอน ซูซาน กรีนฟิลด์ได้กล่าวไว้ว่า “การอ่านช่วยเรื่องความสนใจได้ตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องด้วยโครงสร้าง (จุดเริ่มต้น กลาง และปลาย) ของเรื่องราวที่อ่านอย่างง่ายๆ จะช่วยให้สมองเด็กประมวลผลสิ่งต่างๆ ตามลำดับขั้นตอนได้ดีขึ้น เชื่อมโยงให้พวกเขาคิดได้อย่างชัดเจน และดึงดูดความสนใจในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น”

          5. ช่วยให้คุณมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น
          นักวิจัยจาก Fountain of Youth ได้ค้นพบว่า การอ่านนั้นช่วยให้คุณอ่อนเยาว์ลงได้ ตามคู่มือสุขภาพครอบครัวของโรงเรียนแพทย์ Harvard ซึ่งการอ่านหนังสือ และกิจกรรมกระตุ้นจิตใจอื่นๆ สามารถสร้างการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างเซลล์ประสาทได้ โดยการเชื่อมต่อใหม่นี้ จะเป็นการทดแทนเซลล์สมองส่วนที่สูญเสียไป
          นักวิจัยในสหราชอาณาจักรก็ค้นพบว่า การอ่านหนังสือในชุมนุมหรือคลับ ช่วยให้คุณมีชีวิตได้ยาวนานขึ้น สำหรับคนวัยเกษียณ สโมสร ชุมนุม หรือคลับหนังสือ ช่วยให้เชื่อมต่อกับสังคมโลกภายนอก และมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมได้ตลอดเวลา เพียงแค่คุณออกไปเจอคนคอนหนังสือเหมือนกัน แค่นี้คุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณก็ดีขึ้นเป็นกอง